เร่งล่า 2 เกาหลี ก่อเหตุฆ่าโบกปูนเพื่อนร่วมชาติ แล้วนำไปถ่วงน้ำที่พัทยา ตำรวจเผยผู้ก่อเหตุโทรขู่แม่เหยื่อ รีด 3 ล้าน อ้างลูกชายพัวพันยาเสพติด เบื้องต้น พบ 1 คนเผ่นออกนอกประเทศแล้ว

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2567 ชุดสืบสวนตำรวจนครบาล ได้ประสาน นักประดาน้ำมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ให้ช่วยดำค้นหาถังน้ำพลาสติกสีดำ บริเวณบ่อขุด ข้างอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยนักประดาน้ำใช้เวลาดำค้นหา 1 ชั่วโมง จึงพบถังน้ำจมอยู่ที่ก้นบ่อ ลึกประมาณ 3 เมตร ห่างจากขอบฝั่ง 2 เมตร นักน้ำประจึงใช้เชือกดึงขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เพราะมีน้ำหนักมาก ต้องใช้เวลาถึง 30 นาที ถึงนำขึ้นฝั่งได้สำเร็จ

ตรวจสอบภายในถัง พบปูนโบกอยู่เต็มถัง เจ้าหน้าที่ต้องใช้มีดเปิดก้นถังพลาสติก จึงพบศพชายชาวเกาหลี ชื่อ โรห์ อึน จง อายุ 34 ปี ถูกฆ่าโบกปูนอยู่ด้านใน สภาพเปลือย นิ้วมือทั้งสองข้างถูกตัด ตำรวจคาดว่า ผู้ตายถูกมาเฟียร์เพื่อนร่วมชาติฆ่า ก่อนนำศพมาทิ้งอำพรางคดี

 

สำหรับไทม์ไลน์เหตุการณ์นี้ เริ่มจาก เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ชุดสืบนครบาล และตำรวจ สน.คลองตัน ได้รับการประสานจาก สถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ว่า โรห์ อึน จง หายตัวไป และสันนิษฐานว่าจะถูกลักพาตัว เนื่องจาก มีบุคคลปริศนาชาวเกาหลี ใช้มือถือของผู้ตายโทรไปหาแม่ของ โรห์ อึน จง ที่ประเทศเกาหลีใต้ และข่มขู่ให้โอนเงิน 3 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นลูกชายจะถูกฆ่า และนำอวัยวะไปขาย อ้างว่า ลูกชายได้นำยาเสพติดไปทิ้งน้ำ ทำให้ได้รับความเสียหาย ตำรวจนครบาล จึงเริ่มตั้งชุดทีมสืบสวนระดมกำลังติดตามตัว โดยมีเบาะแสแรกจากภรรยาชาวไทยของ โรห์ อึน จง ว่าเจอกันครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผับย่านอาร์ซีเอ ตำรวจจึงไล่กล้องวงจรปิด

จนไปพบว่า ตี 2 วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 มีชายเกาหลี 2 คนประกบ โรห์ อึน จง แล้วพาขึ้นรถไป เมื่อตรวจสอบพบว่า รถดังกล่าวเป็นรถเช่า ก่อนขับมุ่งหน้าพัทยา แล้วเปลี่ยนรถเช่าคันใหม่ เป็นรถกระบะ และเข้าที่พัก (เช่า) ใกล้กับอ่างเก็บน้ำมาบประชัน จุดที่พบศพ ต่อมา รถกระบะคันดังกล่าว ได้ไปซื้อถังพลาสติกสีดำ ซื้อเชือกร้านภายในซอยสยามคันทรีคลับ เพื่อเตรียมการ ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนต่อ พบว่ารถกระบะคันดังกล่าวได้มาจอดรถบริเวณอ่างน้ำมาบประชันประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะกลับไปยังที่พักที่เช่าไว้ จึงเป็นที่มาของการงมค้นหาจนพบศพ

ส่วนคนร้าย 2 ราย สามารถระบุตัวบุคคลได้แล้วว่า ชายชาวเกาหลีใต้ทั้ง 2 ราย ซึ่ง 1 รายได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ส่วนอีก 1 ราย ยังไม่พบการเดินทางออก อยู่ระหว่างการติดตามตัว มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพของผู้ตาย ได้ส่งไปชันสูตร ก่อนจะให้ภรรยา และเจ้าหน้าที่สถานทูตเข้าตรวจสอบ เพื่อยืนยันตัวบุคคลอีกครั้ง