ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ สั่งเพิ่มกำลังทหาร จับตาชายแดนไทย-เมียนมา ตลอด 24 ชั่วโมง ให้ขวัญกำลังใจทหาร เสียสละปกป้องชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกเดินทางไปติดตามสถานการณ์ชายแดนไทยและเมียนมา ในพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร พร้อมทั้งฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติภารกิจของหน่วย และสถานการณ์ตามแนวชายแดนเมียนมาในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งมีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมาและกลุ่มต่อต้านในพื้นที่ใกล้เคียงสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 2 ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จนทำให้ประชาชนชาวเมียนมาหนีภัยเข้ามายังฝั่งไทยกว่า 3,000 คน
ซึ่งกองกำลังนเศวรโดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ได้ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมพื้นฐาน โดยได้จัดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว เพื่อรองรับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ซึ่งปัจจุบันหลังจากสถานการณ์การสู้รบได้คลี่คลาย ประชาชนชาวเมียนมาส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับประเทศแล้ว คงเหลืออยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก เพียง 77 คน
สำหรับการดูแลประชาชนชาวไทยในพื้นที่ หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ได้เพิ่มมาตรการเฝ้าตรวจชายแดน และจัดกำลังลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งได้รับการสนับสนุนกำลังพลเพิ่มเติมจากกองทัพภาคที่ 3 ร่วมเสริมกำลัง ตลอดจนประสานกับส่วนราชการจัดเตรียมพื้นที่รองรับประชาชนชาวไทยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไว้ 3 แห่ง ได้แก่ สนามกีฬา 5 อำเภอชายแดน, ม.ราชภัฎกำแพงเพชร (สาขาแม่สอด) และโรงเรียนแม่ตาว ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด
จากนั้นผู้บัญชาการทหารบกและคณะ ได้เดินทางไปยังจุดตรวจการณ์ม่วงมี บ.วังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ซึ่งเป็นจุดตรวจการณ์สำคัญของกองกำลังนเรศวร โดยคณะผู้บัญชาการทหารบกได้รับฟังบรรยายสรุป และร่วมตรวจภูมิประเทศตามแนวชายแดน ก่อนเดินทางไปยังกองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นควบคุมทางยุทธการของกองกำลังนเรศวร เพื่อพบปะให้กำลังใจกำลังพล
ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวในระหว่างการตรวจเยี่ยมกำลังพลว่า ขอให้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ของหน่วยอย่างเต็มที่ หากต้องการรับการสนับสนุนเพิ่มเติม ทางหน่วยสามารถประสานมายังศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกได้ในทันที และขอขอบคุณกำลังพลทุกนายที่มุ่งมั่น ทุ่มเท ปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงวันหยุด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ไม่ประมาท และต้องไม่มีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ในพื้นที่โดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ขอให้กองกำลังนเรศวร วิเคราะห์และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมแผนให้มีความพร้อมในทุกมิติ ตลอดจนบูรณาการร่วมทุกส่วนในการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน เพื่อปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ และดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