อากาศร้อนจัด! กระทบผู้เลี้ยงปลาทับทิม ในกระชัง จ.อุทัยธานี เกษตรกรต้องดูแลใกล้ชิด
วันที่ 5 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดมาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานับเดือน ได้ส่งผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้าแล้ว อย่างเกษตรกรผู้เลี้ยงในกระชังในแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ตำบลเกาะเทโพ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ที่มีเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาเป็นจำนวนมาก และเลี้ยงกันหลายร้อยกระชัง ซึ่งทุกรายได้รับผลกระทบจากอากาศที่ร้อนจัดปลาที่จะใกล้จับขายได้ ทยอยตายลงทุกวันจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และไม่มีทางแก้ไขเพราะเป็นธรรมชาติที่ปีนี้มีสภาพอากาศอย่างนี้
นายเปรย สามีคคี อายุ 70 ปี หนึ่งในเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ซึ่งยึดอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังมานานเกือบ 30 ปี และปีนี้เป็นปีแรกที่ได้รับผลกระทบจากอากาศที่ร้อนจัด ปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชังทยอยตายอย่างต่อเนื่อง จนขาดทุนย่อยยับในการเลี้ยงปลาในกระชังของรอบนี้ โดยได้เลี้ยงปลาทับทิมในกระชังในแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ดังกล่าว จำนวนทั้งหมด 6 กระชังๆ ละกว่า 1,200 ตัว รวมแล้ว 8,000 ตัว และอยู่ในช่วงที่ใกล้จะจับขายได้แล้วในปัจจุบัน แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดมาเป็นเวลานับเดือนทยอยตายมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงนี้ปลาที่ใกล้ได้ขนาดจับขายตายวันละประมาณ 90 หรือกระชังละกว่า 10 ตัว ทุกวัน เฉลี่ยวันละ 40 – 50 กิโลกรัม ซึ่งหากจับขายล่าสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 78 บาท เท่ากับต้องสูญเงินไปวันละเกือบ 4,000 บาท จึงจำเป็นต้องเร่งจับปลาในกระชังขายก่อนกำหนดเพื่อเอาทุนคืนกลับมาบ้าง ไม่รู้ส่วนที่ยังเหลือและยังไม่ค่อยได้ขนาดต้องตายลงอีกมากเท่าไรหากอากาศยังไม่หายร้อนจัด
เมื่อถามว่าต้องการเยียวยาและให้การช่วยเหลืออย่างไรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือรัฐบาลบ้าง นายเปรยฯตัดพ้อขึ้นมาทันที ว่าไม่หวังกับการช่วยเหลือ ที่ผ่านมาการเลี้ยงปลาก็ประสบปัญหาปลาตายจากสาเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งหรือราคาตกต่ำก็ตาม ไม่เคยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือรัฐบาลจะให้การช่วยเหลือเยียวยาแต่อย่างใด ไม่เหมือนกับเกษตรกรชาวนาเมื่อประสบภัยแล้ง หรืออุทกภัย ข้าวตาย ก็ได้รับการช่วยเหลือหรือให้การเยียวยาจากรัฐบาลทุกครั้ง