ราชทัณฑ์มอบสำเนาประวัติการรักษาบุ้ง ถึงมือเรียบร้อย หลังทนายทวงถามเลื่อนมา 7 ครั้ง
วันที่ 20 พ.ค. 2567 กรมราชทัณฑ์ ได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า นางสาววีรดา คงธนกุลโรจน์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพี่สาวของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ได้เดินทางเข้ารับเอกสารสำเนาประวัติการรักษา ณ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ต่อมาในเวลา 10.00 น. ได้นำคณะสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าเยี่ยมชมสถานที่ภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อสร้างความเข้าใจ และให้เห็นสถานที่จริง ขณะที่ นางสาวเนติพร เข้ารับการรักษาโดยแพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
ทั้งนี้ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นเรือนจำที่ทำหน้าที่พิเศษคือ คุมขังและให้การรักษาผู้ต้องขังเจ็บป่วย ที่ถูกส่งตัวมาจากเรือนจำต่างๆ เมื่อรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว ก็จะส่งตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำเดิม โดยในกรณีของนางสาวเนติพร ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 แพทย์มีความเห็นว่ามีภาวะเลือดเป็นกรดจากการอดอาหาร และเกลือแร่โพแทสเซียมในเลือดต่ำ ต่อมากรมราชทัณฑ์ได้รับหนังสือจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 แจ้งให้รับตัวนางสาวเนติพรกลับทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อาการโดยรวมของนางสาวเนติพรดีขึ้น รู้สึกตัวดี ไม่มีคลื่นไส้อาเจียน ไม่มีอาการใจสั่น ไม่มีเวียนศีรษะหน้ามืด ไม่มีอาการแสดงของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ สัญญาณชีพและความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ในการนี้ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้รับตัวนางสาวเนติพรกลับมาในวันที่ 4 เมษายน 2567 โดยหลังกลับจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ นางสาวเนติพรจิบน้ำได้ แต่ยังคงปฏิเสธอาหาร โดยเริ่มรับประทานอาหารมื้อแรก คือ มื้อเย็นของวันที่ 13 เมษายน 2567 นางสาวเนติพร ยังปฏิเสธการรับประทานเกลือแร่โพแทสเซียมและวิตามิน จึงยังมีภาวะเกลือแร่โพแทสเซียมต่ำทีมสหสาขาวิชาชีพของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้คำแนะนำ ดูแลใกล้ชิดและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งระดับเกลือแร่เพิ่มขึ้น นางสาวเนติพรสามารถทำกิจวัตรประจำวันและเดินเข้าห้องน้ำได้เอง แพทย์มีความเห็นว่าให้จำหน่าย เป็นผู้ป่วยพักฟื้น แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามอาการเป็นระยะ และจัดให้นอนในห้องเดียวกับนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ในห้องผู้ป่วย พักฟื้น ชั้น 2 ของหอผู้ป่วยหญิง จนกระทั่งเกิดอาการหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน จึงนำตัวลงมายังห้อง ICU ชั้น 1 โดยทางทีมแพทย์ได้กู้ชีพ พร้อมนวดหัวใจ และให้ยากระตุ้นหัวใจอย่างต่อเนื่อง จากนั้นจึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิติในเวลาต่อมา
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังคงมีข้อห่วงใยในเรื่องนี้ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม จึงได้นำคณะสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าเยี่ยมชมสถานที่จริงขณะที่นางสาวเนติพรรับการดูแลรักษาก่อนส่งตัวออกโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ พร้อมขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่ในช่วงบ่าย นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินเข้ามาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หลังจากนั้นได้กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับเอกสารดังกล่าวเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้เปิดตรวจสอบ โดยหลังจากนี้
จะมีการแถลงต่อสังคมถึงรายละเอียดที่อยู่ในเอกสารดังกล่าวอีกครั้ง ส่วนหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดนั้น กรมราชทัณฑ์ขอเวลาตรวจสอบและคัดกรองผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากภาพ โดยทนายความยืนยันว่าจะต้องได้รับ ภาพดังกล่าวภายในวันศุกร์นี้