จากกรณีเมื่อ 06.00 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา มีชาวบ้านไปพบศพนายมาโนช หรือ เจมส์ อายุ 29 ปี ถูกยิง 5 นัด เสียชีวิตอยู่ในทุ่งนาของชาวบ้านในพื้นที่ ต.ทรายขาว ม.10 อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพพบรูกระสุนเจาะเข้าศีรษะ 3 รู นอนหงายจมกองเลือดอยู่ ใกล้กันยังพบถุงปุ๋ยของผู้ตาย และไฟส่องกบของผู้ตายที่คาดหัวอยู่ โดยจุดพบศพอยู่ห่างจากบ้านของผู้ตายประมาณ 500 เมตร
ล่าสุดวันนี้เวลา 13.00 น. ครอบครัวได้รับศพของนายมาโนช หรือ นายเจมส์ ผู้เสียชีวิตเดินทางมาถึงวัดหัวค่าย ท่ามกลางบรรยากาศความโศกเศร้าเสียใจของพ่อแม่ ญาติพี่น้องและภรรยาที่ร้องไห้เสียงดังระงมไปทั่วศาลา ซึ่งแม่และภรรยาของนายเจมส์ถึงกับจะเป็นลม จนญาติต้องเข้ามาประคองและพาไปนั่งที่เก้าอี้ หลังจากนั้นญาติได้จัดเตรียมทำพิธีรดน้ำศพ โดยมีพระภิกษุ 1 รูปมาทำพิธีให้ ก่อนที่พ่อแม่พี่น้องและญาติจะทำพิธีรดน้ำศพและขอขมากรรม อโหสิกรรมกับดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต หลังจากที่ทำพิธีรดน้ำศพเสร็จสิ้นแล้ว ก็ได้นำร่างผู้ตายใส่ในโลงเเละใช้ตะปูตอกฝาโลง
ด้านนายสุชีพ ย้อยยางทอง อายุ 59 ปี กำนัน ต.ทรายขาว อ.หัวไทร เปิดเผยว่า บ้านกำนันอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร แต่คืนเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงปืนเพราะเป็นช่วงกลางดึก ในช่วงนั้นทุกคนกำลังนอนหลับ ส่วนประวัติของผู้ตายที่ผ่านมา ปีที่แล้วเคยต้องโทษในคดียาเสพติดมาแล้ว และเคยเข้ารับการบำบัดออกมา
นอกจากนี้ ผู้ตายเป็นคนพูดตรง ๆ พูดแรง และก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านติดกันมาแล้ว เรื่องวัวของเพื่อนบ้านเข้ามากินพืชผักของผู้ตาย ตนเองเคยลงไปเคลียร์ปัญหาให้มาแล้ว และเรื่องก็จบไป กระทั่งมาเกิดเรื่องล่าสุด
ส่วนวันที่พบศพ เบื้องต้น ทราบว่าขณะที่ตำรวจไปตรวจที่เกิดเหตุ พบยาบ้าจำนวน 70 เม็ดในตัวผู้ตายด้วย และยังพบกบหลายตัวและปลาหมอในถุงปุ๋ย เรื่องยาบ้าอันนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ตำรวจ ที่ต้องไปสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ว่า ยาบ้านั้นเป็นของใคร และผู้ตายถูกใครนัดออกมาให้เจอหรือไม่
ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางรุ่งฤดี ภรรยาของผู้เสียชีวิต บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองยอมรับว่าในอดีตสามีเคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจริง แต่ในวันเกิดเหตุสามีเดินทางออกไปส่องกบและหาปลาจริง ๆ และสามีไม่ได้มีโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย จึงเป็นไปไม่ได้ที่สามีจะออกไปส่งยาเสพติดให้กับใคร ส่วนยาเสพติดที่พบตนเองเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะนำมายัดไว้ในตัวของสามี เพื่อให้ตำรวจหลงประเด็นมากกว่า
และเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับตนเอง ว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีมากกว่า 1 คนในการก่อเหตุ ซึ่งตนเองยังเชื่อว่าปมเหตุที่สามีถูกยิงเสียชีวิต น่าจะมาจากความขัดแย้งปัญหาส่วนตัวเรื่องของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันนำวัวมากินหญ้า และพืชผักในไร่ของตนเอง และสามีเกิดความไม่พอใจ และอาจจะพูดอะไรไม่ดีใส่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ 2 ปีก่อน นายชาติเพื่อนบ้านติดกันซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย ก็เคยเอาวัวมากินพืชผักของตนเอง และต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับสามีตนเองมาแล้ว
ซึ่งหากเป็นแบบนั้นจริง ตนเองก็อยากถามว่าทำแบบนี้มันเกินไปหรือไม่ ทำไมไม่เห็นใจลูกน้อยของพวกตนเองบ้าง จะทำร้ายสามีจนเจ็บเพื่อสั่งสอนตนเองไม่ว่าเลย แต่นี่ถึงขั้นต้องฆ่ากันถึงตายเลยหรือ โดยตัวเองอยากให้ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด