จากกรณี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะที่นักข่าวช่อง 8 ไปตามข่าวอาชญากรรม ในซอยเพชรเกษม 55/2 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่มีคนถูกยิงเสียชีวิต และทีมข่าวได้เดินทางไปหาหลักฐานกล้องวงจรปิดจากชาวบ้าน
แต่ปรากฏว่าในขณะที่นักข่าวกำลังเข้าไปขอดูกล้องวงจรปิดที่บ้านของคุณแอน ทางคุณแอน ได้เดินมากระซิบกับนักข่าวว่า ไปยืนดูกล้องตรงหน้าปากซอยได้ไหม พี่ทะเลาะกับป้าลำไย (นามสมมติ) ตรงข้ามบ้านมา 3 ปีแล้วเพราะถ้าบ้านพี่มีผู้ชายเข้ามาในบ้าน อีป้าบ้านตรงข้ามมันจะกล่าวหาว่าพี่พาชู้เข้าบ้าน ซึ่งนักข่าวก็งงแต่ก็ไม่ได้ถามรายละเอียดในตอนนั้น เพราะรีบหาภาพวงจรปิดให้ทันช่วงที่ข่าวกำลังจะออกอากาศ จึงให้ไลน์และเบอร์โทรศัพท์กับทางคุณแอน เอาไว้ในคืนนั้น
จากนั้นเมื่อนักข่าวเดินทางกลับไปแล้ว คุณแอนก็ยังไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากนัก แต่เริ่มส่งภาพวงจรปิดมาให้ ซึ่งเป็นกล้องวงจรปิดที่สามารถจับเสียงป้าลำไย ตรงข้ามบ้าน ที่บอกเพื่อนข้างบ้านว่า พวกเธอเปิดข่าวช่อง 8 ค้างไว้เลยนะ ข่าวที่นักข่าวมาบ้านตรงข้ามจะออกอากาศตอนสองทุ่ม น่าจะเป็นข่าวเรื่องคบชู้ ซึ่งพอสองทุ่มกว่า เพื่อนบ้านก็ถามว่าไหนล่ะไม่เห็นมีข่าว โดยป้าลำไยก็บอกว่า รอข่าวในพระราชสำนักจบก่อน วันนี้เป็นวันฉัตรมงคล
จากนั้นเมื่อนักข่าวช่อง 8 ได้รับภาพบางส่วนมาแล้วจึงถามกับคุณแอน ผู้ร้องเรียนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคุณแอนก็บอกว่า ก่อนที่บอกรายละเอียดทั้งหมด ขอส่งวงจรปิดที่เคยบันทึกเหตุการณ์ที่มีเรื่องกับป้าลำไย ให้นักข่าวดูก่อนและถ้าดูและเข้าใจ ถ้าอยากจะมาช่วยพี่ก็นัดวันมาว่าจะมาทำข่าวให้วันไหน ซึ่งเบื้องต้นคุณแอน ให้ข้อมูลว่าตัวเองนั้นมีปัญหากับป้าลำไย มาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว และที่ผ่านมาก็ปล่อยให้ป้าลำไย ด่าว่าสาปแช่งเสีย ๆ หาย ๆ มาโดยไม่ตอบโต้ เพราะเวลาแจ้งตำรวจมา ตำรวจก็ทำอะไรป้าลำไย ไม่ได้ ส่วนกล้องวงจรปิดที่เห็น ลูกสาวเป็นคนมาติดให้ จากนั้นคุณแอนก็ส่งภาพที่ตัวเอง นุ่งขาวห่มขาวตอนไปปฏิบัติธรรมมาให้กับนักข่าว ซึ่งนักข่าวก็งงเข้าไปใหญ่ เพราะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งหลังจากคุณแอนส่งภาพวงจรปิดมาให้ ก็ถึงอุทานขึ้นมาได้ว่า มันเป็นแบบนี้นี่เอง
