จากกรณีวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 17.24 น. เกิดอุบัติเหตุรถรีเฟอร์ รพ.พร้าว ชนกับรถกระบะ บริเวณถนนทางหลวง หมายเลข 1001 เส้นเชียงใหม่-พร้าว บ้านหลวง ม.6 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขณะที่รถรีเฟอร์ รพ.พร้าว ส่งตัวผู้ป่วยหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอดไปที่ รพ.สันทราย ขาไป ขับมาด้วยความเร็ว 67 กม./ชม. ซึ่งขณะเกิดเหตุฝนตก ถนนลื่น ทำให้รถกระบะที่กำลังกลับจากแม่แตง วิ่งสวนกันมาด้วยความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกับรถพยาบาล ส่งผลให้ผู้ป่วยหญิงท้องแก่เสียชีวิตพร้อมลูกในท้องคน และในรถกระบะเสียชีวิต 3 ราย รวมทั้งหมด 5 ศพ บาดเจ็บอีก 6 ราย นั้น

ล่าสุด (10 พ.ค. 2567) ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดมุมที่ 1 เวลา 16.56 น. จะเห็นว่ารถรีเฟอร์ รพ.พร้าว ขับรถส่งผู้ป่วยใกล้คลอด ออกจาก รพ. พร้าว มุ่งหน้า รพ.สันทราย จากนั้นภาพวงจรปิดมุมที่ 2 เวลา 16.58 น. รถรีเฟอร์ รพ.พร้าว ผ่านหน้าสามแยกไฟแดง หน้าอำเภอพร้าว และผ่านจุดหน้าศูนย์กู้ชีพ-กู้ภัย พร้าววังหิน

จากนั้นภาพวงจรปิดมุมที่ 4 เวลา 17.17 น. รถรีเฟอร์ รพ.พร้าว ขับผ่านด่านตรวจพิทักษ์ธรรม ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. ด้วยความเร็ว 67 กม./ชม. ซึ่งถือว่ารถรีเฟอร์ รพ.พร้าว ไม่ได้ขับมาด้วยความเร็ว

ขณะที่วันนี้บรรยากาศหน้าหน่วยรักษาศพโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ทางญาติผู้เสียชีวิตได้เดินทางมารับศพเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลศพต่อไป โดยฝั่งรถกระบะ 3 ศพ ซึ่งมี 2 สามีภรรยา คือ นายยงยุทธ คนขับรถกะบะ คู่กรณี อายุ 51 ปี , นางดาวเรือง อายุ 46 ปี และคนในหมู่บ้านเดียวกัน คือ นางสุนี อายุ 54 ปี จะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าฮิ้น อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่

ส่วนศพของ น.ส.ภูษณิศา อายุ 26 ปี พร้อมทารกที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ผ่าคลอดออกมา หลังจากเสียชีวิตแล้ว เป็นทารกเพศชาย น้ำหนัก 3,000 กว่ากรัม ทางญาติจะรับศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดปงคก หมู่4 ตำบลหลวงใต้ อำเภองาว จังหวัดลำปาง

ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นางสาวปรียานันท์ ญาติคนเสียชีวิตฝั่งรถกระบะ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ฝั่งรถกระบะนั่งมาด้วยกัน 6 คน มาทำธุระที่กาดหลวงหรือตลาดวโรรส หลังจากเสร็จภารกิจก็เดินทางกลับ จนไปประสบอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต 3 ราย และยังบาดเจ็บนอนพักรักษาตัวโรงพยาบาลอีก 3 ราย

ด้านนางเพ็ญ ซึ่งเป็นญาติกับ น.ส.ภูษณิศา หญิงท้องแก่ที่เสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง บอกกับผู้สื่อข่าวว่าในส่วนทางคดีนั้นทางญาติต้องไปหารือกันก่อน ส่วนการจะกลับมาเชิญวิญญาณสองแม่ลูกคงต้องเตรียม ของและนิมนต์พระมาจากจังหวัดลำปางจะมาทำพิธีในวันหลัง

สำหรับสาเหตุนั้น ทางญาติผู้เสียชีวิตเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า น.ส.ภูษณิศา หลังแต่งงานอยู่กินกับสามีแล้ว ได้พักอยู่กับครอบครัวที่อำเภองาว จังหวัดลำปาง ต่อมาเมื่อท้องใหญ่ขึ้น ทางครอบครัวฝ่ายชายได้ไปขอรับมาอยู่ด้วยที่อำเภอพร้าว ได้ประมาณเดือนเศษ เพื่อจะนำมาคลอดที่อำเภอพร้าว

แต่เมื่อช่วงตี 3 คืนวันก่อน ผู้ตายได้เกิดเจ็บครรภ์จะคลอด ทางญาติจึงได้นำส่งโรงพยาบาลพร้าว และทาง รพ. ได้ฉีดยาเร่งคลอดให้ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถคลอดตามธรรมชาติได้ จึงได้ส่งผู้ตายมาผ่าคลอดที่โรงพยาบาลสันทราย แต่มาประสบเหตุเสียชีวิตระหว่างทางเสียก่อน พร้อมกับลูกในท้อง