ความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพนายคาบาชิมะ เรียวสุเกะ ชาวญี่ปุ่น หลังจับกุมตัวนายกฤษกร หรือเกมส์ ผู้ต้องหาร่วมกันอำพรางศพและส่งศาลฝากขังไปแล้ว วันนี้ (26 เม.ย. 2567) ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ยังคงเร่งไล่ล่าติดตามตัวผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพอีก 2 ราย คือ นายฮิโรโตะ ซูซุกิ และนายคาโต้ ทาคุย เพื่อมาดำเนินคดี ซึ่งมีรายงานว่า เบาะแสสุดท้ายพบมุ่งหน้าหลบหนีขึ้นมอเตอร์เวย์สายใหม่ เส้นทางเพื่อไปยังภาคอีสาน และไปประเทศเพื่อนบ้าน

ส่วนทางคดี ขณะนี้พนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถ โดยได้ออกหมายเรียกเจ้าของรถเก๋ง นิสสัน สีขาว มาสอบปากคำประกอบสำนวนคดีด้วย แม้เจ้าของรถจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะได้นำรถไปจำนำไว้ที่เต็นท์รถและไม่ได้จ่ายค่าเช่ามา 2 เดือน รวมถึงจะต้องออกหมายเรียกเจ้าของเต็นท์รถที่เจ้าของรถเก๋งเอาไปจำนำไว้ มาสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนคดี ให้ได้ข้อเท็จจริงถึงที่มาของรถ ว่ามาถึงกลุ่มผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นที่มาจอดอยู่ในโกดัง และเป็นรถที่ใช้สังหารนายเรียวสุเกะได้อย่างไร

ขณะเดียวกันก็ยังรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งผลการตรวจดีเอ็นเอ ยืนยันเปรียบเทียบกระดูกทุกชิ้นที่พบ ทั้งศรีษะ ท่อนแขน และสะบัก รวมถึงผลการตรวจดีเอ็นเอวัตถุพยานที่ส่งตรวจโดยละเอียดทั้งหมด

ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 8 ได้หลักฐานสำคัญเป็นภาพวงจรปิดวันที่ 30 มี.ค. เผยให้เห็นนาทีที่นายเกมส์ เดินออกมาจากซอยริมคลองบ้านกล้วย พร้อมกับแก๊งยากูซ่า คือ นายฮิโรโตะ กับนายคาโต้ หลังนำรถเก๋งสีขาวที่นำชิ้นส่วนศพซึ่งอยู่ในถุงดำไปทยอยทิ้ง และหลังจากที่นำรถไปทิ้งทั้งสามก็เดินออกมาหน้าปากซอย เพื่อจะโบกแท็กซี่หลบหนีไป โดยจากภาพจะเห็นว่านายเกมส์เดินถือถุงบางอย่างออกมาด้วย

ด้านนางวรรณดี (นามสมมติ) ชาวบ้านในซอยบ้านกล้วย เผยว่า หลังจากที่ชาวบ้านและพยานหลายคนพบเห็นว่ามีการนำรถเก๋งสีขาวมาจอดทิ้งเอาไว้ที่ริมคลอง โดยทำทีเปิดฝากระโปรงหน้าทิ้งเอาไว้ คล้ายกับรถจอดเสีย จากนั้นจะเห็นว่ามีคนแปลกหน้าซึ่งมีทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยไม่รู้จักกันทั้ง 3 คน รวมถึงคนไทยที่มารู้ภายหลังชื่อ นายเกมส์ ก็ไม่มีใครเคยรู้จักเดินออกจากรถคันดังกล่าวและไปโบกแท็กซี่กลางซอย ซึ่งมีแท็กซี่บังเอิญเข้ามาส่งผู้โดยสารพอดี แต่ในวันนั้นก็ไม่มีใครเอะใจว่ากลุ่มดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับการฆ่าหั่นศพ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารถเก๋งสีขาวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำชิ้นส่วนศพและหลักฐานไปทิ้งอำพราง

สำหรับรถคันดังกล่าวหลังจากที่ชาวบ้านพบเห็นความผิดปกติจอดทิ้งไว้นานเป็นสัปดาห์ จึงได้มีการแจ้งสายตรวจแต่ตำรวจก็ไม่ได้มีการนำรถคันดังกล่าวออกจากจุดจอด มีแต่ถ่ายรูปบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จนกระทั่งเริ่มพบชิ้นส่วนมนุษย์ ตำรวจจึงได้มีการเคลื่อนย้ายออก

และสำหรับท้ายรถเก๋งรวมถึงใกล้กับริมคลองบ้านกล้วยและกอต้นกล้วย ก่อนหน้าที่ตำรวจมีการเคลื่อนย้ายรถออกไป พบลักษณะคล้ายเลือดติดอยู่บนพื้นถนนรวมถึงต้นกล้วยและใบหญ้า โดยเข้าใจว่าอาจมีการหยิบสิ่งของอะไรบางอย่างออกจากรถ แต่ด้วยศพที่สภาพเน่าและอาจมีเลือด จึงทำให้ไหลตกออกมาจากรถที่จอดทิ้งไว้ ตอนที่มีการเคลื่อนย้ายข้าวของออก หรืออาจมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการโยนบางอย่างลงไปในคลองบ้านกล้วย ซึ่งอาจเป็นชิ้นส่วนมนุษย์หรือหลักฐานบางอย่าง แต่ถ้าหากเป็นชิ้นส่วนมนุษย์คงยากที่จะตามเจอ เพราะในคลองแห่งนี้ตัวเหี้ยขนาดใหญ่อยู่เยอะ ซึ่งหาของกินทุกวัน จึงอาจโดนเคลียร์หลักฐานไปแล้วก็ได้