จากกรณี นายนิพัฒน์ หรือ ดุก อายุ 35 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง เข้าที่ โหนกแก้มทะลุศีรษะด้านซ้าย เสียชีวิตคาบ้านพัก หมู่ 9 บ้านไสนายขันตก ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง โดยภรรยาของผู้ตายไปพบสามีกลายเป็นศพเมื่อ 20.40 น. เมื่อวานนี้ (10 พ.ค.)
ล่าสุดวันนี้ (11 พ.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบว่า บ้านหลังนี้อยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ชีวิต คือ 1.นายพิพัฒน์ ผู้ตาย 2. เจี๊ยบ ภรรยาของผู้ตาย 3. นางพวง แม่ของผู้ตายซึ่งป่วยเป็นโปลิโอ พิการเดินไม่ได้ และ 4. ตาของผู้ตาย ซึ่งแก่และหูหนวก ส่วนจุดที่พบศพอยู่บริเวณแคร่หลังบ้าน นอกจากนี้ที่ต้นมะม่วงหน้าเเคร่ไม้ ทีมข่าวพบรอยกระสุนเจาะใบมะม่วงจนเป็นรูหลายรู
ต่อมาทีมข่าวได้สอบถามภรรยาผู้ตาย บอกกับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อวานนี้ตอนช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ตนเองได้บอกกับสามีว่าจะออกจากบ้านไปช่วยจัดเตรียมงานบวชของญาติ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 50 เมตร และมีการชักชวนสามีออกมาที่งานบวชด้วยกันแล้ว แต่สามีอ้างว่าขออาบน้ำแล้วจะไปหาปลาก่อนค่อยไปช่วยที่งานบวช ตอนนั้นตนเองก็ไม่ทันได้สังเกตว่ามีผู้ต้องสงสัยหรือคนแปลกหน้าดักซุ่มอยู่ที่บริเวณบ้านหรือไม่ โดยก่อนที่ตนเองจะออกจากบ้าน ก็เห็นว่าสามีกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บริเวณเเคร่ตรงจุดที่พบศพ
หลังจากนั้นตนเองก็ออกไปช่วยบ้านงานบวชตามปกติ จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ตนเองได้ยินเสียงดังปังขึ้น 1 ครั้ง แต่ตอนแรกยังไม่ทันได้เอะใจ คิดว่าเป็นเสียงหม้อแปลงระเบิด หรือเสียงประทัด เพราะปกติเเถวนี้ก็มีคนจุดประทัดเล่นอยู่เเล้ว หรือไม่ก็เสียงคนที่อยู่ในงานบวชจุดประทัดเล่น
กระทั่งประมาณ 20.40 น. ตนเองเดินกลับมาที่บ้านเพื่อจะเอาใบหมากพลูไว้ทำน้ำมนต์ที่หลังบ้าน ก็เจอสามีนอนหงายอยู่บนเเคร่ ตนเองพยายามเรียกเเล้วเเต่ไม่ฟื้น จึงตะโกนเรียกคนในบ้านให้ออกมาช่วยกันดู ก่อนจะพบว่าสามีเสียชีวิตเเล้ว ตอนนั้นตนเองรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตนเองและคนในบ้านไปให้ปากคำ กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งก็ช่วงเวลา 03.00 น. ของวันนี้
ส่วนปมสาเหตุตนเองก็ยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะตลอดระยะเวลา 8 ปีที่อยู่ด้วยกันมา สามีของตนเองไม่เคยมีปัญหาหรือมีเรื่องบาดหมางอะไรกับใคร ยืนยันได้ว่าสามีไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เขาจะเสพกัญชาและดื่มน้ำกระท่อมเท่านั้น สาเหตุเดียวที่ตนเองคิดได้ตอนนี้คือเรื่องโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ที่สามีเก็บได้ ระหว่างทางกลับบ้านที่ ตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
โดยเมื่อช่วงก่อนสงกรานต์ สามีของตนเองได้ไปเจอโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องสีขาว (iPhone 15 promax) สามีก็นำเก็บกลับมาที่บ้านด้วย โดยที่ยังไม่ได้เอาไปขายหรือตีราคาที่ไหน หลังจากที่สามีกลับมาถึงบ้านในวันเดียวกัน ก็มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งคาดว่าเป็นเจ้าของไอโฟนขับรถมาจำนวนมาก มาจอดหน้าบ้านและถามหาถึงโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว
แต่ตอนนั้นสามีของตนปฏิเสธบอกว่าไม่รู้ไม่เห็น ส่วนสาเหตุที่ไม่ยอมคืนให้ เป็นเพราะว่าสามีกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี เนื่องจากเขาเคยหนีทหารมาก่อน จึงกลัวว่าถ้าตัวเองถูกจับติดคุกจะไม่มีใครดูแลแม่ที่พิการ หลังจากนั้นผ่านไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์ เจ้าของไอโฟนคนกลุ่มเดิมก็มาพร้อมกับตำรวจนอกเครื่องแบบมาทวงถามหาโทรศัพท์อีกครั้งที่ 2 แต่ตอนนั้นตนเองและสามีไม่อยู่บ้าน ทั้งหมดจึงกลับไป
