จากกรณีช่วงค่ำของวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา เกิดเรื่องราวน่าสลดใจเป็นเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิตถึง 2 ราย ที่ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ทราบชื่อคือ เด็กชายปุญญภัทร หรือ น้องนะโม อายุ 7 ขวบ และเด็กชายทินภัทร หรือ น้องเชฟ อายุ 10 ขวบ โดยเด็กทั้งสองคนได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงบ่าย กระทั่งช่วงค่ำหลังจากที่ผู้ปกครองของเด็กตามหาเท่าไรก็ไม่เจอตัว แต่กลับไปพบเสื้อผ้าวางกองอยู่ที่ริมสระน้ำ เห็นท่าไม่ดีจึงโทร. แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยค้นหา จนท้ายที่สุดในเวลา 21.00 น. ก็เจอร่างของเด็กชายทั้งสองคนจมอยู่ก้นสระน้ำ ก่อนจะนำร่างขึ้นมาบนฝั่งท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว ญาติ และเพื่อนบ้านที่มาช่วยกันค้นหา
ล่าสุดวันนี้ (24 เม.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งพบว่าทางครอบครัวได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของเด็กชายทั้งสองไว้บริเวณหน้าบ้าน แต่มีการวางโลงศพแยกกันคนละฝั่ง เนื่องจากมีความเชื่อในเรื่องของลำดับเครือญาติ
โดยที่เด็กชายปุญญภัทร อายุ 7 ขวบ มีศักดิ์เป็นอา ส่วนเด็กชายทินภัทร อายุ 10 ขวบ มีศักดิ์เป็นหลาน ซึ่งการทำพิธีรดน้ำศพหรือสวดอภิธรรมก็จะต้องทำให้กับเด็กชายปุญญภัทรก่อน โดยบรรยากาศการรดน้ำศพของเด็กชายปุญญภัทร ก็เป็นไปอย่างโศกเศร้าของบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน หลายคนร้องไห้กับการจากไปในครั้งนี้ แม้กระทั่งเด็กในวัยเดียวกันก็ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของบ้านก็จะเป็นจุดตั้งโลงศพของเด็กชายทินภัทร ซึ่งก็เช่นเดียวกันบรรยากาศเป็นไปท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อที่ได้เข้ามาแต่งตัวให้ลูกชายพร้อมกับน้ำตาไหลอาบสองข้างแก้ม ชาวบ้านที่เห็นอย่างนั้นก็ได้เข้ามาคอยเตือนอยู่เป็นระยะ ว่าอย่าให้น้ำตาตกใส่เด็กชายทินภัทรเพราะอาจจะทำให้เด็กนั้นมีห่วง นอกจากนี้ผู้เป็นแม่ก็ได้ร้องไห้สะอื้นอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน บางช่วงบางตอนก็จะมีลูกสาวคนเล็กนำกระดาษทิชชู่มาช่วยซับน้ำตาให้ ซึ่งเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็น้ำตาไหลไปตาม ๆ กัน
จากนั้นทีมข่าวได้เดินเท้าไปยังบริเวณสระน้ำจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งมีระยะทางห่างจากบ้านของเด็กชายทั้งสองคนเพียง 100 เมตร โดยที่สระน้ำเป็นดินลูกรังและมีลักษณะเป็นทางลาดชัน มีขนาดความยาว 50 เมตร กว้าง 20 เมตร และระดับน้ำลึกประมาณ 2-3 เมตร ซึ่งบริเวณขอบสระก็พบกับถาดอาหารวางไว้ข้างกันจำนวน 2 ถาด เป็นถาดที่ทางครอบครัวได้มีการนำมาวางไว้ตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อทำการเชิญดวงวิญญาณของเด็กชายทั้งสองคนให้ขึ้นจากสระน้ำ
ต่อมาทางด้านนางสาวชุติมา อายุ 30 ปี แม่ของเด็กชายทินภัทร เผยว่า ก่อนหน้านี้ตนก็อาศัยอยู่กับลูกที่จังหวัดปราจีนบุรี เท่าที่เลี้ยงดูมาลูกก็เป็นเด็กดีเชื่อฟังทุกอย่าง แต่เมื่อ 1 เดือนก่อนตนกับสามีจะต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นการขับรถส่งสินค้าแช่แข็ง โดยเมื่อวานนี้ตนก็ได้อยู่ที่จังหวัดนครปฐม จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ทางด้านย่าของเด็กชายทินภัทรก็ได้ส่งข้อความมาบอกว่าน้องหายตัวไป ตอนนั้นตนก็พยายามโทรศัพท์ติดต่อกลับมาที่บ้านแต่ก็ไม่มีใครรับสาย ทำให้ตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