ส่วนภาพวงจรปิดและเสียงที่คุณแอนจะเปิดวีรกรรมสุดแสบของป้าลำไย วันนี้ทีมข่าวจะเริ่มท้าวความไปตั้งแต่ปี 2565 ที่บ้านของคุณแอน เริ่มมีการติดกล้องวงจรปิด โดยวงจรปิดเหตุการณ์แรก เริ่มต้นเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2565 ในขณะที่คุณแอน ผู้ร้องเรียน กำลังเข็นรถ จยย. เข้าบ้าน จะเห็นว่า จู่ ๆ ป้าลำไยก็เดินมาด่าตรงหน้าบ้านว่า "มึงเก่งแต่ตอแหล มึงมันอีดอกไม้สีทอง อีกระหรี่ปั๊บสระบุรี" จากนั้นป้าลำไย ก็ชี้หน้าบอกคุณแอนว่า "มึงอย่าเก่งแต่ปาก แน่จริงมึงออกมาดิ อี... อย่าเก่งแต่ในรู อี... อีดอกไม้สีทอง วัน ๆ เอาแต่อ่อยผัวชาวบ้าน" ซึ่งเมื่อคุณแอนได้ยินก็ยกมือไหว้ท่วมหัวบอกว่า "สาธุ" แต่ปรากฏว่าทำให้ป้าลำไย ด่าหนักขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยคำหยาบคายต่าง ๆ นา ๆ และยังกล่าวหาว่าคุณแอน ไปนอนเยกับผัวชาวบ้าน
ซึ่งมันจะมีบางช่วงบางตอนที่คุณแอน หันกลับไปโต้ว่า "มึงเห็นหรอว่ากูไปเอากับผัวใคร" โดยป้าลำไย ก็ตอบกลับทันทีว่า "กูเห็น กูเห็นมึงไปนอนแบ ให้เขาเลย" ซึ่งคุณแอนก็ถามกลับว่า "คนนั้นเป็นผัวมึงใช่ไหม" ทำให้ป้าลำไยขึ้นหนักกว่าเดิม โดยบอกคุณแอนว่า "ถ้าเป็นผัวกู มึงตายไปแล้ว มาดิ ๆ เปิดบ้านรออยู่" จากนั้นทั้งคู่ก็ด่ากันไปมาด้วยคำหยาบคาย
ส่วนวงจรปิดคืนวันที่ 10 พ.ย. 2565 ทางป้าลำไย มีการเดินออกมาด่าคุณแอน ทั้งที่คุณแอนไม่อยู่บ้านด้วยคำหยาบคาย ซึ่งประเด็นหลัก ๆ ทางป้าลำไยแค้นที่คุณแอนพูดในวันที่ 9 ว่า "ไปเอากับผัวป้าเหรอ" ซึ่งทำให้ป้าลำไยระแวงไปเองคิดว่าคุณแอนจะไปแย่งผัวป้า โดยจะมีบางช่วงบางตอนที่เพื่อนบ้านเดินผ่านมาถามว่าด่าใคร ซึ่งป้าลำไยก็รีบเปิดประตูออกมาเล่าให้เพื่อนบ้านฟังว่า "กำลังด่าคนดอกไม้สีทองไง ที่มันชอบแย่งผัวชาวบ้าน"
ต่อมาเป็นเหตุการณ์วันที่ 11 พ.ย. 2565 ซึ่งเหตุการณ์นี้ คุณแอนไม่ได้ปะทะคารมกับป้าลำไย แต่เป็นเหตุการณ์ที่ป้าลำไย เริ่มจะหาพวก โดยการตะโกนเล่าเรื่องตัวเองให้เพื่อนบ้านฟังว่าทะเลาะกับคุณแอนมา และยังใส่ร้ายให้เพื่อนบ้านเกลียดคุณแอน โดยบอกกับเพื่อนบ้านว่า "คุณแอนจะมาแย่งผัวป้า อีแอนมันเป็นตัวเสนียดจัญไรของหมู่บ้าน ที่มันใส่ชุดขาวออกนอกบ้าน จริง ๆ แล้วมันไปเยกับผู้ชาย" ซึ่งมันจะมีบางช่วงบางตอนที่ป้าลำไย ยืนยันกับเพื่อนบ้านว่าป้าลำไยจะด่าคุณแอนไปแบบนี้ทุกวัน