กระทั่งครั้งที่ 3 ภายในช่วงเดือนเมษายนเช่นกัน ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเกิดเหตุ ผู้ใหญ่ดำ ตำบลตำนาน อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ได้เดินทางมาพร้อมกับเจ้าของไอโฟน ได้มาทวงถามหาโทรศัพท์อีกครั้ง เนื่องจากยังเห็น GPS ไอโฟนยังอยู่แถวบ้านของสามี แต่คราวนี้สามีของตนเองอ้างว่า ได้นำไอโฟนไปโยนทิ้งที่คลองหลังบ้านแล้ว โดยผู้ใหญ่ก็บอกว่าให้เวลา 3 วันในการงมหา แม้ว่าจะเหลือแต่ซากก็ต้องเอากลับมาให้ได้ แต่สามีพยายามหาแล้วก็ไม่เจอ
ทั้งนี้ ถ้าหากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกี่ยวข้องกับเรื่องโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นจริง ๆ ตนก็มองว่าคนร้ายทำเกินกว่าเหตุไปมาก เเละอยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ยืนยันสามีไม่เคยมีศัตรูที่ไหนนอกจากเรื่องนี้
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่บ้านของผู้ใหญ่ดำ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านอีกตำบล ที่เมียของผู้ตายอ้างว่า ผู้ใหญ่ดำคนนี้ ได้เดินทางมาทวงโทรศัพท์มือถือกับผู้ตายครั้งสุดท้ายช่วงเดือนเมษายน ก่อนที่สามีของเธอจะถูกยิงตาย แต่เมื่อทีมข่าวเดินทางไปถึง ยังไม่ทันจะสอบถามข้อมูล ผู้ใหญ่ดำ กลับรีบขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน พร้อมบอกให้ทีมข่าวรีบถอยรถให้ออกไปไกล ๆ จากบ้านตนเองซะ อ้างว่า จะต้องการไปงานเผาศพของลูกบ้าน จอดเกะกะทางเข้าบ้าน
จากนั้นทีมข่าวพยายามสอบถามผู้ใหญ่ดำอีกครั้ง เรื่องที่ผู้ใหญ่ดำเดินทางไปทวงโทรศัพท์กับผู้ตายเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ทีมข่าวกลับถูกผู้ใหญ่ดำต่อว่าอย่างหนัก บอกว่า "ไม่คุย ๆ ไม่รู้เรื่อง" ขณะนั้นช่างภาพของเราเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี จึงได้รีบยกโทรศัพท์มือถือบันทึกคลิปไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ว่า ผู้ใหญ่ดำ กำลังจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปโดยไม่ให้ข้อมูล
แต่เมื่อผู้ใหญ่ดำ เห็นช่างภาพของเรากำลังบันทึกภาพ ได้หันกลับมาหาช่างภาพของทีมข่าว พร้อมด่าต่อว่า "มึงอย่าถ่าย กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่าถ่าย" จากนั้น ผู้ใหญ่ดำ ได้กระชากโทรศัพท์มือถือของทีมข่าวไปและสั่งให้ช่างภาพลบคลิปที่บันทึกไว้ โดยช่างภาพได้ลบให้ตามคำสั่ง และลบไม่หมด และกู้คลิปดังกล่าวเอาไว้ได้
เบื้องต้นทีมข่าวช่อง 8 ได้ตรวจสอบประวัติของผู้ใหญ่ดำ พบว่า ผู้ใหญ่ดำนั้นเป็นน้าชายแท้ ๆ ของเสี่ยแป้ง นาโหนด หรือ นายชวลิต ทองด้วง ที่ปัจจุบันยังหลบหนีคดีอยู่ โดยทั้งคู่ค่อนข้างสนิทสนมกันมาก
ขณะเดียวกันช่วง 5 โมงเย็นที่ผ่านมา ญาติได้นำร่างของนายนิพัฒน์ ผู้เสียชีวิตมาประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีพิธีรดน้ำศพที่วัดทุ่งลาน จังหวัดพัทลุง ท่ามกลางความโศกเศร้าของแม่ผู้เสียชีวิต ภรรยาและญาติ ๆ ต่างร้องไห้ถึงการจากไปของผู้ตาย
ขณะที่ สภ.เมืองพัทลุง เจ้าของโทรศัพท์ไอโฟนที่ถูกภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวถึง ได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุดังกล่าว ซึ่งใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ โดยเจ้าของโทรศัพท์ซึ่งเป็นเด็กสาววัย 18-19 ปี เบื้องต้นบอกว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็น สื่อนำเสนอข่าวแบบนั้นทำให้ตนเองเสียหาย