จากกรณีที่ชาวบ้านขอตรวจสอบกุฏิพระสงฆ์ หลังมีแม่ชีขับรถเก๋งมาหาที่กุฏิ อ้างเหยียบแมวตายจะมาล้างซวย หลังชาวบ้านได้ร้องเรียนว่า มีแม่ชีได้พาพักอาศัยกินนอนภายในกุฏิมานานกว่า 1 สัปดาห์ เมื่อเจ้าหน้าที่ขอเข้าไปภายในกุฏิ ทำให้แม่ชีได้กระโดดออกจากหน้าหน้าต่าง คณะกรรมการหมู่บ้านได้ไปเชิญตัวมาพูดคุย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา
ต่อมา นายอำเภอบ้านไผ่ ประชุมร่วมคณะสงฆ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทางคณะสงฆ์มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงรู้ผลใน 15 วัน พร้อมมีคำสั่งให้พระสงฆ์ในคลิปที่ถูกกล่าวหาขาดจากสังกัดวัดเดิม มาจำวัดอยู่กับเจ้าคณะอำเภอที่วัด ในอีกตัวอำเภอของ จ.ขอนแก่น
ล่าสุด (7 พ.ค. 2567) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังสถานปฏิบัติธรรมที่แม่ชีมาบวช ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ทีมข่าวได้พูดคุยกับพระที่ดูแลสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว ทราบว่า แม่ชีมาบวชชีได้ 5 เดือน มาปฎิบัติธรรม นั่งสมาธิจะไม่เปิดวาจา สวดมนต์เริ่ม ตี 3 ปฏิบัติธรรมไปจนถึงสามทุ่มของทุกวัน เรื่องส่วนตัวหรือการได้พูดคุยกันนั้นจะน้อย ส่วนใหญ่ จะตามปฏิบัติธรรมของใครของมัน เมื่อเสร็จก็แยกย้ายและเมื่อวานที่ผ่านมาแม่ชีได้มากราบลาพระอาจารย์หลังจากฉันข้าวเสร็จแล้ว จะขอสึกโดยบอกเหตุผลว่าลูกไม่สบาย ซึ่งพระอาจารย์ก็ได้เพียงบอกเดินทางปลอดภัยโชคดีและอวยพรให้ ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นนั้นก็เพิ่งจะทราบ ซึ่งเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เราก็พูดไม่ได้ว่าเจตนาของคนนั้นเป็นอย่างไร ส่วนช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นก็อยากให้ดูที่เจตนาพิจารณาเหตุผล
วันนี้ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาที่วัดแห่งหนึ่ง จ.ขอนแก่น พบว่า กุฏิพระเอ (นามสมมติ) ปิดล็อกแม่กุญแจไว้อย่างดี หลังจากที่พระเอเก็บข้าวของและอัฐบริขารส่วนตัวพระไปจำวัดบ้านเกิด ในพื้นที่อีกอำเภอของ จ.ขอนแก่น แล้ว
ซึ่งจากการสำรวจกุฏิพระเอ พบว่า ที่บริเวณหน้าต่างที่เป็นหน้าต่างกระจกโซนด้านหน้า และประตูเข้าออกจะมีเหล็กดัด แต่หน้าต่างไม้บริเวณด้านหลังกุฏิ จะไม่มีเหล็กดัด โดยจากการสอบถามข้อมูลของชาวบ้านทราบว่าบริเวณหน้าต่างไม้ ที่ไม่มีเหล็กดัดเป็นห้องนอนของพระเอ
ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายเตอร์ (นามสมมติ) อดีตเณร ที่เคยบวชเณรภาคฤดูร้อนที่วัดแห่งนี้ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ตนบวชเณรภาคฤดูร้อนที่วัดแห่งนี้และได้นอนอยู่ที่กุฏิติดกับพระรูปนี้ ช่วงแรกตนก็ไม่ได้สนใจว่ามีอะไรผิดปกติ จนกระทั่งตนบวชได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ตนจำได้ดีวันนั้นเป็นวันพระใหญ่ ขณะที่กำลังจะตื่นมาทำวัดเช้า ตนได้ยินเสียงประตูรถปิดเสียง ขับอออกจากวัด ซึ่งในตอนนั้นก็คิดว่าพระจะออกไปทำธุระข้างนอก จึงได้ออกมาดูกลับพบว่า รถที่ขับออกจากกุฏิพระเป็นรถเก๋งสีขาว แต่รถที่พระใช้เป็นรถเก๋ง สีดำ ซึ่งในตอนนั้นก็เอะใจแล้ว แต่ตนไม่เห็นว่าใครขับออกไป
นายเตอร์ บอกอีกว่า หลังจากนั้นก็จะเห็นรถเก๋ง สีขาว ขับเข้ามากุฏิพระ ช่วงเวลาประมาณ 19.00-22.00 น. เป็นประจำ หลังจากนั้นก็จะออกหลังเที่ยงคืน บางครั้งก็ออกก่อนตี 4 ที่พระจะตื่นทำวัดเช้า
ส่วนวันเกิดเหตุประมาณ 19.30 น. เห็นรถเก๋ง สีขาว ขับเข้ามาจอดที่กุฏิพระรูปนี้ แต่ไม่ทันสังเกตุว่าใครมาหาพระ สักพักตนเห็นพระเดินออกมาจากกุฏิ มานั่งเล่นที่หน้ากุฏิ ก่อนที่ตนจะเห็นกับตาว่ามีผู้หญิงใส่ชุดขาว หัวโล้น เดินออกมาจากห้องนอนพระและเดินเข้าห้องน้ำในกุฏิพระ ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจ แต่ไม่นานชาวบ้านก็บุกเข้ามาในวัด ซึ่งตนไม่เชื่อว่าแม่ชีจะเข้ามาอาบน้ำมนต์ และสะเดาะเคราะห์ เพราะพระรูปนี้ไม่ได้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์แต่อย่างใด