จากกรณีนายธีรพงษ์ อายุ 23 ปี หรือนายแบงค์ หนุ่มไรเดอร์ลำปางที่หายตัวไปจากบ้าน ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ญาติประกาศตามหา จนกระทั่งได้เบาะแสว่าคนสุดท้ายที่อยู่ด้วยคือ นายออม อายุ 17 ปี เพื่อนของนายแบงค์ ตำรวจจึงเรียกตัวมาสอบปากคำ ก่อนที่จะแหกตาตำรวจ โกหกนักข่าวให้สัมภาษณ์ว่าตัวเองก็ช่วยตามหาเพื่อนเหมือนกัน ไม่รู้ไปไหน และก่อนหายไปก็มาขายรถมอเตอร์ไซค์ให้ตนด้วย และบอกว่าตัวเองเป็นแพะของเรื่องนี้ก่อนจะยกมือไหว้ผ่านสื่อ วอนให้นายแบงค์กลับมาเพราะตนเองเดือดร้อน พร้อมพานักข่าวไปชี้จุดที่แยกทางกับนายแบงค์ก่อนจะหายตัวไปอย่างปริศนา




สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายออมไปเค้นสอบอีกครั้ง เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่าง จนในที่สุด นายออมยอมรับสารภาพ ว่าเป็นคนฆ่านายแบงค์ และนำทิ้งศพทิ้งป่าบริเวณพื้นที่บ้านป่าเหมี้ยง ต.แจ้ซ้อน จ.ลำปาง ทำให้เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ต่างระดมค้นหาศพนายแบงค์ จนเจอร่างเหลือแต่โครงกระดูก ส่วนของศรีษะหายไป จึงนำร่างผู้ตายส่งชันสูตรที่แผนกนิติเวช รพ.ลำปาง อย่างละเอียดอีกครั้ง




ล่าสุดวันนี้ (22 พ.ค. 2567) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.แจ้ซ้อน รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมกันเดินทางไปยังจุดพบศพอีกครั้ง บริเวณเขากิ่วฝิ่น บ้านป่าเหมี้ยง ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เพื่อออกตามหาศีรษะของนายแบงค์ที่หลุดหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านส่วนหนึ่งช่วยกันตามหา บริเวณป่าสันเขาใกล้จุดเจอศพ โดยใช้ระยะเวลาไม่นาน ประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ก็เจอศีรษะของนายแบงค์ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบร่างของนายแบงค์ ประมาณ 50 เมตร คาดว่าน่าจะหลุดหายไป เพราะโดนฟันจนคอเกือบขาด และระยะเวลาในการเสียชีวิตหลายวัน จึงทำให้สภาพศพเน่าเปื่อย และหลุดออกได้ง่าย




หลังจากนั้นทางด้านญาติก็ได้ทำพิธีเชิญวิญญาณของนายแบงค์ จุดธูปรวมทั้งของเซ่นไหว้ต่าง ๆ และเชิญวิญญาณให้ดลจิตดลใจ ให้ทางเจ้าหน้าที่เจอกระเป๋าและของใช้ส่วนตัวที่หายไปในคืนนั้นด้วย บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ญาติต่างพากันร้องไห้เสียใจ




ขณะที่วันนี้นางสาวโชติกา หรือ ปุ้ย แม่บุญธรรมของนายแบงค์ เดินทางมายังบริเวณจุดพบศพด้วย โดยวิ่งร้องไห้ลงมาจากรถ จากนั้นก็ร้องตะโกนหา “น้องแบงค์ กลับบ้าน ๆ” พร้อมกับมาดูศรีษะของนายแบงค์ที่เจ้าหน้าที่พบ จากนั้นนางสาวโชติกาก็ร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นลมล้มลงบริเวณจุดดังกล่าว ทางด้านทีมข่าวช่อง 8 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น เนื่องจากยังคงอยู่ในสภาวะช็อกและยังคงทำใจไม่ได้ ร้องไห้ตะโกนเรียกชื่อนายแบงค์ ตลอดเวลา




