จับทุเรียนต่างด้าวทะลักเข้าไทย ชายแดน จ.สระแก้ว ลักลอบนำเข้าแล้วกว่า 20 คัน สวมสิทธิ์ทุเรียนส่งออกที่ จ.จันทบุรี คนขับเป็นคนจันท์เสียเอง

วันที่ 19 พ.ค. 2567 เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดนสกัดจับทุเรียนทะลักเข้าไทยทางชายแดนไทย-กัมพูชา อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยจากการสอบสวนพบเป็นทุเรียนเวียดนาม นำเข้าผ่านประเทศกัมพูชามายังประเทศไทย เพื่อไปสวมสิทธิ์ทุเรียนไทยส่งออกที่ จ.จันทบุรี และยังพบมีการลักลอบนำเข้ามาแล้วก่อนหน้านี้มากกว่า 20 เที่ยว ซึ่งการลักลอบนำเข้าครั้งล่าสุด มาด้วยกัน 5 คัน แต่สามารถขับหลบหนีไปได้ 3 คัน ผ่านชายแดนบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว

พ.ต.อ.สมชาย เมืองใย ผกก.สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า กรณีเจ้าหน้าที่่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจ ฉก.ร.111 เจ้าหน้าที่ทหาร ชปข.2 กองกำลังบูรพา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหาร ชุด ชปข.กองทัพภาคที่ 1 ตำรวจ สภ.โคกสูง และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ. สระแก้ว ได้ร่วมกันจับกุมทุเรียนลักลอบนำข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา มาจากฝั่งประเทศกัมพูชา ที่บริเวณถนนสายบ้านยอดอุดม-บ้านหนองเสม็ด หมู่ที่ 3 ต.หนองแวง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยจับกุมตัวผู้กระทำผิดลักลอบนำทุเรียนจากกัมพูชาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรได้ 2 คน พร้อมรถยนต์กระบะใส่คอก บรรทุกทุเรียนมาเต็มคันรถ

จากการตรวจสอบ ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายทะนงศักดิ์ อายุ 28 ปี ชาว จ.จันทบุรี พร้อมด้วยของกลางรถยนต์โตโยต้า สีขาว จำนวน 1 คัน บรรทุกทุเรียน น้ำหนักชั่งรวมรถ ประมาณ 5,120 กิโลกรัม และนายศุภชัย อายุ 29 ปี ชาวจ.จันทบุรี พร้อมด้วยของกลางรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา จำนวน 1 คัน บรรทุกทุเรียน น้ำหนักชั่งรวมรถ 4,760 กิโลกรัม ประเมินราคาทุเรียนได้คันละประมาณ 500,000 บาท ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่า ทุเรียนทั้งหมดเป็นทุเรียนจากฝั่งกัมพูชา โดยลักลอบนำข้ามแดนมาจากชายแดน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กำลังจะนำไปส่งยังตัวเมืองภายใน จ.จันทบุรี ได้ค่าจ้างคันละ 4,500 บาท

ภายหลังถูกจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รถยนต์และทุเรียนของกลาง นำส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 247 และมาตรา 252 ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 ประกอบมาตรา 8 และมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.กักกันพืช พ.ศ.2507 ข้อหา "ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น จำหน่าย ช่วยพาไปเสียจำนำ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดใดซึ่งของอันตนรู้ว่า เพราะเป็นของอันเกี่ยวเนื่องกับความผิดตาม พรบ.ศุลกากรฯ/นำหรือหรือยอมให้ผู้อื่นใช้ของต้องห้าม ต้องจำกัดหรือของที่ยังไม่ผ่านพิธีศุลกากร" และประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ศุลกากรอรัญประเทศ นำของกลางทุเรียนไปดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าของสามารถขอประมูลซื้อคืนได้ในราคารวมภาษีศุลกากรตามที่กฏหมายกำหนด หรือนำไปประมูลขายตามระเบียบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ พบทุเรียนดังกล่าวเป็นทุเรียนจากประเทศเวียดนาม ซึ่งในห้วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.67 ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทางด้าน อ.ตาพระยา อ.โคกสูง อ.อรัญประเทศ อ.คลองหาด มีการนำเข้าผ่านประเทศกัมพูชามายังประเทศไทย เพื่อไปสวมสิทธิ์ทุเรียนไทยส่งออกที่ จ.จันทบุรี ไปยังประเทศจีนจำนวนมาก เนื่องจากปีนี้ทุเรียนจันทบุรี มีผลผลิตน้อยกว่าปีที่แล้วมาก ลดลงเหลือประมาณ 50% เท่านั้น ทำให้พบมีการลักลอบนำเข้าทุเรียนมาแล้วก่อนหน้านี้ มากกว่า 20 เที่ยว ผ่าน จ.สระแก้ว ซึ่งการลักลอบนำเข้าครั้งล่าสุด เมื่อ 2 วันก่อน ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม บรรทุกทุเรียนมาด้วยกันทั้งหมด 5 คัน แต่จับกุมได้เพียง 2 คัน ขับหลบหนีไปได้ 3 คัน ผ่านชายแดนบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ม.9 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว

อย่างไรก็ตาม นายชลธี นุ่มหนู นายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออก ให้ข้อมูลกรณีการจับกุมครั้งนี้ว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเร่งตรวจสอบหาปลายทางที่ทุเรียนชุดนี้จะไป เพราะการเรียงทุเรียนในลักษณะนี้แน่นอนว่า ไม่ได้นำไปส่งขายในประเทศไทยแน่นอน ทุเรียนชุดนี้เป็นไปได้ว่าถูกส่งเข้าโรงคัดบรรจุเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ จึงต้องเร่งทำความจริงให้ปรากฏ เพราะทำให้กระทบกับภาพลักษณ์ทุเรียนไทยที่ส่งออกไปต่างประเทศ สิ่งสำคัญหากตรวจพบปลายทางแน่นอน เราอาจได้เห็นขบวนการสวมสิทธิ์ทุเรียนและสวมสิทธิ์ GAP สวนด้วยเช่นกัน