จากกรณีเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ร.ต.ท.หญิง สิริยาภรณ์ คงเพชรศักดิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งเหตุมีรถกระบะทับเด็ก เหตุเกิดในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หนังรับแจ้งพร้อมมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา เร่งรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ทางด้านเจ้าหน้าที่จึงกันผู้มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่บริเวณเกิดเหตุ เพื่อทำการช่วยเหลือเด็กชายฟิลิปป์ วัย 3 ขวบ 6 เดือน สัญชาติเอสโตเนีย นอนจมกองเลือดหมดสติ บริเวณศีรษะมีบาดแผลขนาดใหญ่อยู่บนถนน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต ก่อนจะทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นเคลื่อนย้ายรักษาตัวเร่งด่วนที่โรงพยาบาล

ตรวจสอบพบรถกระบะคันที่เหยียบมี น.ส.โศรยา อายุ 44 ปี เป็นคนขับ ไม่ได้หลบหนีไปไหนยืนช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจสุดขีด เบื้องต้น คิดว่าขับรถเหยียบหมาแต่เมื่อลงมาดูกลับกลายเป็นเหยียบเด็ก นั้น

ล่าสุด (14 พ.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุภายในหมู่บ้าน เวลา 17.00 น. ของวานนี้ (13 พ.ค) จากภาพวงจรปิดจะเห็นก่อนเกิดเหตุ พี่สาวของเด็กชายฟิลิปป์วิ่งออกมาจากบ้านพักแล้วข้ามถนนไปยังบ้านญาติที่อยู่ตรงข้าม ต่อมาไม่นานเด็กชายฟิลิปป์ก็วิ่งข้ามถนนตาม

โดยเด็กชายไม่ทันระวังมองว่าขณะนั้นมีรถกระบะในหมู่บ้านที่กำลังวิ่งตรงมา ทำให้จังหวะที่เด็กวิ่งข้ามถนน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถขับมาพอดีและเกิดการชนขึ้น หลังชนจะเห็นรถขยับมาข้างหน้าและเกิดการกระตุก ก่อนพี่สาวเด็กและพ่อของเด็กจะข้ามถนนเพื่อมาดูและเร่งช่วยเหลือเด็กชายฟิลิปป์

ในขณะที่มีกล้องวงจรปิดหน้ารถของคนก่อเหตุบันทึกไว้ได้ขณะเกิดเหตุ ซึ่งตอนที่ชนรัศมีกล้องหน้ารถจับภาพไม่เห็นวัตถุที่ชนเนื่องจากมีขนาดเล็ก คนขับก็ร้องด้วยความตกใจและคิดว่าชนสุนัข แต่ปรากฏว่าพอลงจากรถก็ต้องร้องกรี๊ดด้วยความตกใจเพราะชนเด็ก

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กในตำบลหนองปรือ โดยลักษณะหมู่บ้านมีซอยถนนเพียงเส้นเดียว ซึ่งทุกบ้านหากจะใช้รถใช้ถนนต้องผ่านเส้นนี้ก่อนออกนอกประตูหน้าหมู่บ้าน ซึ่งบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่ส่วนกลางของหมู่บ้าน และจุดที่รถชนอยู่หน้าบ้านพักของเด็กชายฟิลิปป์ ผู้เสียชีวิต จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของคนก่อเหตุ อยู่ห่างจากบ้านของผู้เสียชีวิตประมาณ 200 เมตร ปรากฏว่าเจ้าตัวไม่อยู่ในบ้านพัก แต่เดินทางไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.หนองปรือ

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายวิวัฒน์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา เล่าว่า สันนิษฐานช่วงที่เกิดเหตุเด็กชายวิ่งตามพี่สาวข้ามถนนไป โดยที่ไม่ได้สังเกตุเห็นรถที่กำลังขับมา จนกระทั่งถูกล้อรถชนส่งผลให้เด็กชายล้มลง แล้วรถก็ไปเหยียบบริเวณช่วงกลางศรีษะและช่วงกลางอกของเด็กชายจนบาดเจ็บ แต่เคราะห์ดีว่ารถไม่ได้มาด้วยความเร็วน้ำหนักแรงส่งเลยทำให้เด็กบาดเจ็บในช่วงแรกยังไม่เสียชีวิต

