"สนธิญา" รายงานตัวศาลหลังถูกออกหมายจับ ยันไม่มีเจตนาหลบหนี อ้างจำวันผิด พร้อมยกมือไหว้ขอความเมตตาต่อศาลให้ประกันตัว
นายสนธิญา สวัสดี นักร้องเรียน เดินทางมารายงานตัวต่อศาลอาญารัชดา เพื่อแสดง เจตจำนงไม่ได้หลบหนีหลังถูกศาลออกหมายจับในคดีที่ถูกพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และพล.ต.ท.จุตติ ธรรมมโนวานิช เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ซึ่งศาลนัดฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่นายสนธิญา รับทราบนัดแล้ว ไม่มาศาลจึงเข้าข่ายมีพฤติกรรมหลบหนี ทำให้ศาลต้องเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปในวันที่ 27 พ.ค.2567 ในเวลา 09.30 น.
นายสนธิญา กล่าวว่าวันนี้ตนเองมารายงานตัวเพื่อขอความเมตตากับศาลหลายครั้งและขอกราบขอโทษเนื่องจากตนเองจำวันผิด ยืนยันว่าไม่ได้มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี เพียงแต่เข้าใจผิดและจดตารางงานในปฏิทินผิดว่ามีคำพากษาในวันนี้ เนื่องจากตนมีคดีความกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ประมาณ 3-4 คดี ซึ่งส่วนใหญ่ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยและยังคงมีคดีเพ่งที่อยู่ระหว่างการอุธรณ์ด้วย จึงเกิดความสับสน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดจริงซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาไปขู่
นายสนธิญา ระบุว่าส่วนใหญ่คดีความของตนเองกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นั้นได้ ได้รับสารภาพในศาลชั้นต้นไปในทุกคดี และตนเดินหน้าสู้ต่อ เมื่อข้อตกลงไม่ได้เป็นไปตามการไกล่เกลี่ย
ส่วนในวันนี้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 2 หมื่นบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินหลักทรัพย์สำหรับคดีหมิ่นประมาทที่ตนเคยมีประสบการณ์มาแล้ว เพราะครั้งหนึ่งมาไม่ทันศาลนัด จึงโดนหมายจับในวันนั้นและโดนยึดเงินหลักทรัพย์
นายสนธิญา ยังเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้เคยถูกศาลออกหมายจับมาแล้ว เนื่องจากจำเวลารายงานตัวผิดไม่ได้มาตามนัดหมาย ซึ่งครั้งนั้นก็มารายงานตัวกับศาลแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนีเช่นกัน
ซึ่งวันนี้นายสนธิญายอมรับว่าได้เตรียมตัวและเตรียมใจ "เนื่องจากข้างในอากาศร้อน"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจขนาดไหนว่าศาลจะให้ความเมตตา นายสนธิญาตอบว่า "ก็แล้วแต่ความเมตตาจากศาล"
นายสนธิญา กล่าวด้วยว่า ทุกคดีที่ถูกฟ้องเป็นการทำหน้าที่เมื่อครั้งเป็นคณะกรรมาธิการกฎหมายและสิทธิมนุษยชนในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเตรียมใจมาแล้วหรือไม่ นายสนธิญาบอกว่า "เตรียมใจไว้นานแล้วตั้งแต่เข้ามาทำงาน ในฐานะคณะกรรมาธิการเพราะหากเข้ามาทำงานนั้น ต้องพร้อมที่จะเสียสละทั้งตนเองและทุกสิ่งทุกอย่าง โดยย้ำว่านักการเมืองทุกคนเป็นแบบนี้หมด ฉะนั้น การทำงานการเมืองไม่ใช่เรื่องสนุกแต่เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบและเป็นเรื่องที่ตนต้องเอาตนเองเข้าไปเสี่ยงด้วย"