กรณีเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 พ.ค. ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ตำบลคลองฉนาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ฝ่ายปกครอง พม.สุราษฎร์ธานี และทีมสถาบันสุขภาพจิตเด็กภาคใต้ ร่วมพูดคุยถึงแนวกระบวนการทำงานติดตามประเมิน ค้นหาข้อเท็จจริง ในกรณีกลุ่มนิรมิตรเทวาจุติ หรือ น้องไนซ์ ก่อนที่จะพร้อมกันไปบ้านของครอบครัวน้องไนซ์ นั้น
วันนี้ 14 พ.ค. 2567 ทีมข่าวช่อง 8 แม่นก น้องไนซ์ และนายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความของครอบครัว "น้องไนซ์" ได้เดินทางมาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้การกับอัยการเกี่ยวกับคดีฟ้องสื่อช่องต่าง ๆ ทีมข่าวได้มาพูดคุยกับแม่นก แม่ของน้องไนซ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ที่เจ้าที่ พม. สุราษฎร์ธานี และทีมสถาบันสุขภาพจิตเด็กภาคใต้ มาที่บ้านตัวเองนั้นเกิดจากการตกลงกันระหว่างตัวเองกับเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้ เนื่องจากตัวเองสะดวกที่จะเจอเจ้าที่ พม. ในวันที่ 13 พฤษภาคม เขาจึงมาที่บ้านตามที่นัดกันไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเจอกันแล้วหนึ่งรอบ
โดยประเด็นที่มีการพูดคุยกันเมื่อวานนี้ ก็เป็นเรื่องของน้องไนซ์ที่มีข่าวต่าง ๆ ในโลกโซเชียล ซึ่งตัวเองก็ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ตัวเองจะขอไลฟ์สด ขณะที่เจ้าที่มาที่บ้านตัวเอง เพราะอยากให้เรื่องทั้งหมดมันจบ สิ่งที่เจ้าหน้าที่มาเมื่อวานก็คือ มาสอบถามข้อธรรมะกับน้องไนซ์ อย่างเช่น เขาได้สอบถามน้องไนซ์เรื่องวิปัสสนากรรมฐาน แต่ตัวเองก็มองว่าคนที่มาถามคำพวกนี้กับน้องไนซ์ จะต้องเป็นคนที่ศึกษาธรรมะมาเหมือนกันถึงจะเข้าใจ เพราะคำตอบที่น้องตอบไป เจ้าหน้าที่เขาก็ดูเหมือนมึนมึนงง น้องไนซ์ก็ได้ถามเจ้าหน้าที่กลับไป เขาก็ตอบไม่ได้
ส่วนที่เจ้าหน้าที่มาบ้านตัวเองเมื่อวานนี้ ตัวเองมองว่าความรู้สึกบางอย่างมันเปลี่ยนไป โดยเจ้าหน้าที่จะเน้นย้ำว่าเขามาเพื่อช่วยเหลือน้องไนซ์ ตัวเองก็อยากจะถามว่าจะมาช่วยเหลืออะไร ? น้องไนซ์ไม่ได้เป็นอะไร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เขาก็ต้องการจะพาน้องไนซ์ไปตรวจสุขภาพ ตัวเองยิ่งมองว่า “มันไม่ใช่” การจะตรวจสุขภาพก็ต้องมีเหตุในการตรวจก่อน ซึ่งถ้าหากทางฝั่งเจ้าหน้าที่เขามีเหตุผลที่สมควรกว่านี้ ตัวเองก็ไม่มีปัญหา ตัวเองยินยอมให้น้องไนซ์ไปตรวจร่างกายแน่นอน
พอเจ้าหน้าที่พาน้องไนซ์ไปตรวจร่างกายไม่สำเร็จ น้องไนซ์ จึงยื่นข้อเสนอกับทางคุณหมอว่า ให้คุณหมอไปสัมภาษณ์น้องไนซ์ในห้องนอนแทนการตรวจ แต่จะมีข้อแม้คือทางฝั่งตัวเองจะต้องมีการอัดคลิป แต่ทางคุณหมอเขาก็ไม่สะดวกที่จะให้อัดคลิป น้องไนซ์ก็เลยตอบกลับไปว่า “งั้นน้องไนซ์ก็ไม่สะดวกเช่นเดียวกัน”
ทางฝั่งตัวเองจึงยื่นข้อเสนอข้อ ให้ทางคุณหมอมาใช้ชีวิตอยู่กับน้องไนซ์หนึ่งวัน เพื่อจะได้รู้ว่าน้องไนซ์เป็นยังไร เพราะการทำกิจกรรมร่วมกัน จะทำให้ทางฝั่งเจ้าหน้าที่ได้รู้ว่า หลังจากได้สัมผัสน้องไนซ์แล้ว แนวทางหลังจากนั้นจะต้องทำอย่างไรต่อ ไม่ใช่มาถึงบ้านตัวเอง แล้วจะต้องการตรวจร่าฃกายน้องอย่างเดียว ซึ่งการมาของเจ้าที่เมื่อวานนี้ ตัวเองคิดว่าเขามาเพราะทนแรงกดดันของกระแสโซเชียลไม่ไหว จึงอยากมาให้มันจบ ๆ ซึ่งตัวเองก็บอกว่าจริง ๆ แล้วมันทำไม่ได้ บ้านเมืองมีกฎหมาย มีขั้นตอน ไม่ใช่คุณนึกอยากจะมาตรวจอะไรก็มาตรวจ