โดยในขณะที่นางสาวโชติการ้องไห้จนเป็นลมนั้น ฝั่งบรรดาญาติแท้ ๆ ของนายแบงค์กลับตะโกนแซะตลอดเวลา ว่าแสดงละคร เอารางวัลตุ๊กตาทองไปเลย ทางทีมข่าวช่อง 8 จึงสอบถามไปยัง นางภคพร อายุ 38 ปี แม่ของเพื่อนสนิทนายแบงค์ หนึ่งในคนที่ตะโกนแซะว่าเพราะเหตุใดถึงตะโกนว่านางสาวโชติกา แม่บุญธรรมของนายแบงค์ ไปเช่นนั้น




นางภคพร จึงเปิดเผยกับทางทีมข่าวว่า นางโชติกาเป็นคนไปแจ้งความว่านายแบงค์หาย ซึ่งน่าจะทราบเป็นคนแรกว่าตำรวจพบศพแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ตนจึงไม่พอใจว่าเพราะเหตุใดถึงไม่มาตั้งแต่เมื่อวาน เมื่อวานมีแต่ฝั่งญาติแท้ ๆ ของน้องแบงค์หมดเลย ทั้งดึก ทั้งขึ้นเขา ก็ยังคงมารอเพื่อรับศพน้องกลับบ้าน แต่พอวันนี้เมื่อมีสื่อมาหลายหลายช่อง กลับวิ่งตั้งหน้ามาร้องไห้ ตนจึงตะโกนด่าไปว่า “แสดง มอบตุ๊กตาทองให้เลย” ร้องไห้ไม่กี่นาทีก็เป็นลมเลย จากนั้นก็กลับมาปกติ ตนสงสัยว่าคนเป็นลมอยู่ดี ๆ หายเลย เป็นไปได้เหรอ เป็นลมไม่ถึง 3 นาที แสดงเก่งมาก ๆ




ตนเชื่อว่านางสาวโชติกา แม่บุญธรรมนายแบงค์ก็รักนายแบงค์เช่นกัน แต่ก็คงไม่ได้รักมากขนาดนั้น ไม่เท่ากับฝั่งอาแท้ ๆ ที่เลี้ยงมาเอง ซึ่งจริง ๆ นายแบงค์มีศักดิ์เป็นแค่ลูกเขยของนางสาวโชติกาเท่านั้น คนที่เลี้ยงดูนายแบงค์มาตั้งแต่เกิดคือ อาน้อย อาแท้ ๆ ของนายแบงค์ แต่ช่วงหลังนายแบงค์ทะเลาะกับแฟนหนักมาก มาระบายให้อาน้อยฟังทุกวัน อาจึงยื่นคำขาดว่าถ้ากลับไปอีก จะไม่สนใจและจะไม่เลี้ยงดูอีกแล้ว ที่ผ่านมาฝั่งนางสาวโชติกาจึงไม่พอใจ เคยเดินทางมาด่าว่าอาน้อยถึงบ้าน บอกว่าถ้าด้านอาน้อย ไม่เลี้ยงดู ตนก็จะเป็นคนเลี้ยงดูเอง ตนจึงมองว่าการร้องไห้ของนางสาวโชติกานั้นไม่จริงใจ แค่รู้สึกผิดว่านายแบงค์ออกจากบ้านมา เพราะทะเลาะกับลูกสาวตัวเอง ถ้าคนรักจริงทราบอยู่แล้วว่าเขาจะมาหาหัวกะโหลกนายแบงค์ ทำไมถึงไม่มาตั้งแต่เช้า ไม่มาช่วยหาตั้งแต่แรก จะมาทำไมตอนนี้




