"จุลพงษ์ ทวีศรี" อธิบดีกรมโรงงานฯ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังถูกกดดันหนัก ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้

จากกรณี เกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่โกดังเก็บสารเคมีแห่งหนึ่ง ริมถนนสายอุทัย-ภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่โกดัง 5 ภายในมีสารเคมีเก็บอยู่กว่า 4 พันตัน ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว มีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า และมีเสียงระเบิดดังเป็นระยะ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ระดมนักดับเพลิง รถน้ำ และรถโฟม เร่งสกัดเปลวเพลิงไม่ให้ขยายวงกว้าง และลามไปติดโกดังอื่นที่อยู่ข้างเคียง

หลังเกิดเหตุ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์ โดยใช้โฟมระดมฉีดรอบด้านของโกดัง ที่เกิดเพลิงไหม้ จนกลุ่มควันลดลง และควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามได้แล้ว และสั่งอพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ หมู่ 3 หมู่ 4 ที่อยู่ในระยะ 3 กิโลเมตร ออกนอกพื้นที่ โดยให้มาอาศัยที่ศูนย์อพยพชั่วคราว วัดโคกม่วง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัด ที่นอน หมอน มุ้ง อาหาร และน้ำดื่ม รวมถึงจัดทีมแพทย์ คอยดูแล

ขณะเดียวกัน ผู้ว่าฯได้สั่งอพยพผู้ป่วย 30 คน ในโรงพยาบาลภาชี ไปยังโรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลท่าเรือ และโรงพยาบาลอุทัย เนื่องจากอยู่ใกล้โกดังเก็บสารเคมีเพียง 600 เมตร และปิดการให้บริการ โรงพยาบาลภาชี ชั่วคราวทุกแผนก อย่างไม่มีกำหนด

ช่วงกลางดึก นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่หาแนวทางการดับไฟ โดยกล่าวว่า โกดังที่เพลิงไหม้มีสารเหล็ก สารอื่นๆ ที่มีการนำเข้ามาเก็บไว้ ระหว่างการดำเนินคดี เบื้องต้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ปริมาณสารปนเปื้อนในอากาศแล้ว โดยตั้งรถตรวจหาค่าไว้ที่หน้าอำเภอ และที่โรงพยาบาล

ซึ่งมีเรื่องช็อกระหว่างลงพื้นที่ คือ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เผยกับสื่อว่า เหตุการณ์นี้ตนคงทำอะไรมากไม่ได้ เพราะได้ยื่นใบลาออกแล้ว หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ โกดังเก็บสารเคมีของกลาง ติดต่อกันในหลายพื้นที่

การยื่นใบลาออกของ นายจุลพงษ์ ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังมีกระแสข่าวว่า นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมเสนอย้าย นายจุลพงษ์ ไปเป็นรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม หลังนายจุลพงษ์ ถูกนายกรัฐมนตรี ตำหนิต่อหน้าสื่อ เรื่องการลงพื้นที่ เหตุไฟไหม้โกดังเก็บกากอุตสาหกรรมและสารเคมี ที่จังหวัดระยองล่าช้า รวมถึงปัญหาการขนย้ายกากแคดเมียม กลับไปจ.ตาก ซึ่ง นายจุลพงษ์ จะเหลืออายุราชการอีกเพียง 5 เดือน โดยจะเกษียณในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยนายจุลพงษ์ ให้เหตุผลในการลาออกว่า "ขอรักษาศักดิ์ศรีข้าราชการ"