"นายกฯ" ตอบปม "อธิบดีโรงงาน" ลาออก ชี้ สั่งงานแก้ปัญหาเพลิงไหม้โรงงานสารเคมี คือการกดดันที่เนื้องาน ต่อสายหน่วยงานความมั่นคง หาสาเหตุวางเพลิง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีที่นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ประกาศลาออกจากราชการ กลางวงประชุมคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังพิจารณาเรื่อง เหตุเพลิงไหม้สารเคมี และการขนย้ายกากแร่ตะกอนแคดเมียม จะเกิดจากแรงกดดันหรือไม่นั้น ต้องย้อนถามว่า การกดดันคืออะไร เพราะหากเป็นเรื่องของการตามงาน การสั่งงาน การให้ความสำคัญกับปัญหา ถ้าถือว่าเป็นการกดดัน ก็คือ กดดัน เพราะตนมองว่า เราเน้นเนื้องานเป็นหลัก

เมื่อถามว่า มีการเชื่อมโยงไปถึงวันที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดระยองและได้มีการตำหนิอธิบดีกรมโรงงานตรงนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า "ก็ชัดเจน ก็ตามนั้นครับ"

เมื่อถามปัญหาเรื่องสารเคมี ขณะนี้เกิดขึ้นจำนวนมาก ใช่เวลาที่ลาออกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับลาออกหรือไม่ลาออก แต่เชื่อว่า เป็นเรื่องของเนื้องานมากกว่า ที่ต้องพยายามตามถึงรากฐานของปัญหาจริงว่าเชื่อมโยงกันหรือไม่ กับปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายโรงงานขณะนี้ เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ก็ได้มีการพูดคุยกันและให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าไปช่วยดูตรงนี้ด้วย

เมื่อถามว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุ จำเป็นต้องดึงฝ่ายความมั่นคงเข้ามาด้วย เพราะหากมีการวางเพลิงเพื่อกลบหลักฐาน ก็จะถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง นายเศรษฐา กล่าวว่า แน่นอน เพราะเมื่อวานนี้ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีเรื่องนี้ และการสนนทนาส่วนมากเป็นเรื่องหาต้นตอของสาเหตุทั้งหมด และได้ต่อสายถึงหน่วยงานด้านความมั่นคงแล้ว

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีมาตรการอะไรที่จะทำให้ผู้ประกอบการใส่ใจผลกระทบต่อสิ่แวดล้อมมากกว่านี้ นายกฯ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปไกลถึงการไม่สนใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมีหลายผู้ประกอบการให้ความสำคัญ แต่ต้องดูความเชื่อมโยงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน บุคคลเดียวหรือไม่

นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า ส่วนตัวให้ความสำคัญและจริงจังใจต่อการแก้ปัญหาโรงงานเก็บสารเคมี ทั้งจากการลงพื้นที่ การสั่งการ และติดตามงานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้