"ศรีสุวรรณ" นำชาวงามวงศ์วาน 59 ฟ้องผู้ว่าฯกทม. ทนดูไม่ได้โค่นต้นไม้ เอื้อบ้านมั่นคง
วันนี้ (13 พ.ค.67) เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมกับชาวบ้านในซอยงามวงศ์วาน 59 เขตจตุจักร กทม. ได้เดินทางมาศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นฟ้อง ผู้ว่าฯกทม. ผอ.เขตจตุจักร อธิบดีกรมธนารักษ์ และ ผอ.สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) ฐานใช้อำนาจหรือดุลยพินิจโดยมิชอบและละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ กรณีตัดโค่นต้นไม้ใน ซ.59 อายุ 50-100 ปีจนหมดสิ้น รวมทั้งทำลายถนนในซอย เพื่อนำไปก่อสร้างบ้านมั่นคง
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก กทม.ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) ได้ไล่รื้อชาวบ้านที่ปลูกบ้านในคลองเปรมประชากรประมาณ 13 หลังและชาวบ้านในชุมชนข้างวัดเทวสุนทรอีก 40 กว่าหลัง ให้ขึ้นมาสร้างบ้านมั่นคง เพื่อที่ กทม.จะได้สร้างเขื่อนริมคลองป้องกันการบุกรุกอีก แต่ทว่ากลับมีจำนวนคนที่จะเอาบ้านมั่นคงเพิ่มขึ้นเกือบ 100 หลัง ทำให้ต้องย้ายสถานที่ก่อสร้างบ้านมั่นคงจากพื้นที่ชุมชนเดิมใกล้วัดเทวสุนทรขยายมาจับจองเอาบริเวณพื้นที่ปากซอยงามวงศ์วาน 59 ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นสวนสาธารณะมีต้นไม้ขนาดใหญ่อายุ 50-100 กว่าปีขึ้นอยู่มากหมายหนาแน่น พร้อมกับทบถนนเดิมทิ้ง แล้วไปก่อสร้างแนวถนนขึ้นมาใหม่ ห่างจากจุดเดิมกว่า 10 เมตร โดยอ้างว่าขอเช่าจากกรมธนารักษ์แล้ว
สวนสาธารณะและถนนเดิมดังกล่าวเป็นที่สาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันมานานกว่า 100 ปี จะเป็นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ได้อย่างไร และก่อนหน้านี้ กทม.นำงบประมาณแผ่นดินจากภาษีของประชาชนไปปรับปรุงปูแอสฟัสต์ได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่ที่สาธารณะที่พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนั้น การตัดโค่นต้นไม้ไปกว่า 100 ต้นนั้น เป็นการขัดแย้งต่อนโยบายผู้ว่าฯชัชชาติโดยตรงที่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมไว้มากมาย อาทิ นโยบายพัฒนาพื้นที่ปลอดฝุ่น (BKK Clean Air Area) ด้วยต้นไม้สำหรับพื้นที่เปิด ด้วยเครื่องฟอกอากาศสำหรับพื้นที่ปิด นโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง นโยบายสวน 15 นาที ทั่วกรุง นโยบายสนับสนุนการแปลงที่ของประชาชนและเอกชนให้เป็นพื้นที่สีเขียว นโยบายเพิ่มเวลา เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เพิ่มการเข้าถึงสวนและพื้นที่สาธารณะ นโยบายดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ปล่อยมลพิษ นโยบายจัดทีม'นักสืบฝุ่น' ศึกษาต้นตอ PM2.5 นโยบายพื้นที่สาธารณะเอนกประสงค์ทั่วกรุง ฯลฯ
การกลืนน้ำลายตนเอง โดยการตัดต้นไม้ในซอยดังกล่าวออกทั้งหมด เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับสหกรณ์เคหสถานที่จะมาสร้างบ้านมั่นคง และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เป็นเรื่องที่ชาวบ้านในซอยงามวงศ์วาน 59 ดั่งเดิมยอมรับไม่ได้ จึงได้ร้องขอให้สมาคมต่อต้านโลกร้อนมาช่วยฟ้องคดีต่อศาลปกครองให้ เพื่อระงับการกระทำดังกล่าวและให้ศาลสั่งให้ กทม.เอาต้นไม้ใหญ่ชนิดเดิมกลับมาปลูกเหมือนเดิมต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด