"แกนนำทะลุฟ้า - รุ้ง - มายด์-ไผ่" ยื่นหนังสือถึงรัฐบาล เรียกร้องตรวจสอบ สาเหตุการเสียชีวิต "บุ้ง ทะลุวัง" - คืนสิทธิประกันตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง เตรียมทวงคำตอบอังคารหน้า ด้าน"สมคิด" บอก เกินกว่าคำว่าเสียใจ ออกตัวแรงแทน"เพื่อไทย" ทำนิรโทษกรรม ไม่ได้ เหตุอาจมองเอี่ยวเพื่อ" ทักษิณ- ยิ่งลักษณ์" ลั่น เคยเจ็บปวดมาแล้ว ยืนยัน ศึกษาร่างฯ จบแน่ ก่อนเปิดประชุมสภาฯ
วันที่ 16 พ.ค. 2567 นายนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำทะลุฟ้า พร้อมด้วย น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ "รุ้ง ปนัสยา" แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมมานางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางยื่นมาหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้มีนโยบายคืนสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องขังคดีทางการเมือง ภายหนังจากที่ น.ส.เนติพร หรือบุ้ง กลุ่มทะลุวัง เสียชีวิตระหว่างคุมขัง โดยมีนายสมคิด เชื้อพงษ์รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับหนังสือ
โดยมีการนำโปสเตอร์ นโยบายของพรรคเพื่อไทยทึ่หาเสียงไว้ เกี่ยวกับสิทธิในการประกันตัว ของผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง โดยให้ใช้รัฐสภาเป็นกลไกคืนความเป็นธรรมให้เหยื่อคดีทางการเมือง รวมถึงมีการเปิดภาพบันทึกเทปโทรทัศน์ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีการพูดถึงนโยบายการปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีทางการเมือง
น.ส. ปนัสยา กล่าวว่า รู้สึกกังวลว่าโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ จะไม่เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะนำตัวไปรักษายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เนื่องจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ระบุไว้ว่าจะเก็บภาพในกล้องวงจรปิดไว้เพียง 3 วันเท่านั้น พร้อมกับตั้งคำถามถึงขั้นตอนกู้ชีพของน.ส.เนติพร และยังกล่าวอีกว่ารู้สึกเสียใจที่การสูญเสียของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเกิดขึ้นในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
โดยก่อนที่จะมีการยื่นหนังสือ ได้มีตัวแทนอ่านแถลงการณ์ โดยได้มีการยื่นข้อเสนอ 4 ข้อ 1.เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการเสียชีวิตของน.ส.เนติพรให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจนโดยเร็ว 2. ให้ผู้ต้องขังที่คดียังไม่ถึงที่สุด ได้รับสิทธิ์ในการประกันตัว 3. ชะลอการดำเนินคดีการจับคุมขังบุคคลในคดีการเมืองจนกว่าจะผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม รวมถึงสั่ง ม่ฟ้อง ไม่ยื่นคำร้องไม่ยื่นอุทธรณ์ ไม่ฎีกา ถอนคำร้องถอนอุทธรณ์และถอนฎีกา ในคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ/4. เร่งรัดกันออกกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนทุกฝ่าย ทุกข้อหา ที่มีมูบเหตุ มาจากคดีทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ได้ อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วหวังว่าจะไม่มีบุคคลใด จะต้องเสียชีวิต และทุกๆคนจะได้รับสิทธิในการประกันตัวและสิทธิในการแสดงออกทางการเมือง ขณะเดียวกันทางกลุ่มจะมาติดตามข้อเรียกร้องอีกครั้งในวันที่ 21 พฤษภาคม
