ฟ้าผ่ากลางงานบุญบั้งไฟ ฝนกระหน่ำ ชาวบ้านหนีตายจ้าละหวั่น เจ็บ 5 สาหัส 3

วันที่ 20 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านยางชุมน้อย หมู่ 6 ต.ยางชุมน้อย อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า เมื่อวันที่ 18 - 19 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานเทศกาลบุญบั้งไฟขึ้นในพื้นที่บ้านยางชุมน้อย โดยมีกิจกรรม ทั้งวงดนตรี และการจุดบั้งไฟ เพื่อขอฟ้าขอฝน

แต่ปรากฏว่า การจัดงานในวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ได้มีฝนตกหนักในพื้นที่ และเกิดฟ้าผ่าขึ้น ทำให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 ราย และบาดเจ็บสาหัส จำนวน 3 ราย

นายรัฐศาสตร์ ทองอินทร์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ได้พาผู้สื่อข่าวตรวจสอบที่เกิดเหตุ และจุดที่เกิดฟ้าผ่า ซึ่งเป็นลักษณะรอยหลุม และใต้ต้นไม้ ยังพบของเซ่นไหว้ ที่ชาวบ้านนำมาเรียกขวัญให้กับผู้บาดเจ็บที่โดนฟ้าผ่า

นายรัฐศาสตร์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุฟ้าผ่า ได้มีฝนตกหนักเกิดขึ้นในพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านที่มาเที่ยวชมบั้งไฟบางส่วนเข้าไปหลบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ หลังจากนั้นไม่นาน ตนได้เห็นลำแสงสีฟ้า ลักษณะสายฟ้าฟาด พุ่งลงมาบริเวณต้นไม้ พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้มีชาวบ้านที่หลบอยู่ใต้ต้นไม้บางส่วนกระเด็นออกจากใต้ต้นไม้ บางคนก็นอนหมดสติอยู่ใต้ต้นไม้ หลังจากนั้น ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้พากันช่วยปฐมพยาบาล และโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล ให้มาช่วยกันนำร่างคนเจ็บไปรักษา ซึ่งนอกจากฝนตกหนักจะทำให้เกิดฟ้าผ่าและมีผู้บาดเจ็บแล้ว รถเครื่องเสียงวงดนตรีที่จ้างมาก็ได้รับความเสียหายจากลมแรง ชุดลำโพงกลางแจ้งที่ตั้งอยู่ล้ม

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ รพ.ยางชุมน้อย เพื่อพบกับนายประมวล อายุ 73 ปี หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยนายประมวลได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หลังจากที่ตนได้เดินทางมาเพื่อชมงานบุญบั้งไฟ และวงดนตรีที่จัดขึ้นในพื้นที่ แต่ปรากฏว่า ช่วงบ่ายได้เกิดฝนตกหนัก ตนจึงได้ตัดสินใจไปหลบใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากฐานบั้งไฟ ซึ่งใต้ต้นไม้ที่ตนหลบอยู่นั้น มีชาวบ้านหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ด้วยจำนวนมาก เกือบ 30 คน หลังจากที่ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนักนั้น ตนได้ยินเสียงเปรี้ยงคล้ายฟ้าผ่า หลังจากนั้น ก็เห็นร่างคนที่หลบได้ต้นไม้กับตนกระเด็นไปคนละทาง ส่วนตนนั้นรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าชอร์ตที่บริเวณขาซ้ายก่อนล้มลงด้วยความเจ็บปวดแล้วสลบไป หลังจากนั้น ก็ได้มีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอยางชุมน้อย

อย่างไรก็ตาม ในเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป