กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณศาลาพักศพของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถกระบะอีซูซุ สีขาว ชนท้ายรถกระบะวีโก้ สีดำ จากการสอบสวนทราบว่า บริเวณหน้าศาลาพักศพได้มีชายชกต่อยกันอย่างดุเดือด ทราบว่าทั้งสองฝ่ายเป็นลูกของผู้ตายแต่คนละแม่กันนั้น โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายทวี ส่วนผู้ที่ชกต่อยกันนั้น เป็นลูกของคนตายชื่อ นายสุเทพ ชาวอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และอีกคนชื่อ นายนพกุล ชาวอำเภอจุฬาภรณ์ โดยมีคลิปจากญาติ ๆ บันทึกเหตุการณ์ศึกชิงศพพ่อระหว่างลูกชายทั้งสองคน

วันนี้ 24 พ.ค. 2567 ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุ พบว่านายสุเทพ ลูกชายผู้เสียชีวิต ที่อยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ได้มาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเจ้าตัวอ้างว่า ถูกลูกต่างแม่ที่อยู่พื้นที่อำเภอจุฬาภรณ์ ทำร้ายร่างกาย มีบางจังหวะที่ทีมข่าวเข้าไปสอบถามนายสุเทพ ว่าสาเหตุอะไร ทำไมถึงมีการแย่งศพพ่อ และทำร้ายร่างกายกัน โดยนายสุเทพบอกกับทีมข่าวสั้น ๆ ว่า ตัวเองไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ไม่สะดวกตอบคำถามใด ๆ ทั้งสิ้น

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังอาคารนิติเวช รพ. แห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช โดยทางเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลสั้น ๆ กับทีมข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 11.30 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ขอลงรายละเอียดเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุ ให้ข้อมูลได้แค่ว่า ตอนนี้ศพนายทวี ผู้เสียชีวิต ยังถูกเก็บไว้ที่อาคารนิติเวชอยู่ ยังไม่ให้ญาติรับศพออกไป ซึ่งต้องรอญาติทั้ง 2 ฝ่าย ไปตกลงกันให้ลงตัวอีกทีจึงจะสามารถมารับศพได้

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวเดินทางมายังบ้านของนายนพกุล อายุ 39 ปี ลูกชายคนน้อง ต่างแม่กับนายสุเทพ ที่อยู่ใน อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งพบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีการจัดเตรียมเต็นท์ จัดเตรียมอาหาร และมีชาวบ้านกว่า 50 คน มาช่วยจัดเตรีนมงานศพ

ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายนพกุล ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้พ่อของตัวเองอาศัยอยู่กับตัวเองจำนวน 30 กว่าปี กระทั่งพ่อได้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ได้ 16 ปี และมีอาการทรุดหนักในช่วงหลัง ๆ ซึ่งล่าสุดตัวเองต้องไปนอนเฝ้าไข้พ่อที่โรงพยาบาลกว่า 15 วัน แต่ทางนั้นมาดูอาการพ่อเป็นครั้งคราว ไม่เคยมานอนเฝ้า กระทั่งพ่อได้เสียชีวิตเมื่อเช้า ซึ่งหลังจากพ่อเสียชีวิตตัวเองก็เห็นว่า ทางนายสุเทพ พี่ชายต่างแม่ ได้เอารถมาจอดรับศพพ่อตัดหน้าตัวเอง ตัวเองจึงรู้สึกโมโห ฟิวส์ขาด และได้ถอยรถไปชนพี่ชายตามในคลิป

จากนั้นตนเองก็โทรศัพท์บอกชาวบ้านจัดเตรียมสิ่งของ จัดเตรียมงานศพให้พ่อหมดแล้ว ก็ไม่คิดว่าพี่ชายต่างแม่จะมาทำแบบนี้ ซึ่งระหว่างที่นายนพคุณให้สัมภาษณ์ทีมข่าวถึงท่อนนี้ เจ้าตัวก็ร้องไห้เสียใจ และขอให้สัมภาษณ์แต่เพียงเท่านี้

หลังให้สัมภาษณ์ทางครอบครัวได้นำใบทะเบียนสมรส ระหว่างผู้ตายกับภรรยาของผู้ตาย รวมถึงใบทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้ตายอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับนายนพกุล และมีแพมเพิสที่ญาติเอามาเป็นหลักฐานให้ทีมข่าวดูว่าเป็นสิ่งของที่ใช้ดูแลรักษาผู้เสียชีวิตตอนที่ยังป่วยอยู่ที่บ้าน

ด้านนายสมคิด ผญบ.หมู่ 5 ให้สัมภาษณ์สัมภาษณ์ ตัวเองสามารถเป็นพยานให้กับนายนพกุลได้ หากเขาต้องต่อสู้เรื่องของสิทธิรับศพพ่อ เนื่องจากตัวเองเห็นผู้เสียชีวิตมาอาศัยอยู่ในหมู่ 5 ต. ทุ่งโพธิ์ อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช มากกว่า 30 ปี และตอนที่เขาเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง เขาได้นายนพกุล ลูกชายคนเล็ก ดูแลรักษามาโดยตลอด ที่สำคัญทะเบียนบ้านรวมถึงทะเบียนสมรส เขาก็จดกับแม่ของนายนพกุล ตัวเองจึงสามารถเป็นพยานให้กับเขาได้ ส่วนรถกระบะคันสีดำของนายนพกุล ที่ถอยรถไปชนกระบะของนายสุเทพนั้น พบว่ากระบะดำได้มีการจอดที่หน้าบ้านของนพกุล ซึ่งมีความดเสียหายที่ล้อหลังซ้าย และท้ายกระบะ

สำหรับความคืบหน้าทางคดี ตำรวจอยู่ระหว่างเรียกลูกชายทั้งสองคนสอบปากคำ ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ นายสุเทพ ลูกชายติดแม่ คนพี่ ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับน้องชายในข้อหาทำร้ายร่างกาย ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ส่วนข้อหาอื่น ๆ อยู่ระหว่างสอบปากคำ และศพผู้เสียชีวิตตอนนี้ได้อายัดไว้ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งญาติทั้งสองฝ่ายจะมีการดำเนินคดีเพื่อแจ้งสิทธิ์ขอรับศพผู้เสียชีวิตต่อไป