สาวถูกหลอกด้วยภาพนักร้องลูกทุ่ง "บ." หลงรักโอนเงินสูญ 3 แสนบาท วิวาห์ล่ม ซ้ำร้ายถูกขู่แฉคลิปประจาน
จากกรณีที่มีสาว อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ ถูกหลอกให้หลงรัก และโอนเงินให้ฝ่ายชายรวมแล้วกว่า 3 แสนบาท โดยไม่เคยพบหน้าฝ่ายชายเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ล่าสุดวันที่ 3 พ.ค. 2567 ทางมูลนิธิรณรงค์ ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พาสาวผู้เสียหาย เดินทางมาที่ สภ.บางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี เพื่อเข้าแจ้งความเพิ่มเติม ว่า นายนภัสสร โชติกาล หรือ "เวฟ" หลอกให้หลงรักจนตกลงคบหากัน มาเป็นระยะเวลา 3 ปี
โดยไม่เคยเจอหน้ากันแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งยังทำทีอ้อนวอนขอเงินจากฝ่ายหญิงบ่อยครั้ง อ้างว่าป่วย ต้องเข้ารับการผ่าตัดโรคมะเร็ง และตกลงว่าจะแต่งงานด้วย โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีพระ ชื่อ นายเชาวลิตร จนทำให้ผู้เสียหายสูญเงินไปแล้วกว่า 3 แสนบาท งานวิวาห์ล่มถึง 2 ครั้ง
อีกทั้งมาทราบภายหลังว่าภาพโปรไฟล์เฟซบุ๊กของ "ไอ้เวฟ" ได้นำภาพถ่ายของนักร้องลูกทุ่งชื่อดังตัวย่อ "บ." มาแอบอ้างตัวตนเรื่อยมาจนหลงเชื่อ
สาวผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า ภายหลังจากจับได้ว่า ไอ้เวฟ หลอกลวงให้โอนเงิน จึงได้ไปตามหาตัว พระเชาวลิตร เจ้าของบัญชีที่รับโอนเงิน แต่ปรากฏว่า พระเชาวลิตร บ่ายเบี่ยงไม่รู้เรื่องว่า ไอ้เวฟ อาศัยอยู่ที่ไหน อ้างว่าไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว ทำให้ทางผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์
กระทั่งปรากฏเป็นข่าวดัง สาวผู้เสียหาย แจ้งว่า ไอ้เวฟ ได้โทรศัพท์มาข่มขู่ว่าจะนำคลิปลับส่วนตัวของผู้เสียหาย เปิดเผยสู่ออนไลน์ ส่วนพระเชาวลิตร ได้โทรมาขอให้ไม่เอาเรื่องไปแจ้งความกับตำรวจ รวมถึงมีข้อความแชตไลน์ที่อ้างว่าเป็นอดีตเมียของพระเชาวลิตร ขู่ว่าจะเอาเรื่องผู้เสียหายให้ถึงที่สุด หากไม่ยอมจบเรื่องนี้ลงแต่โดยดี
จากการรวบรวมพยานหลักฐานของทางมูลนิธิฯ อาทิ คลิปเสียงข่มขู่ทางโทรศัพท์ , เบอร์โทรศัพท์ จำนวน 4 หมายเลข และเลขบัญชีเงิน ทำให้สงสัยว่า บุคคลประกอบด้วย ไอ้เวฟ , พระเชาวลิตร และ ผู้ที่อ้างว่าเป็นอดีตเมียของพระเชาวลิตร อาจเป็นคนเดียวกันทั้งหมด จึงรวบรวมข้อมูลเพื่อยื่นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง ดำเนินคดีอาญาฐานฉ้อโกง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง ตรวจสอบชื่อ "นายนภัสสร โชติกาล" ไม่ปรากฏว่ามีชื่อนี้ในสารบบ จึงเตรียมดำเนินการสืบหาข้อมูลจากการลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ ว่ามีความเกี่ยวโยงกับพระเชาวลิตร ต่อไป