ส่วนวงจรปิดเหตุการณ์วันที่ 14 พ.ย. 2565 ในช่วงค่ำ จู่ ๆ ป้าลำไยก็ร้องเพลงที่แต่งเองด้วยทำนอง "อยากโดนแย่งผัว อยากโดนแย่งผัว กลัวจริง ๆ เลย อยากโดนแย่งผัว" จากนั้นก็บ่นพึมพำอยู่ในบ้าน ซึ่งมันจะมีคำพูดที่ป้าลำไยพูดว่า "ถ้าง่วงนักก็มาเอาหมาที่บ้านไปเยก็ไม่เชื่อ มึงจะได้หายคัน เอากับหมาแทนก่อนก็ไม่เชื่อ ถ้าคันมากนัก หมาบ้านกูช่วยได้นะ"
ล่าสุดวันนี้ (6 พ.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปพบกับคุณแอน อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียน เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองมาซื้อบ้านอยู่ในหมู่บ้านได้ประมาณ 31 ปี ส่วนนางลำไยก็มาซื้อบ้านอยู่ตรงข้ามกันได้ประมาณ 30 ปี โดยในระหว่างที่เป็นเพื่อนกันมากว่า 28 ปี ยืนยันว่าตนเองกับนางลำไย ก็เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาตลอด
จนกระทั่งเมื่อต้นปี 2564 ความสัมพันธ์ที่เป็นเพื่อนบ้านก็เริ่มแตกหักกัน เนื่องจากตนเองไปผิดใจกับนางลำไย เรื่องเงินเล็กน้อย (เงินค่าหวย) จากนั้นต่อมาเมื่อนางลำไย เห็นว่าตนเองมีปัญหากับใคร นางลำไยก็จะมีการไปสืบกับเพื่อนบ้านแล้วก็เอาข้อมูลที่รับฟังเพื่อนบ้านมาด่าตนเองทุกวัน ซึ่งตอนแรก ๆ ตนเองก็มีตอบโต้ไปนิดหน่อย แต่ด่าสู้เขาไม่ได้ก็เลยเฉยไปและยอมให้เขาด่าอยู่ฝ่ายเดียว กระทั่งมีอยู่วันหนึ่งในขณะที่ลูกสาวมานอนที่บ้าน ปรากฏว่าป้าลำไยก็ด่าไม่หยุด ทางลูกสาวก็เลยมาแอบติดกล้องวงจรปิดให้
จากนั้นเมื่อตนเองยังถูกป้าลำไย ด่าทุกวัน ลูกสาวก็เลยแจ้งตำรวจให้เข้ามาเคลียร์ ซึ่งตอนตำรวจมา นางลำไย ก็ยังเถียงตำรวจโดยอ้างว่าเขาไม่ผิด ซึ่งวันนั้นตนเองจึงเดินทางไปแจ้งความ แต่ถึงวันนี้ตำรวจก็ยังทำอะไรนางลำไย ไม่ได้
ส่วนประเด็นที่นางลำไย มักจะยกเรื่องแย่งผัวชาวบ้านมาด่าเป็นประจำ ก็เป็นเพราะว่าว่านางลำไย ไปได้ข้อมูลมาว่า ตนเองมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชาย และนางลำไยก็เห็นผู้ชายคนนั้นมารับมาส่งตนเองที่บ้านเป็นประจำ เขาก็เลยเข้าใจผิดว่าชายคนนั้นเป็นชู้กับตนเอง ซึ่งนางลำไยยังเคยประกาศให้ชาวบ้านฟังว่าเขาจะด่าแบบนี้ไปจนกว่าตนเองจะตาย ซึ่งยืนยันว่า ตนเองไม่เคยโกรธเพราะจิตใจตนเองอยู่กับธรรมะ
ส่วนประเด็นที่นางลำไย อ้างว่าตนเองจะไปแย่งผัวเขา ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนเองไม่เคยคุยกับผัวของนางลำไยแม้แต่ครั้งเดียว และเจอกันข้างนอกก็ไม่เคยคุยกัน ซึ่งที่ผ่านมาผัวของนางลำไยก็ไม่เคยห้ามปรามเมียของเขา
