จากกรณีเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ฝ่ายปกครอง พม.สุราษฎร์ธานี และทีมสถาบันสุขภาพจิตเด็กภาคใต้ ร่วมกันเดินทางไปที่บ้านของน้องไนซ์ โดยมีการพูดคุยถึงแนวกระบวนการทำงาน ติดตามประเมินค้นหาข้อเท็จจริง ในกรณีกลุ่มนิรมิตรเทวาจุติ และมีคลิปบางช่วงที่เจ้าหน้าที่ พม. ได้ถามน้องไนซ์ถึงเรื่องวิปัสสนากรรมฐานว่าคืออะไร ซึ่งน้องไนซ์ก็ตอบไปว่า วิปัสสนากรรมฐาน คือ ซูม ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ 15 พ.ค. 2567 ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กลุ่มนิรมิตเทวาจุติ นำโดย แม่นก แม่น้องไนซ์ เชื่อมจิต พร้อมนายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.พิชิต ขาวสุวรรณ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี แจ้งดำเนินคดีมาตรา 157 ต่อนายอภิเชษฐ์ ปานจรัตน์ ผู้อำนวยการสถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็กจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมพวก (กรณีที่เข้าไปที่บ้าน เมื่อวันที่ 13 พ.ค.)
แม่นก แม่ของน้องไนซ์ เปิดเผยว่า แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีมาตรา 157 กับเจ้าหน้าที่โดยหนังสือคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นไปตามมาตรา 30 (3) คือมีหนังสือเรียกผู้ปกครองหรือบุคคลอื่นมาให้ถ้อยคำหรือข้อเท็จจริง เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ความประพฤติสุขภาพและความสัมพันธ์ในครอบครัวของเด็ก แต่คณะที่เข้าไปกับทำผิดวัตถุประสงค์ของมาตราดังกล่าว รวมถึงพบว่ามีการข่มขู่น้องไนซ์
ในส่วนคำว่า "ซูม" ที่ทางด้านน้องไนซ์ได้พูดและกำลังเป็นคลิปไวรัลขณะนี้ จริง ๆ คำว่า "ซูม" ของน้องไนซ์ หมายถึง การน้อมจิตไปพิจารณาในสิ่งต่าง ๆ คนที่วิปัสสนากรรมฐานระดับหนึ่งจะเข้าใจในคำพูดของน้อง เช่น การพิจารณากายสังขารในคำว่าซูมของน้อง ก็คือ การดูให้กระจ่างแจ้ง ในส่วนที่มีข่าวว่าทางตนเองจะดำเนินคดีกับกลุ่มตลกกลุ่มหนึ่ง ที่เลียนแบบพฤติกรรมของน้องนั้น ตนไม่ทราบเรื่องไม่ได้ติดตามและไม่เคยให้ค่า มันเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ขณะนี้กำลังดูบุคคลหลัก ๆ ที่ทำให้น้องได้รับผลกระทบก็ จะดำเนินการตามกฎหมายกับทุก ๆ คน
ขณะที่ในโซเชียลพบว่ามีบุคคลที่ศรัทธาในตัวน้องไนซ์ ได้มีการโพสต์คลิปคำสอนน้องไนซ์มาลง ซึ่งเป็นการสอนพิจารณาเรื่องความหลงในรูป ความหล่อ ความสวยงาม โดยน้องไนซ์บอกว่า หากหลงมาก ๆ ก็จะทำให้จิตเราเป็นทุกข์ ไม่มีความสุข
ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปพูดคุยกับ นายมงคล สะอาดบุญญพัฒน์ หรือ “นาย เดอะคอมเมเดี้ยน” ประเด็นที่ว่าจะถูกฟ้องกรณีที่ไปแสดงรายการหนึ่งเป็น “น้องนายเชื่อมใจ” เผยว่า ยังไม่รู้ข้อมูลตรงนั้น ว่าจริงเท็จอย่างไร แต่เห็นหลายเพจและหลายคนก็ทักมาเตือนอยู่ว่าเขาจะฟ้องนะ ตนคาดเดาว่าคนที่เห็นก็ทักมาว่าทำแบบนี้น่าจะโดนฟ้องหรือเปล่า
สิ่งที่ตนเห็น ตนได้ยินก็รู้มาบ้าง แต่ยังไม่ได้ยินจากปากเขาจึงไม่รู้ว่าฟ้องจริงหรือเปล่า ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะฟ้อง เพราะบทบาทที่ตนแสดง ทางทีมงานเป็นคนจัดเตรียมให้ แต่ก็ต้องมีการประชุมกันอยู่แล้ว คงตกผลึกชัดเจนแล้วว่าต้องเป็นตน เพราะบุคลิกที่มีความคล้าย นอกจากนี้ก็มีคนติดต่อให้ตนไปเชื่อมจิต จึงเชื่อว่าทุกคนมองเป็นความเพลิดเพลิน ตนจึงอยากให้มองว่าเป็นรายการล้อเลียนเพื่อความเพลิดเพลิน มันเป็นกระแส ซึ่งถ้าเคสตนโดน รายการคนอื่นก็ต้องโดนหมด อยากให้มองว่าเป็นความบันเทิงคลายเครียดมากกว่า เพราะตนก็ไม่ได้เจตนาลบหลู่หรือด้อยค่า ถามว่ากังวลไหม จริง ๆ เป็นห่วงต้นสังกัดรายการมากกว่า พวกพี่ ๆ ทีมงานเพราะเขาคงไตร่ตรองมาแล้ว ไม่ได้เจตนาทำให้มันแย่ ซึ่งตรงนี้ได้คุยกับพี่ ๆ เขาก็บอว่าโอเค และคิดไปทางเดียวกันว่าเพื่อความสนุกสนาน