วันที่ 11 พ.ค. 2567 มีรายงานว่า เกิดเหตุสุดสลดที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ โดย น.ส.สุธิสา อายุ 19 ปี สาวท้อง 8 เดือน เผาขยะแล้วกระป๋องสเปรย์ดับกลิ่นปากระเบิด เศษวัสดุเจาะคอเสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านที่เกิดเหตุ พบกองขยะอยู่บริเวณข้างบ้าน มีรอยเผาไหม้บางส่วนและมีรอยเลือดหลงเหลืออยู่เล็กน้อย โดยไม่มีใครอยู่บ้าน
จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปที่วัดเถรพลาย ซึ่งญาติ ๆ ได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติจากต่างจังหวัดเริ่มทยอยเดินทางมาร่วมฟังพระสวดอภิธรรม เมื่อมาถึงจุดธูปไหว้ศพ ได้กอดโลงเย็นมองร่างหลานและเหลนอย่างเศร้าเสียใจ ส่วนการรดน้ำศพจะรอปู่กับย่าของผู้เสียชีวิตก่อน โดยจะเดินทางมารดน้ำศพ อาจเป็นในวันพรุ่งนี้ แต่คืนนี้จะสวดพระอภิธรรมก่อน 1 คืน
โดย น.ส.วิพาดา แม่ของผู้เสียชีวิต นำภาพลูกสาวมาตั้งหน้าที่ตั้งศพพร้อมเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อสองวันก่อนลูกสาวเพิ่งจะมาหา มาพูดคุยและอยู่กับตนตามปกติ และมาบอกว่าจะคลอดในวันที่ 24 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ โดยไม่มีลางบอกเหตุอะไร ก่อนที่ลูกสาวจะกลับบ้านไป จนช่วง 6 โมงเช้าวันนี้ มีคนโทร. มาแจ้งว่า ลูกสาวเลือดออกมาก ตนเลยรีบเดินทางไปหาลูกระยะทางห่างกันประมาณ 4-5 กิโลเมตร เมื่อมาถึงก็ไม่ทันแล้ว เห็นว่าลูกสาวสิ้นใจแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องผ่าเอาเด็กออกก่อน จึงจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลได้ ตนจึงขอให้ทางเจ้าหน้าโรงพยาบาลผ่าเอาศพเด็กออก
โดยตนได้สอบถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าให้ตนฟังว่า ลูกสาวได้กวาดขยะเผาขยะ ก่อนจะได้ยินระเบิดดังสนั่น โดยมีวัตถุทิ่มคอลูกสาว โดยปู่ของแฟนลูกสาวได้เรียกแฟนลูกสาวออกมาดู ก่อนจะรีบห้ามเลือดและแจ้งผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ แต่ตอนนั้นเลือดลูกไหลห้ามเลือดแล้วก็ไม่หยุด โดยลูกสาวได้สิ้นใจตรงที่เกิดเหตุเลย
โดยเมื่อ 4-5 วันที่แล้ว ตนได้พูดหยอกล้อกับลูกสาวว่า แม่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก จะเข้ารักษาวันที่ 17 พ.ค. นี้ ยังพูดแหย่ลูกเล่นว่า อยากให้ลูกสาวมานอนเฝ้า โดยจะจ้างให้มาเฝ้าวันละ 200 บาท แต่ก็ไม่คิดว่าลูกสาวจะไปก่อน ตนยังคิดเลยว่าตนคงต้องตายก่อนลูกสาว แต่นี่ลูกมาเสียไปก่อน ตอนนี้ตนก็ยังทำใจไม่ได้ อยากบอกลูกสาวว่า ถ้าเกิดมาชาติหน้าอยากให้ลูกและหลานมาเกิดเป็นลูกตนอีก
ด้าน นายเมธิน สามีผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนอยู่กับภรรยาตลอด โดยคบกันมาได้ประมาณปีกว่า ๆ ปกติภรรยาจะมาปลุกตนให้ตื่นไปอาบน้ำไปทำงาน แต่วันนี้ผิดปกติตรงที่ว่า ทุกทีที่ภรรยาเรียกจะโวยวาย เสียงดัง แต่วันนี้ภรรยามาเรียกด้วยเสียงนุ่ม ๆ ดูเหนื่อย ๆ ซึ่งผิดแปลกไปจากทุกวัน จึงทำให้ตนยังนอนอยู่แล้วออกไปช้ากว่าเดิม
โดยตอนช่วงเกิดเหตุปู่ของตนตะโกนเรียก จึงออกไปและเห็นภรรยาล้มจมกองเลือดอยู่ข้างกองขยะ ตนจึงรีบเข้าไปพยุงและช่วยห้ามเลือด ซึ่งตอนนั้นภรรยายังหายใจและมองหน้าตน แต่ไม่นานภรรยาก็เริ่มตาเหลือกและไม่รู้สึกตัวแล้ว ตอนนั้นตนพยายามเรียกภรรยาไว้ บอกว่าไม่เป็นไร ๆ เดี๋ยวไปโรงพยาบาล แต่สุดท้ายภรรยาก็เสียชีวิตในอ้อมกอด หลังจากนี้ยังคงมืดแปดด้านทำอะไรไม่ถูก เพราะเสียใจมาก อยากฝากเมียกับลูกเป็นครั้งสุดท้ายว่า ไม่ต้องห่วงขอให้ไปดี