ส่วนประเด็นเรื่องที่ตนเองเคยโดนฟ้องชู้ ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่เรื่องดังกล่าวมันเป็นเรื่องส่วนตัวที่มีการดำเนินคดีกันและศาลก็ตัดสินแล้ว ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่านางลำไยถึงปักใจเอาตนเองไปประจานให้ชาวบ้านรู้เรื่องด้วย และปีนี้ก็ยังด่าไม่หยุด พอเห็นตนเองเปิดประตูบ้านหรือยืนหน้าบ้าน นางลำไยก็จะด่าด้วยคำหยาบคายแบบนี้ตลอด และถ้าเพื่อนบ้านผ่านมา นางลำไยก็จะพูดให้ชาวบ้านเกลียดตนเอง ซึ่งที่ผ่านมา ยืนยันว่าเพื่อนบ้านก็ไม่เคยมาถามกับตนว่าสิ่งที่นางลำไยพูดมันเป็นความจริงหรือไม่ ยอมรับที่ผ่านมาเก็บกดไว้ในใจมาตลอด ไม่กล้าไปอธิบายให้ใครฟัง ซึ่งวันที่นักข่าวมาจึงตัดสินใจปรึกษานักข่าวเพื่อให้มาช่วยเคลียร์ เพราะตนเองอยากจะจบปัญหาอยู่แบบต่างคนต่างอยู่
อย่างไรก็ตาม ถ้านางลำไยฟังอยู่และตนเองก็เชื่อว่าลำไยกำลังดูข่าวช่อง 8 อยู่ในตอนนี้ จึงอยากจะฝากบอกว่า หยุดด่าเถอะ ตนเองอายชาวบ้าน ถึงตนเองจะไปมีผู้ชายกี่คน หรือโดนฟ้องชู้มันก็เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถ้านางลำไยยังไม่หยุด หลังจากนี้ก็คงต้องย้ายบ้านไปอยู่กับลูกสาว
โดยคุณแอน ยังบอกอีกว่า ถ้าลำไยฟังอยู่ในฐานะที่เคยเป็นเพื่อนกันมา แอนอยากจะถามกับพี่ลำไย ว่าพี่ต้องการอะไร ที่ผ่านมาแอนไม่เคยทำให้พี่ลำไยเสียหาย ทำไมพี่ลำไยถึงทำกับแอนได้ถึงขนาดนี้ และทุกวันนี้ที่แอนถือศิลก็เป็นเพราะว่าแอนอยากจะอโหสิกรรมให้พี่ลำไย แอนยืนยันที่แอนไหว้พระหน้าบ้าน แอนไม่เคยสาปแช่งใครตามที่ถูกพี่ลำไยกล่าวหา ยืนยันแอนไม่เคยคิดจะโกรธจะแค้นใคร สิ่งไหนที่แอนผิด แอนขอโทษ ต่างคนต่างอยู่เถอะนะ
จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 15.50 น. ในเมื่อต่างคนก็มีเหตุผลของตัวเอง ทีมข่าวก็เลยนัดทั้งสองฝ่ายให้มาคุยกันเพื่อจะได้จบปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่อทั้งสองฝ่ายได้เจอหน้ากัน ทางป้าลำไยก็ขึ้นเสียงมาก่อนเลย "มึงจะคุยหรือมึงอยากมีเรื่อง นี่นักข่าวเขาเรียกให้มาคุยกันให้จบ" ซึ่งป้าลำไยก็ฟ้องนักข่าวโดยบอกว่า "บอกให้นางแอน มันขอโทษที่ชี้หน้าป้าก่อน แต่ปรากฏว่า คุณแอนก็บอกว่า "ไม่ได้ชี้จะต้องขอโทษก่อนทำไม"
