กรณี เมื่อเวลา 00.30 น. ของ วันที่ 17 พ.ค. 2567 ตำรวจ สภ.บางกรวย รับแจ้งเหตุ แม่ยายแทงลูกเขยเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านบางกรวย ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น พบ นายวรากร อายุ 37 ปี ผู้เสียชีวิต สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด พบบาดแผลถูกแทงที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย และบริเวณมือด้านขวา เสียชีวิตอยู่ที่บริเวณชั้น 1 และพบ น.ส.อนันต์ อายุ 54 ปี แม่ยายผู้เสียชีวิต ยืนรอมอบตัวอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว โดยคนก่อเหตุมีบาดแผลถูกมีดบาดที่มือข้างซ้าย และมีเลือดเปื้อนเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลก่อนควบคุมตัวส่ง สภ.บางกรวย นั้น
ล่าสุดข่าวช่อง 8 เดินทางลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นทีมข่าวยังได้รับคลิปจากพลเมืองดี มีการบันทึกวินาทีที่กู้ภัยพยายามเข้าช่วยยื้อชีวิตโดยการปั๊มหัวใจให้กับนายวรากร คนตาย แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตได้เนื่องจากถูกแทงเข้าที่หน้าอก และในคลิปดังกล่าวจะได้ยินเสียงร้องไห้โหยหวน ซึ่งเป็นเสียงของลูกสาวคนก่อเหตุ และเป็นเสียงของภรรยา คนตาย ซึ่งมีการพูดทำนองว่า “ไม่น่าเลย ไม่น่าเป็นแบบนี้”
เบื้องต้นสอบถาม น.ส.กัญญากร อายุ 37 ปี เมียผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ ร้องไห้จนเหมือนจะเป็นลม จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยก่อนไปให้ข้อมูลว่า ตนกับสามีอยู่ด้วยกันมา 20 ปี เขามีปัญหากับแม่ตนมาหลายปีแล้ว ตอนเกิดเหตุตนอยู่ชั้น 2 พยายามโทรศัพท์หาสามี 5 สาย แต่ไม่ติด เลยลงมาดูเห็นสามีวิดิโอคอลกับผู้หญิงเลยทะเลาะกัน ซึ่งตนมีปัญหาเรื่องนี้กันมานาน พอลงมาเจอเลยมีการแย่งโทรศัพท์กัน หลังจากนั้ตนไม่รู้ว่าแม่พุ่งมาจากไหนแล้วก็สู้กัน ซึ่งแม่ตนกับสามีทะเลาะกันมานานแล้วด่ากันแบบหยาบคาย ตนพยายามจะแยกออกจากกัน พยายามแบ่งรับแบ่งสู้ทุกอย่างเพราะตนสงสารลูก ตนต้องประคับประคองทั้งสามีและแม่ตน
ด้าน นางอมร หรือ แม่แตน อายุ 60 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็เกิดอาการจะเป็นลมเช่นกัน เจ้าหน้าที่ต้องคอยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะกล่าวว่า ลูกชายกับลูกสะใภ้เขาคบกันมานานแล้ว 10-20 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ตนไม่เคยรับรู้ว่าลูกเขยมีปัญหาอะไร รู้แต่ว่าแม่ยายเขาดุ ตนไม่ค่อยได้มาที่บ้านหลังนี้ ขนาดหลานป่วยจะเอาเงินมาให้หลาน ลูกชายยังบอกให้ตนนัดเจอข้างนอก ตนทราบว่ามีการทำร้ายกันจนเสียชีวิตจากลูกสะใภ้เป็นคนโทร. ไปแจ้งตน
ขณะที่ สภ.บางกรวย พบ น.ส.อนันต์ แม่ยายผู้เสียชีวิต และเป็นผู้ก่อเหตุ ได้เข้าสอบปากคำกับทาง พ.ต.ต.ธนวัฒน์ ชีวิตโสภณ สว.สส.สภ.บางกรวย กำลังอยู่ในนระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ดูรายนิ้วที่มือและมีด และมีการตรวจบาดแผลของ น.ส.อนันต์ หรือผู้ก่อเหตุ พบว่ามีบาดแผลบริเวณมือด้านซ้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวทาง น.ส.อนันต์ ไปทำแผลที่โรงพยาบาลบางกรวย และจะนำตัวกลับมาสอบปากคำอีกครั้ง ร่วมกับสอบปากคำพยานหลักฐานคนอื่นร่วมด้วย และจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป โดยระหว่างที่เดินไปสอบปากคำมีนักข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ น.ส.อนันต์ ก็ไม่ตอบคำถามใด ๆ