นายสมคิด กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนของรัฐบาล เสียใจ และเกินกว่าคำว่าเสียใจ ยืนยันว่ารัฐบาล ไม่ได้ก้าวล่วงฝ่ายตุลาการ ส่วนรายละเอียดทุกท่านทราบอยู่ว่ากรณีที่ถูกถอนประกันเพราะอะไร สิ่งเหล่านี้ ผู้ใหญ่ในรัฐบาลก็คุยกันว่าไม่สบายใจ นอกจากนี้ ที่มีการตั้งคำถามว่าการศึกษา พ.ร.บ. นิรโทษกรรมถูกขยายออกไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่จะเสร็จในฐานะที่ตนเป็นโฆษกกรรมการชุดนี้ บ่ายวันนี้ก็จะมีการประชุม และยืนยันว่าไม่ได้มีความล่าช้าแต่ขณะนี้อยู่ในการปิดสมัยประชุมสภา
ส่วนที่มีการระบุว่าการนิรโทษกรรมไม่รวมผู้ต้องหาในคดีม. 112 และ.110 นั้นนายสมคิดระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียด พร้อมระบุว่า มีกรรมาธิการส่วนหนึ่ง งซึ่งเป็นความคิดของบุคคล ไม่บอกว่าพรรคใดคัดค้าน ที่จะเอาฐานคดีในม.112 มาด้วย แต่ยังไม่มีการพูดคุยในรายละเอียด ในแนวทาง ตนเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย
โดยนายสมคิดยังระบุอีกว่าเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยไม่พูดถึง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเลย หลายพรรคก็มาด่า เพราะพรรคเพื่อไทยมีบาดแผลจาก.ร.บ.นิรโทษกรรม มันเจ็บปวดมาแล้ว ถ้าบอกว่าเห็นด้วยกับม. 112 ฝ่ายที่ไม่ชอบก็จะบอกว่า เห็นไหมทำเพื่อนายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ เราพูดไม่ได้ เพราะจุดนี้ แต่เสียงว่าอย่างไร เราเอาด้วย เราไม่คัดค้าน เอาเสียงส่วนมากว่าอย่างไร เราก็เอาด้วย วันนี้พรรคเพื่อไทยเสนอให้ศึกษาพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อให้ทุกฝ่ายตกผลึกให้เร็วขึ้น ถ้าหากปล่อยแต่ละฝ่ายไป ก็จะไม่จบ วันนี้เราเชิญทุกฝ่ายมา แต่จะจบแน่นอนก่อนสภาฯเปิด
ส่วนรายละเอียดที่เรียกร้อง ตนได้ตกลงกับแกนนำแล้วว่า วันอังคารหน้า ขอให้มาทวงถามในรายละเอียดได้ ว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ขอยืนยันว่าเกินกว่าที่ตนจะบอกว่าเสียใจ ที่คนเสียชีวิตทตนพูดไม่ออก มันจุกอก เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้มีความสบายใจ และก็จะเดินเรื่องนี้ต่อ และตนพึ่งวางโทรศัพท์จากผู้ใหญ่ว่า หากรับเรื่องแล้วให้แจ้งว่าจะเอาอย่างไรต่อ ซึ่งพรบ. นิรโทษกรรม ตนอยากให้เสร็จภายในปีนี้ด้วยความตั้งใจจริง ไม่ได้ต่อเวลาเพราะอะไร และขณะนี้อาจารย์ยุทธพร อิสระชัย กำลังเคลียร์คดี ฐานความผิด เพราะฉะนั้นเราจะเอาไปทั้งหมด ส่วนรายละเอียดเรื่อง 112 ยังไม่ได้คุย ยืนยันว่าถ้าคุยก็ยังไม่จบ ต้องเอาคดีฐานใหญ่ๆออกไปก่อนผิดพ.ร.บ.ชุมนุม จะต้องได้รับการนิรโทษกรรมทั้งหมด จึงอยากเรียนทุกคนที่มาว่าผู้แทนรัฐบาล เราตั้งใจที่จะทำเรื่องนี้
ขณะที่ข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า มีผู้ถูกดำเนินคดี ทางการเมือง ตั้งแต่ปี18กรกฎาคม 2563 ถึงปี 30 เมษายน 2567 มีผู้ถูกดำเนินคดี จากการแสดงความคิดเห็นในคดีทางการเมือง 1,954 คน จาก 1,295 คดี โดยมีคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก. ฉุกเฉินมากที่สุด 1,466 คน และ อันดับที่ 2 เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับ ม. 112 มีผู้ถูกกล่าวหาอย่างน้อย 272 คน