กระทั่งนักข่าวซึ่งอยู่ตรงกลาง ก็เริ่มถามป้าลำไยก่อนว่าติดใจคุณแอนเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งป้าลำไย ก็บอกว่า เรื่องที่ 1. ติดใจที่นางแอนมันชี้หน้า และติดใจที่ลูกสาวนางแอนเรียกตำรวจมาจับ ส่วนเรื่องที่ 2. ติดใจเรื่องเงินที่นางแอนเคยติดหนี้และเอาไปนินทากับชาวบ้าน ส่วนเรื่องที่ 3. ก็คือเรื่องชู้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องถามกับตัวนางแอนเองก็แล้วกัน จากนั้นป้าลำไยก็ชี้หน้าคุณแอน โดยอ้างว่าชาวบ้านรู้หมดว่ามันมีชู้เพราะมีหมายศาลมาติดที่หน้าบ้าน
พอเมื่อป้าลำไยพูดเสร็จ นักข่าวก็เลยให้ทางคุณแอนพูดบ้างว่าติดใจเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งคุณแอนก็บอกว่าติดใจเรื่องที่ป้าลำไย เที่ยวไปประกาศกับชาวบ้านเรื่องชู้ และยังกล่าวหาว่าคนที่มารับมาส่งเป็นชู้กับตนเอง ซึ่งคุณป้าลำไยก็พูดแทรกขึ้นมาว่า "มึงพูดให้จริงนะ ไม่งั้นฟ้าจะผ่ามึงนะ ถ้ามึงชี้หน้ากูขอให้ฟ้าผ่ามึง" จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ยืนเถียงกัน
จนกระทั่งนักข่าวก็ถามว่า ถ้าไม่ยอมกันแบบนี้มันจะเคลียร์กันจบได้ยังไง แต่ป้าลำไยก็ยกมือท่วมหัวพูดกับฟ้าดินว่า "ถ้าเรื่องที่นางแอน พูดมาไม่เป็นความจริงขอให้มันฉิบหาย ยืนยันมันชี้หน้าด่าป้าจริง ๆ ไอ้โป้งมึงต้องฟังป้านะ" จากนั้นก็ทำท่าทางให้ดูว่าวันนั้นนางแอน ชี้หน้ายังไง ซึ่งคุณแอนก็ยืนยันว่าไม่เคยชี้หน้าแม้แต่ครั้งเดียว
กระทั่งป้าลำไยยอมจบเรื่องชี้หน้า แต่ยังพูดเรื่องที่นางแอนเคยพูดว่าสมมติจะแย่งผัวป้า เป็นใครก็ต้องโมโห และนางแอน มันยังเคยพูดกับชาวบ้านว่า ถ้าใครเห็นรูปมันในเฟซบุ๊ก คนนั้นจะรักจะหลงมัน จากนั้นมันก็ชี้หน้าผัวป้า และจะไม่ให้ป้าคิดได้ยังไง ซึ่งนักข่าวก็บอกว่า นี่ป้าสองคนอายุเยอะแล้วนะ ขอให้จบกันได้ไหมต่างคนต่างอยู่ ไม่อายเด็กกันบ้างเหรอ ซึ่งเมื่อป้าลำไยได้ยินก็มีท่าทีที่อ่อนลง
จากนั้นก็เหมือนจะจบ แต่ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายไม่ยอมขอโทษกัน จนทำให้นักข่าวต้องไปพูดขอร้องกับป้าลำไยว่า ในเมื่อเคลียร์กันไม่ได้ หลังจากนี้ต่างคนต่างอยู่ได้ไหม ถ้าป้าลำไยมจะด่าใครก็ขอให้ด่าในใจ ซึ่งป้าลำไยก็ทำท่าทางว่า ถ้ามันเดินเชิดหน้าใส่ป้าอีกจะทำยังไง จากนั้นก็ยืนเถียงกันเรื่องเดิม ๆ อีก
สุดท้ายก็ไม่ยอมกัน แต่ป้าลำไยรับปากกับนักข่าวว่า ต่อไปนี้จะด่าในใจเพราะตัวป้าลำไยเป็นเอฟซีคุณพุทธ แต่ก็ยังด่ากันไม่หยุด จากนั้นป้าลำไยก็จับมือสัญญากับนักข่าวว่าหลังจากนี้จะด่าในใจให้ผัวฟังอยู่แต่ในบ้าน ส่วนนางแอนก็รับปากว่าหลังจากนี้จะไม่มองป้าลำไย และจะหลีกเลี่ยงที่จะปะทะคารมกันอีก