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางย้อนกลับไปยังคอนโดที่ นายวรากร คนตาย พา น.ส.กัญญากร ภรรยา ไปดื่มเหล้ากับรุ่นพี่และญาติที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านจรัญสนิทวงศ์ ก่อนที่จะเดินทางกลับมาบ้านในคืนวันเดียวกัน เวลาประมาณ 22.30 น. ก่อนมีปากเสียงและถูกแม่ยายแทงตาย
ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดสุดท้ายของวงเหล้าจุดแรก ที่คอนโดของญาติที่จรัญสนิทวงศ์ จับภาพก่อนเกิดเหตุวันที่ 16 พ.ค. เวลาประมาณ 18.30-21.30 น. จะเห็นว่าตัวของนายวรากร คนตาย ใส่เสื้อกล้ามสีขาว และนางสาวกัญญากร ภรรยา ใส่เสื้อบริษัทสีครีม หัวสีทอง ซึ่งทั้งคู่เดินทางมานั่งดื่มกินอยู่กับรุ่นพี่และญาติ ก่อนที่จะกลับบ้านไปแล้วเกิดเหตุ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้
และช่วงเวลาประมาณ 21.56 น. ภาพจากกล้องวงจรปิดคอนโดของญาติจับภาพ เห็นนายวรากร คนตายลุกออกจากวงเหล้า ท่าทีลักษณะคล้ายคนเมาเดินเซไป ก่อนที่จะไปหยอกล้อเล่นกับรุ่นพี่ โดยมีการจับที่คอเสื้อ แต่ไม่ได้มีเรื่อง เพียงแค่หยอกล้อเล่นก่อนกลับ ซึ่งเป็นภาพวงจรปิดที่จับภาพคนตายเอาไว้ก่อนที่จะออกจากวงเหล้า ส่วนภรรยา คือนางสาวกัญญากร ได้ไปยืนรออยู่ที่หน้ารถกระบะคันหนึ่ง ช่วงระหว่างรอนายวรากร คนตาย ไปเอารถมอเตอร์ไซค์ ก่อนที่จะทั้งคู่จะขี่รถมอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายกันกลับไปที่บ้าน ย่านบางกรวย นนทบุรี และนายวรากรถูกแม่ยายแทงในคืนวันเดียวกัน
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ในคืนเกิดเหตุ 17 พ.ค. เวลา 01.43 น. โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ จับภาพวินาทีที่กู้ภัยเข้ามาเคลื่อนย้ายร่างของนายวรากร คนตาย ออกจากบ้าน โดยจะสังเกตว่าตัวของนางสาวอนันต์ แม่ยาย คนก่อเหตุ ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งในภาพเจ้าตัวยืนดูตอนที่มีการเคลื่อนย้ายศพของลูกเขยออกจากบ้าน ก่อนที่จะมอบตัวกับตำรวจและถูกนำตัวส่งโรงพัก
ต่อมาวันนี้เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 17 พ.ค. นายณรงค์ พ่อผู้เสียชีวิต พร้อมญาติได้เดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อทำพิธิเชิญดวงวิญญาณนายวรากร ลูกชายที่เสียชีวิตเพื่อจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา กทม.
นายณรงค์ พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สำหรับตนลูกชายเป็นคนนิสัยดี มีอารมณ์ร้อนบ้าง ทราบว่ามีหนี้สินเยอะแต่ไม่เล่นการพนัน มีแต่เมียที่เป็นคนเล่น ตนอยากให้ลูกชายไปสู่สุคติ ตนไม่อยากคุยกับทางครอบครัวของคู่กรณี และให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
และเมื่อเวลา 16.20 น. ที่ผ่านมา ที่วัดปุรณาวาส คลองมหาสวัสดิ์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ที่ตั้งศพของนายวรากร ก่อนบรรจุร่างของคนตายลงสู่โลงศพ และเป็นช่วงวินาทีสุดท้าย ปรากฏว่าตัวของนางสาวกัญญากร ภรรยาคนตาย ได้เดินทางประกอบกับลูกสาวเพื่อมารดน้ำศพเป็นคนสุดท้ายก่อนที่จะบรรจุร่างลงโลง ซึ่งทันทีที่เดินทางมาถึง ญาติของนายวรากร ต่างมีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจ แต่ตัวของนางสาวกัญญากร เดินจูงมือลูกสาวฝ่าวงล้อมของญาติเพื่อที่จะเข้าไปขอรถน้ำศพ ซึ่งช่วงที่มีการรดน้ำศพนั้น เจ้าตัวต่างอยู่ในอาการเสียใจและร้องไห้ตลอด พร้อมกับพูดขอโทษสามี
ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินเข้าไปหานางอมร แม่ของคนตาย และญาติที่นั่งอยู่บริเวณโซฟาในศาลาตั้งศพ โดยไปคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของแม่สามี พร้อมกับพยายามขอขมาและขอโทษ โดยช่วงหนึ่งแม่ของคนตายปฏิเสธที่จะไม่อโหสิกรรม จนกระทั่งญาติได้มีการสะกิดบอกทำนองว่า อยากให้ลูกไปสู่สุคติและไปสบาย ให้ยอมอโหสิกรรมและยกโทษให้
โดยแม่ของคนตายได้ตัดสินใจอโหสิกรรม พร้อมกับยกโทษให้ และบอกกับทางสะใภ้ทำนองว่า “ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามเวรกรรม ใครทำอะไรไว้ก็ขอให้ทุกคนได้ชดใช้แบบนั้น และส่วนของหลานสาว หากฝ่ายหญิงเลี้ยงดูแลไม่ได้ ให้เอามาให้ฝั่งของตนเองเป็นคนเลี้ยง”
ด้าน นางอมร แม่ของคนตาย เผยด้วยเสียงสะอื้น ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่คิดว่าลูกชายจะถูกแม่ยายแทงตาย เพราะหลังจากที่ตัวเองได้รับโทรศัพท์ก็ได้รีบเข้าไปที่บ้านที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่ทันได้ดูใจเพราะเนื่องจากลูกถูกแทงตายไปแล้ว ส่วนคำให้การของนางอนันต์ แม่ยาย ตนเองไม่เชื่อ เพราะตัวเองไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ และไม่มีใครอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย มีแต่คำกล่าวอ้างและให้การด้วยตัวเอง แต่เบื้องต้นตนเองไม่เชื่อว่าเป็นเหตุการณ์แย่งมีด เพราะแผลของลูกมีลักษณะถูกแทง ไม่ใช่แผลจากการบาด ดังนั้นจึงไม่เชื่อคำให้การ เชื่อว่าอาจมีบางอย่างอาจโกหกหรือไม่
และก่อนเกิดเรื่องตัวเองเข้าใจว่า ลูกชายตัดสินใจไปเช่าบ้านหลังดังกล่าว เพื่อที่จะพาลูกและเมียไปอยู่อาศัย แต่ช่วงหลังนางอนันต์ได้โผล่มาอยู่อาศัย ลูกชายเคยบ่นให้ตัวเองฟังทำนองว่า “มันจะย้ายมาอยู่ด้วยทำไม” ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าลูกชายไปมีเรื่องอะไร หรือมีอะไรบาดหมางกับแม่ยายหรือไม่ ทำไมถึงพูดแบบดังกล่าว แต่ก็ไม่คิดว่าการที่คนอยู่บ้านด้วยกัน ถึงขั้นฆ่ากันตาย
สำหรับวันนี้ยอมรับว่าลูกชายของตนเองก็ตายไปแล้วและพูดอะไรไม่ได้ มีแต่เพียงฝั่งของคนก่อเหตุเท่านั้นที่ให้ข่าวมั่ว ทำให้ลูกชายของตนเองที่ตายไม่สามารถพูดความจริงได้ แต่ตนเองอยากจะพูดแทนลูกชายว่า ตัวลูกชายไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่เคยแม้แต่เสพ ไม่เคยแม้แต่จะยุ่งเกี่ยว ไม่เคยมีประวัติ และลูกชายคือคนที่พยายามห้ามไม่ให้ญาติพี่น้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องแบบดังกล่าวด้วยซ้ำ แต่ส่วนเรื่องของการดื่มเหล้าและเจ้าชู้ ก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ห้ามลูกชายไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากให้ฝั่งของคนก่อเหตุออกมาโจมตีลูกชายตนเองแบบนี้ เพราะตนเองรับไม่ได้
ด้าน นางสาวกัญญากร หรือเก๋ เผยว่า สำหรับบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านที่ตนเองและสามีตั้งใจซื้อและผ่อนผ่านบริษัทไฟแนนซ์ แต่ยังไม่ได้มีการผ่อนตรงกับทางธนาคาร ซึ่งตั้งใจว่าจะมีการช่วยกันผ่อนบ้านดังกล่าว เพื่อที่จะให้เป็นที่อยู่ของลูกสาวตอนโต แต่ดันมาเกิดเหตุขึ้นเสียก่อน และทุกวันนี้ก็มีลักษณะกึ่งเช่า โดยตรงกับทางบริษัท
