แตกตื่นทั้งจังหวัด คนวิ่งถือปืนวิ่งไล่กัน เข้าไปในโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดและคนตาบอดพิการซ้ำซ้อนลพบุรี

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 เวลา 14.00 น. ศูนย์วิทยุ 191 ลพบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากครู โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดและคนตาบอดพิการซ้ำซ้อน อ.เมือง จังหวัดลพบุรี มีคนถือปืนวิ่งไล่กันเข้ามาในโรงเรียนสร้างความตื่นตกในให้คุณครู นักเรียน

หลังรับแจ้งเหตุ ตำรวจได้ระดมกำลังพร้อมอาวุธครบมือ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ

โดยที่เกิดเหตุ อยู่บนพื้นที่ว่างเปล่าติดกับโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดและคนตาบอดพิการซ้ำซ้อนลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวชายทั้ง 2 คน เอาไว้ได้ คนแรกทราบชื่อนายบุญอิ่ม อายุ 46 ปี พร้อมอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก อีกคนทราบชื่อนายสมพร อายุ 33 ปี สภาพเนื้อตัวเปียกปอนอาการเหนื่อยหอบจากวิ่งหลบหนี

สอบถามนายบุญอิ่ม เล่าว่า ตนเองเป็นคนดูแลโรงเรียนร้างแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดและคนตาบอดพิการซ้ำซ้อน ก่อนเกิดเหตุตนได้รับแจ้งจากนายศิริชัย เจ้าของโรงเรียนว่าดูจากกล้องวงจรปิดของโรงเรีนพบว่า มีคนกำลังบุกรุกเข้าไปขโมยของ จึงรีบขับรถมาที่โรงเรียนเพื่อมาดูความเรียบร้อย เพราะที่โรงเรียนมักถูกขโมยของประจำ จังหวะที่ตนขับรถมาถึง พบกับนายสมพร ซึ่งกำลังเดินเข้ามาในโรงเรียนซึ่งเตรียมจะขโมยของออกไป

จึงได้ตะโกนให้หยุด แต่เมื่อนายสมพร ได้วิ่งหลบหนี และปีนกำแพง โดดลงสระน้ำว่ายหนีข้ามไป ก่อนจะปีนเข้าไปภายในโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดและคนตาบอดพิการซ้ำซ้อน ตนจึงวิ่งตามไล่ไปโดยถืออาวุธปืนเข้าไปด้วย เพื่อให้นายสมพรหยุดหนี โดยยืนยันไม่ได้ยิงปืนแต่อย่างใด จนมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ช่วยล้อมจับกุมตัวนายสมพรเอาไว้ได้ในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนนายสมพร เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า กำลังจะเข้าไปหาขโมยของในโรงเรียนร้าง เพื่อนำไปขาย เพราะตนเองติดยาบ้าอย่างหนัก โดยได้นำรถจักรยานยนต์ไปจอดซุกซ่อนไว้ในป่าข้างบ้านร้าง ตำรวจ จึงยึดเอาไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี

เบื้องต้นนำตัวทั้ง 2 ฝ่าย ไปสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหานายบุญอิ่ม พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนนายสมพร แจ้งข้อหาบุกรุกเคหสถาน นำตัวไปตรวจสารเสพติดพบสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งนายสมพรรับสารภาพ

ส่วนนายบุญอิ่มได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวเพื่อรอส่งศาลพิจารณา