ด้วยความที่ญาติตกใจก็เลยไปขยับเขยื้อนร่างของเด็ก ออกจากจุดที่เด็กถูกรถชนโดยการอุ้มเด็ก ซึ่งตอนนั้นทางอาสาสมัครกู้ภัยยังไปไม่ถึงที่เกิดเหตุ ญาติมีการเคลื่อนร่างกายเด็กโดยที่ไม่รู้ว่าเด็กกระดูกต้นคอหัก กระดูกซี่โครงหัก และกระดูกเอวหัก อีกทั้งมีการทำปั๊มหัวใจเอง เมื่อทางอาสาสมัครกู้ภัยไปถึงก็พบว่าเด็กสิ้นลมหายใจแล้ว กู้ภัยก็มีการปั๊มหัวใจเพื่อช่วยเหลือและปฐมพยาบาลเบื้องต้นแต่ปรากฏว่าไม่ทันแล้วเด็กเสียชีวิต ทางอาสาสมัครกู้ภัยจึงสลดเพราะตอนแรกเด็กยังไม่เสียชีวิต ถ้าหากมีการปฐมพยาบาลและช่วยอย่างถูกวิธีเด็กจะรอด

จึงอยากเตือนญาติผู้ประสบภัยว่าหากเกิดเหตุ อย่าเพิ่งเคลื่อนร่างผู้บาดเจ็บออกจากที่เกิดเหตุ ให้รอทางอาสาสมัครกู้ภัยไปช่วยเหลือ ซึ่งอาสาสมัครกู้ภัยจะรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากมีการช่วยเหลือเบื้องต้นแบบผิด ๆ อาจจะทำให้ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตหรืออาจรอดแต่พิการ

ขณะที่บรรยากาศ สภ.หนองปรือ ทาง ร.ต.ท.หญิง สิริยาภรณ์ คงเพชรศักดิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.หนองปรือ เรียกทั้งพ่อแม่เด็กชายฟิลิปป์และนางสาวโศรยา ผู้ก่อเหตุ มาพูดคุยกันเพื่อหาทางออก เนื่องจากหลักฐานที่เกิดขึ้นเกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งนางสาวโศรยา มีการชี้แจงกับพ่อแม่เด็กถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนพ่อแม่เด็กแม้จะไม่ได้ร่ำไห้แต่ก็อยู่ในอาการสะเทือนใจหนัก และจุกจนพูดไม่ออกที่สูญเสียลูก

ทั้งนี้ จะมีบางช่วงบางตอนหลังจากทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันที่โรงพักเสร็จ ก็เดินออกมานอกโรงพักและมาพูดคุยกันอีกรอบ ซึ่งนางสาวโศรยา ผู้ก่อเหตุ ถึงกับร่ำไห้ต่อหน้าพ่อแม่เด็ก เนื่องจากก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน โดยนางสาวโศรยา เปิดใจกับช่อง 8 เพียงสั้น ๆ ว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้เกิดขึ้นเร็วมาก ตนไม่ได้ตั้งใจและทั้งหมดเป็นอุบัติเหตุ โดยตนเองได้ขอโทษพ่อแม่เด็กไปแล้ว ก็รู้สึกสบายใจขึ้นแต่ไม่ทั้งหมดเพราะเสียใจที่เด็กเสียชีวิต

ในขณะที่ศพของน้องฟิลิปป์ที่เสียชีวิต ทางตำรวจได้ส่งชันสูตรศพทางสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจแล้ว โดยพ่อแม่เด็กได้มาขอเอกสารเพื่อนำไปยื่นรับศพที่โรงพยาบาลตำรวจ จากนั้นจะมีการนำร่างของลูกชายมาประกอบพิธีตามหลักศาสนาคริสต์