โดยในวันเกิดเหตุ ยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ด้วยตนเองตั้งใจที่จะไปแย่งมือถือที่เห็นว่าสามีกำลังมีการพูดคุยกับหญิงสาวบางคน เพราะเนื่องจากช่วงหลังสามีมีการพูดทำนองตัดพ้อ อยากจะขอมีกิ๊กอยากจะขอมีหญิงอื่น โดยในคืนนั้นตนเองตั้งใจจะให้สามีขึ้นไปไปนอน แต่หลังจากที่ตามขึ้นไปนอน ปรากฏว่ายังเห็นวิดีโอคอลคุยกับใครบางคน จึงทำให้ทะเลาะกันเพื่อแย่งมือถือ ซึ่งจังหวะเดียวกันนั้นไม่แน่ใจว่าแม่ลงมาตอนไหน และในมือมีมีดหรือไม่ หรือไปหยิบมีดมาจากจุดใด แม่มีลักษณะอ้อมมาจากทางด้านหลัง ซึ่งสามีเห็นว่าแม่มีมีดอยู่ในมือจึงพยายามยื้อแย่งกัน โดยมีดเล่มดังกล่าวได้มีการบาดเข้าที่มือตนเอง และบาดเข้าที่มือของแม่ ก่อนที่มีดจะไปอยู่ในมือแม่แล้วมีการจ้วงแทงสามีเสียชีวิต
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ส่วนตัวยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้จับมีด รวมทั้งแม่ไม่ได้เป็นคนรับผิดแทนตนเอง เพราะตนเองไม่มีเหตุผลใดที่จะทำร้ายสามีถึงตาย มีเพียงสามีกับแม่ที่อาจจะมีปัญหาไม่ลงรอยกัน จนเป็นเหตุทำให้เกิดเรื่องขึ้นดังกล่าว แต่ทั้งนี้แม้ว่าครอบครัวของคนตายจะไม่เชื่อว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้อง ตนเองก็ให้การกับทางตำรวจไปหมดแล้ว จนล่าสุดตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาแม่และมีการนำตัวฝากขัง
ขณะเดียวกันในคืนเกิดเหตุ ตนเองไม่ทราบว่าลูกสาวตื่นและลงมาจากชั้นบนตอนไหน แต่ในช่วงวินาทีที่แม่ของตนเองมีการช่วงแทงสามี ในฐานะพ่อของลูกสาว ช่วงวินาทีทางนั้นยอมรับว่าลูกสาวเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ที่แม่แทงเขย ส่วนตัวยอมรับว่าลูกสาวค่อนข้างใจแข็ง ยืนดูและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ตนเองก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะมันเป็นการทำร้ายพ่อต่อหน้าลูก
สำหรับประเด็นที่ทางครอบครัวของสามีจะมีการเอาลูกสาวไปเลี้ยงดูเองนั้น ส่วนตัวยอมรับว่าไม่สามารถให้ครอบครัวของสามีเอาไปดูแลได้ เพราะมันคือคนสุดท้ายที่อยู่ในชีวิตของตนเอง หากให้ครอบครัวของสามีเอาไปดูแลตนเองคงไม่เหลือใคร เพราะสูญเสียสามีแล้ว และแม่ยังต้องไปติดคุกอีก ดังนั้นตนเองคงต้องให้ลูกสาวอยู่กับตนเอง และตัวเองสัญญาว่าจะเลี้ยงดูลูกให้เติบโตเป็นคนดี และตัวเองอยากจะฝากถึงสามีว่า ตนเองขอโทษ และคิดถึงอย่างสุดซึ้ง
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านที่เกิดเหตุนั้น มีเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่า บ้านหลังดังกล่าวเคยมีคนมาเช่าแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 ครอบครัว แต่ก็เป็นบ้านที่ค่อนข้างแปลกที่ไม่สามารถมีใครอยู่อาศัยได้ยาวนาน หลังจากที่ย้ายมาก็อยู่อาศัยได้เพียงไม่กี่เดือนก็ต้องย้ายออก เพราะเนื่องจากมีเหตุต้องทะเลาะวิวาทคู่ผัวเมีย
โดยคู่แรกย้ายมาอยู่ตอนต้นปี ก็ถึงขั้นทะเลาะกันจานชามและหม้อปลิวออกจากบ้าน เนื่องจากมีการเขวี้ยงปากัน ส่วนคู่ที่สองก็ลักษณะทำนองเดียวกัน กินเหล้าและมีปากเสียงทะเลาะกันจึงต้องย้ายออก ส่วนเคสล่าสุดถึงขั้นแทงกันตาย ซึ่งชาวบ้านมองเป็นความเชื่อลักษณะบ้านอยู่อาศัยกันไม่ได้ ใครมาอยู่ก็ต้องทะเลาะกัน