ล่าสุดวันนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แจ้ซ้อน ได้ควบคุมตัวนายออม เพื่อไปสอบปากคำเพิ่มเติมร่วมกับสหวิชาชีพ ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดลำปาง เบื้องต้นทางทีมข่าวช่อง 8 ได้สอบถามไปยังนายออม ขณะกำลังอยู่บนรถ ปรากฏว่านายออมนั่งเงียบ และไม่ตอบคำถามแม้แต่คำถามเดียว ซึ่งทางทีมข่าวสอบถามถึงปมในการก่อเหตุ นายออมก็ไม่ให้คำตอบเลย โดยสีหน้าของนายออมวันนี้ดูท่าทีเคร่งเครียด และค่อนข้างเป็นกังวลเป็นอย่างมาก




เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เป็นข้อมูลไว้ว่า นายออมรับสารภาพ อ้างว่าเป็นคนวางแผนฆ่านายแบงค์ด้วยตัวคนเดียว โดยในวันที่ 10 พ.ค. นายแบงค์และนายออมได้ไปเที่ยวนั่งดื่มบริเวณน้ำตกสองปานด้วยกันจริง โดยมีนางสาวเนม ซึ่งเป็นเพื่อนของนายออมเป็นพยานรู้เห็น ก่อนที่นายออมจะนำรูปแฟนของตนมาอวดนายแบงค์ นายแบงค์กลับพูดว่า “แฟนสวยจัง อยากได้ด้วย” จึงเป็นเหตุให้นายออมไม่พอใจเป็นอย่างมาก ออกกลอุบายชวนไปหากระรอกบนเขาบ้านป่าเหมี้ยง ซึ่งในขณะนั้นนายแบงค์ยังไม่รู้ตัว จึงให้เงินนางสาวเนมเป็นจำนวน 700 บาท เพื่อไปซื้อเบียร์มานั่งดื่มกัน ก่อนที่นายแบงค์และนายออมจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไป โดยนายออมเป็นคนขับนายแบงค์เป็นคนซ้อน และสวนทางกับนางสาวเนมและแม่ของนางสาวเนมขณะที่ออกไปซื้อเบียร์


เมื่อไปถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ขณะที่นายแบงค์ลงจากรถเพื่อเดินไปบริเวณทางลงเหว หาของป่าและกระรอก นายออมที่เดินมาทางด้านหลังก็ใช้มีดฟันคอ และนายแบงค์พยายามวิ่งหนีลงไปเพื่อเอาตัวรอด แต่สุดท้ายกลับล้มลง นายออมรีบวิ่งมาฟันซ้ำจนเสียชีวิต และพยายามปิดบังและทำตัวปกติที่สุดเพื่อไม่ให้ใครจับได้




ทั้งนี้ทางทีมข่าวช่อง 8 ได้สอบถามไปยัง น้าน้อย (นามสมมติ) น้าสาวของนายออม เปิดเผยกับทางทีมข่าวว่า ตั้งแต่เด็กนายออมเป็นเด็กก้าวร้าว หัวดื้อ ถ้ามีอะไรให้ไม่พอใจ ก็จะขี้หงุดหงิด และแสดงออกอย่างชัดเจน อารมณ์รุนแรง รวมทั้งสมาธิสั้น ตอนเด็ก ๆ จึงต้องพาไปพบจิตแพทย์เพื่อที่จะปรึกษา และต้องรับยาอย่างต่อเนื่อง แต่นายออมไม่ยอมกินยาจึงขาดการรักษา ที่ผ่านมานั้นในออมมีพฤติกรรมค่อนข้างที่จะก้าวร้าวเป็นอย่างมากทุกครั้งที่ไม่พอใจ ก็จะขว้างปาเข้าของใส่แม้กระทั่งพ่อกับแม่นายออมก็ไม่เว้น ทั้งด่า ต่อว่าและปาข้าวของใส่พ่อแม่ทุกครั้งที่ไม่ได้ดั่งใจ จนตอนนี้พ่อแม่ถึงขั้นตัดหางปล่อยวัด