ส่วนกรณี เมื่อวานนี้ ทนายอนันตชัยพร้อมทีมงานได้ไปกองปราบฯ แจ้งความผิดกลุ่มลัทธิเชื่อมจิต 9 คน ในฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ บิดเบือนคำสอนพระพุทธศาสนาพร้อมกับเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนนั้น ตัวเองขอไม่ให้ความสนใจ มองว่าไร้สาระ เพราะมันพูดเรื่องเท็จกันทุกวัน ตัวเองไม่ได้กังวลแต่อย่างใด
ตัวเองอยากถามว่ามันผิดตรง พ.ร.บ.คุัมครองเด็ก ตรงไหน แล้วดารานักร้องที่เอารูปมาแสดงหนังก็ผิดสิ เด็กที่ไปร้องเพลงหรือไปออกรายการก็ผิดสิอย่างนั้น และอยากถามว่าทำไมพวกเขาต้องดิ้นรน ไปออกรายการต่าง ๆ แบบนี้ สิ่งที่พวกเขาไปร้องเรียนเมื่อวานก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยไปร้องเรียนแบบนี้มาแล้วทุกอย่างตัวเองก็ให้การกับเจ้าที่ไปหมด ผลสรุปเส้นทางการเงินของตัวเองทุกอย่างความโปร่งใส
วันนี้ตัวเองได้เดินทางมาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้ปากคำเนื่องจากคดีที่ตัวเองฟ้องสื่อสื่อหนึ่ง กรณีที่เขานำภาพพระพุทธเจ้าและมีใบหน้าของน้องไนซ์ ไปออกข่าวตัวเองจึงมาให้ปากคำรวมถึงพาน้องไนซ์มาให้ปากคำ ด้วยเพราะเรื่องดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายแล้ว
กรณีเพจอีซ้อลงภาพน้องไนซ์สวมชุดดำนั้น ตัวเองก็ยืนยันว่าไม่มีใครเป็นคนเลือกชุดให้น้องไนซ์หรอก น้องไนซ์เขาจะเลือกชุดของเขาเอง แต่ที่เขาสวมชุดสีดำเพราะตอนนั้นน้องไม่ได้อยู่ในสภาวะที่สอนธรรมะ
กรณีเพจอีซ้อ ลงข้อมูลว่า พมจ.สุราษฎร์ธานี ขอยื่นใช้คำสั่งศาลเด็ดขาดหลังถูกพ่อแม่ขัดขวางในการเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่อง อ.น้องไนซ์ นั้น ตัวเองก็ได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่แล้ว ก็ยืนยันว่าไม่เป็นเรื่องจริง
ด้านนายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความของครอบครัว "น้องไนซ์" ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตัวเองได้พาลูกความก็คือแม่น้องไนซ์เดินทางมาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้ข้อมูลกับอัยการเกี่ยวกับเรื่องที่มีการฟ้องสื่อบางสำนัก ที่นำเสนอข่าวเกี่ยวกับภาพตัดต่อรูปน้องไนซ์กับพระพุทธเจ้า โดยมีการแจ้งความตั้งแต่เดือนธันวาคม ที่ผ่านมา วันนี้เลยต้องมาไต่สวน
ส่วนที่ทางฝั่งกองทัพทำไปยื่นเรื่องกับกองปราบเมื่อวานนี้ ตัวเองก็ยังยืนยันว่าไม่ได้กังวลใจ เพราะทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอน เพราะเรื่องของหลักคำสอนต่าง ๆ น้องไนซ์ก็สอนตรงตามหลักอยู่แล้ว และทางเราก็ไม่ได้นำเสนอเรื่องราวอันเป็นเท็จ รวมถึงไม่ได้ผิด พ.ร.บ.เรี่ยไร และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
ล่าสุด แม่น้องไนซ์ได้ส่งคลิปมือถือ น้องไนซ์ที่พูดถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ (พม.) ว่า “น้องไนซ์ว่าครั้งแรกดีกว่าเยอะ แต่ครั้งนี้เขา ไม่ฟังอะไรเราเลย เราพยายามจะอธิบายเขาก็ไม่ฟัง”