จากนั้นเวลาประมาณ 19.00 น. คนรู้จักที่อยู่ละแวกบ้านในจังหวัดปราจีนบุรี ก็ได้ส่งข้อความมาถามไถ่ว่า “ลูกชายที่จมน้ำ หาเจอหรือยัง” ในตอนนั้นตนก็ตกใจเป็นอย่างมาก และไม่ทันจะได้ถามอะไรต่อ ตนก็รีบแจ้งเพื่อนร่วมงานให้ขับรถไปส่ง กว่าจะเดินทางมาถึงบ้านก็เป็นเวลาหลังเที่ยงคืน เมื่อมาถึงก็ได้ทราบกับข่าวร้ายว่าลูกชายได้เสียชีวิตแล้ว ตนก็ได้มีการสอบถามคนในบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้ความว่าลูกชายและหลานอีกคนของตน น่าจะชวนกันไปเล่นน้ำที่สระหลังบ้าน
โดยที่ผ่านมาตนก็เคยห้ามปรามลูกชายไม่ให้ไปเล่นน้ำที่สระดังกล่าว เพราะสระค่อนข้างลึก ซึ่งลูกชายก็เชื่อฟังมาตลอด แต่ไม่แน่ใจว่าครั้งนี้เกิดอะไรขึ้น ลูกชายถึงแอบไปเล่นน้ำตรงจุดดังกล่าว ส่วนตัวเชื่อว่าอาจจะมีใครพลาดท่าตกลงไปในน้ำ แล้วอีกคนคงพยายามจะช่วยเพราะลูกชายตนก็ว่ายน้ำเป็น ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ตนไม่ได้ติดใจอะไร และคิดว่าบุญที่เด็กชายทินภัทรคงหมดลงแค่นี้ ถือว่าหลังจากนี้เขาคงจะได้ไปสบายและไปสู่สุคติ
ต่อมาทางด้านนายประเสริฐ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นพ่อของเด็กชายปุญญภัทร ได้เปิดเผยว่า เดิมทีตนนั้นต้องไปทำงานที่ต่างอำเภอ ทำให้ตนนั้นไม่ค่อยสนิทกับลูกชายสักเท่าไร จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ตนได้ตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่บ้าน เพราะอยากใช้เวลากับลูกชายให้มากขึ้น ซึ่งในตอนแรกลูกชายก็ไม่ค่อยเชื่อใจและไม่กล้าเข้าใกล้ตนมากนัก แต่พักหลังมาลูกชายก็เริ่มไว้ใจ และเข้ามานอนซบบนอกตนก่อนนอนทุกคืน รวมไปถึงยังเคยให้สัญญาต่อกันและกัน ว่าหากมีเงินมากพอก็จะพาไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งในวันนี้ตนก็เสียใจที่ไม่สามารถทำตามคำสัญญาได้อีกแล้ว และคิดว่าหากโลกของวิญญาณมีจริงก็อยากจะให้ลูกชายกลับมาหา เพราะตนยังทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
โดยนายประเสริฐเล่าว่า เมื่อวานนี้ช่วงเช้าถึงช่วงบ่าย ตนก็ยังได้ยินเสียงลูกชายวิ่งเล่นอยู่ภายในบ้านกับเด็กคนอื่น ๆ ซึ่งตนก็คอยมองสอดส่องอยู่เป็นระยะก็ไม่เห็นจะมีสิ่งผิดปกติอะไร กระทั่งช่วงเวลา 6 โมงเย็นจวนจะทุ่มหนึ่ง สังเกตเห็นว่าลูกชายไม่ได้เล่นอยู่ภายในบ้านแล้ว จึงได้ออกไปตามบริเวณสนามฟุตบอลใกล้บ้าน เพราะคิดว่าลูกชายน่าจะไปเล่นอยู่กับเพื่อน แต่เมื่อไปถึงก็ไม่เจอตนก็พยายามตามหาลูกชายตามบ้านเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ก็ยังไร้วี่แวว
กระทั่งมีเพื่อนบ้านรายหนึ่งมาให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงบ่ายเห็นว่าลูกชายได้ถือเบ็ดตกปลาไปบริเวณสระน้ำด้านหลัง เมื่อตนเข้าไปดูก็แทบใจสลายเพราะเห็นว่าเสื้อผ้า รองเท้า เบ็ดตกปลา นั้นวางอยู่ริมขอบสระ ซึ่งตนก็เตรียมทำใจในทันทีว่าลูกชายคงจะอยู่ในสระน้ำดังกล่าว จากนั้นจึงทำการประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ จนเวลาผ่านไปไม่นานก็พบร่างของลูกชายและหลานชายอีกคนที่จมอยู่ก้นสระ ตอนนั้นยอมรับว่าทำอะไรไม่ถูก และเสียใจเป็นอย่างมากที่ช่วยลูกไว้ไม่ได้ ตนคิดว่าลูกชายคงจะทำบุญมาเพียงเท่านี้ จึงมีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่เพียงเท่านี้ และถ้าเป็นไปได้ตนก็ยังคงเฝ้ารอว่าวันหนึ่งลูกชายจะกลับมาหา แม้จะเป็นเพียงดวงวิญญาณก็ตาม