ส่วนทางด้านเรื่องนายแบงค์นั้น นายออมไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย มาพูดถึงแค่ช่วงหลังว่า ไปซื้อรถมาจากเพื่อนด้วยจำนวนเงิน 4,500 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้นั้น นายออมอ้างว่าได้มาจากการปั่นสล็อต ซึ่งปกติทางด้านนายออมไม่ค่อยแจ้งและไม่ค่อยพูดจากับใคร หลายต่อหลายครั้งที่ออกจากบ้านไปหลายวันโดยไม่แจ้งให้ทางบ้านทราบเลย


สำหรับเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้ ตนปักใจเชื่อว่านายออมลงมือกระทำทั้งหมดเพียงตัวคนเดียว เพราะด้วยพฤติกรรมของนายออมเท่าที่ตนรู้จักนั้น ก็เป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่นายออมจะถึงขั้นลงมือฆาตกรรม เพราะด้วยอุปนิสัยส่วนตัวของนายออม ที่เป็นเด็กก้าวร้าวโมโหร้ายและไม่ฟังใครนั้น น่าจะมีความเป็นไปได้




ทั้งนี้ ทางทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปสอบถามแม่ของนางสาวเนม ซึ่งอยู่กับนายแบงค์และนายออม ที่บริเวณน้ำตกสองปานเป็นคนสุดท้าย อีกทั้งรถมอเตอร์ไซค์ของนายแบงค์ก็จอดอยู่ที่บ้านของนางสาวเนม ก่อนที่นายออมจะมารับไป โดยนางวารุณี อายุ 47 ปี แม่ของนางสาวเนม เผยกับทางทีมข่าวว่า ประมาณ 18.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม นางสาวเนม ลูกสาว ไลน์มาบอกตนเองว่านายแบงค์นำเงินให้ 700 บาท เพื่อให้ไปซื้อเบียร์ ส่วนนายแบงค์และนายออมจะไปเข้าป่าเพื่อหาของป่า โดยนายออมเป็นคนขับและนายแบงค์เป็นคนซ้อนขี่มอเตอร์ไซค์ของนายออมขึ้นไป


ขณะนั้นทั้งสองคนสวนทางกับตนที่ไปรับนางสาวเนมไปซื้อเบียร์ ซึ่งจากลักษณะที่เห็นนายแบงค์และนายออมนั้นก็มีลักษณะปกติ ไม่ได้ผิดแปลกแต่อย่างใด ส่วนทางด้านนางสาวเนมนั้นไม่ได้รู้จักกับนายแบงค์มาก่อน เพิ่งรู้จักในวันเกิดเหตุ เพราะนายแบงค์มาเล่นน้ำกับนายออม หลังจากไปซื้อเบียร์แล้ว นางสาวเนมจึงทักไลน์หาทางนายออม ถามว่าไปไหนกัน นายออมก็ตอบกลับมาว่าจะไปเที่ยวกัน บอกให้นางสาวเนมแบ่งเบียร์ไว้คนละครึ่งกับตนเอง หลังจากนั้นวันที่ 11 พ.ค. ด้านนายออมทักมาหานางสาวเนม เพื่อจะมาเอารถนายแบงค์ซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณชานบ้าน


โดยที่ที่ผ่านมานั้นตนไม่เคยเจอนายแบงค์ก่อน แต่ก็พอจะรู้จักนายออมเพราะว่าเป็นเพื่อนที่โรงเรียนของนางสาวเนม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นางสาวเนมไม่ได้รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ตนเองก็ไม่คิดว่าทางด้านนายออมจะกล้าลงมือทำผิดฆาตกรรมในครั้งนี้

 

โคตรเหี้ยมฆ่าหนุ่มไรเดอร์ลำปาง หนุ่ม 17 ลวงไปหาสัตว์ คว้ามีดสับคอศพหมกป่า