"ชัชชาติ" นำทีมแถลงผลงาน 2 ปี แก้ปัญหาไปกว่า 4.7 แสนเรื่อง รับยังมีหลายสิ่งที่ต้องปรับปรุงแก้ไขอีก ให้คะแนนตัวเอง 5 เต็ม 10
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำทีมรองผู้ว่าฯกทม.แถลงผลการดำเนินงานในโอกาสครอบ2ปี ในหัวข้อ “2ปี ทำงาน เปลี่ยน ปรับ ยกระดับกรุงเทพฯเมืองน่าอยู่” ที่หอศิลปวัฒนธรรม
โดยระบุว่า ตลอด2ปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินการ ปรับมายเซ็ทของระบบราชการ จากเดิมการแก้ปัญหาล่าช้า จึงได้ใช้เทคโนโลยี คือ แอปพลิเคชั่น ทราฟฟี่ฟองดูร์ เข้ามารับแจ้งปัญหาใน กทม. และแก้ปัญหาไปแล้ว กว่า 4.7 แสนเรื่อง และอยู่ระหว่างดำเนินการอีกหมื่นกว่าเรื่อง ถือเป็นการเปลี่ยนมายเซ็ต ที่ตัวชี้วัดเป็นรูปธรรรม และทำให้การแก้ไขปัญหาให้ประชาชนรวดเร็วขึ้น รวมถึงยังมีการปรับปรุงทางเท้าเดิน เพื่อให้อยู่ร่วมกับหาบเราแผงลอยได้ โดยหาจุดสมดุลซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกัน และยังทำทางเดินมีแสงสว่างมากขึ้น แก้ปัญหาน้ำท่วม ให้การระบายน้ำเร็วขึ้น และเพิ่มพื้นที่สาธารณะ ปลูกต้นไม้ไปแล้ว 935,000 ต้น จากที่ตนเองได้มีนโนบายปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น และจะเพิ่มให้เป็น 2 ล้านต้นในอีก 2 ปี อีกเรื่องสำคัญคือ การปลดหนี้ BTS ในงานระบบส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 23,000 ล้านบาท รวมถึงโอนกรรมสิทธิ์โครงการส่วนต่อขยาย มาเป็นของ กทม. พร้อมจะเสนอรัฐบาล ยกเลิกคำสั่ง ม.44 นำระบบรถไฟฟ้ากลับสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและร่วมทุนตามกฎหมายให้โปร่งใส และมีประโยชน์มากที่สุดกับประชาชน
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่ทุจริต หลังได้รับการร้องเรียนเข้ามา ซึ่งมีมูลการทุจริต 56 เรื่องให้ออกจากราชการไปแล้ว 29เรื่อง กำลังพิจารณาลงโทษอีก 12 เรื่อง และอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบของ กทม. อีก 449 เรื่อง พร้อมยอมรับว่า สิ่งที่ยังต้องปรับปรุงก็มีอีกมากมาย เนื่องจากปัจจุบันยังมีพฤติกรรมผักชีโรยหน้าอยู่ ซึ่งยังไม่ได้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ส่วนนโยบายที่เคยหาเสียงไว้แล้วยังทำไม่ได้ผล เช่น ห้องการให้นมเด็ก เพราะทำแล้วไม่มีคนมาใช้ และการปรับปรุงป้ายรถเมล์ ให้ดีขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีนโยบายใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาตลอด และนโนบายไม่ใช่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่เป็นการพยายามปรับให้เข้ากับสถานการณ์ขึ้น และทำได้ 90%
อย่างไรก็ตาม หากให้คะแนนเต็ม 10 ตนเองก็ให้ 5 คะแนน เพราะคะแนนเป็นหน้าที่ของประชาชนที่ต้องให้ ส่วน 2 ปีจากนี้ ยังต้องปรับปรุงพัฒนาต่อไป โดยยืนยันว่า กทม.จะทำงานเต็มที่ เพื่อให้คนเหนื่อยน้อยลงและเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นเพื่อให้คนอยู่ในครอบครัวและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข