รวบคาคอนโด มาเบล นักบิด หลอกขายมือถือผ่านออนไลน์ สุดท้ายบล็อกเฟซ พบมีหมายจับฉ้อโกงติดตัว

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์. รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ

ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ปลอมตัวเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊ก เปิดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือผ่านสื่อออนไลน์โปรไฟล์ดี สร้างความน่าเชื่อ โพสต์จำหน่ายโทรศัพท์หลากหลายยี่ห้อ และสามารถเช็คเครดิตได้

เมื่อวันที่ 29 พ.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.

ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น.(ชุดปฏิบัติการที่ 2) ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.รุ่งฟ้า หรือมาเบล อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ จ.316/2567 ลงวันที่ 23 เม.ย. 2567

ข้อหา“ฉ้อโกง, ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” จับกุมที่คอนโด ย่านนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากมีมิจฉาชีพปลอมตัวเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กเปิดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือผ่านสื่อออนไลน์โปรไฟล์ดี สร้างความน่าเชื่อ โพสต์จำหน่ายโทรศัพท์หลากหลายยี่ห้อ และสามารถเช็กเครดิตได้

ต่อมามีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินชำระค่าสินค้า โดยใช้บัญชีธนาคารชื่อบัญชี นางสาวรุ่งฟ้า เมื่อผู้เสียหายทวงถาม พยายามบอกปัด สุดท้ายปิด หรือบล็อกเฟซบุ๊กบิดเงิน ไม่ส่งของหลบหนีไป

เมื่อตรวจสอบ BlacklistSeller เพื่อเช็กผู้ขายที่ควรระวัง พบบัญชีธนาคารอีกจำนวนมาก ที่มีการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันคือหลอกให้โอนชำระค่าโทรศัพท์มือถือ โดยบัญชีดังกล่าวใช้ชื่อ “นางสาวรุ่งฟ้า” มีจำนวนผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ราย

ส่วนใหญ่ผู้เสียหายอายุน้อย 17-25 ปี เชื่อว่าน่าจะเห็นแก่โทรศัพท์ที่มีราคาถูก และประวัติอาชญากรรมยาวเป็นหางว่าว มูลค่าความเสียหายแต่ละรายไม่ใช่น้อย

จากการสอบถาม น.ส.รุ่งฟ้า ผู้ต้องหาตามหมายจับให้การรับว่า ตนเป็นเพียงทางผ่านที่ใช้บัญชีสำหรับฝากรับเงินโอนจากผู้อื่น แล้วโอนต่อไปยังปลายทางอีกทอดนึง

โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กแปลกหน้าทักบทสนทนามาพูดคุยสอบถาม ให้ค่าจ้างสำหรับรับโอนครั้งละ 300-500 บาท โดยไม่รู้ว่ายอดเงินดังกล่าวเป็นเงินค่าอะไร ได้มาจากไหน และอ้างว่าการรับโอนแต่ละครั้งตนใช้บัญชีธนาคารเดียว

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำบัญชีอื่นที่ใช้หลอกผู้เสียหายรายต่างๆ ไม่ซ้ำธนาคาร มากางให้ดู ตนให้การปฏิเสธว่า ตนไม่ใช่ผู้ใช้บัญชีดังกล่าวแต่อย่างใด ไม่รู้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงแต่อย่างใด และไม่ได้เปิดบัญชีอื่นให้ผู้ใดเอาไปใช้

เมื่อตรวจสอบจากระบบพบว่า น.ส.รุ่งฟ้า ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 367/2563 ลง 25 กันยายน 2563 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” อีก 1 หมาย และประวัติการกระทำความผิดอาญาในลักษณะการฉ้อโกงผ่านสื่อออนไลน์ (จำหน่ายโทรศัพท์มือถือ) สุดท้ายบิดเงินหนี อีกจำนวนหลายคดีไม่ซ้ำท้องที่เกิดเหตุ

พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า ด้วยนโยบายของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่มีพฤติการณ์การกระทำความผิดในรูปแบบออนไลน์ หรือบัญชีม้า พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการดำเนินการจับกุมในครั้งนี้

และฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ ที่ชอบหลอกให้รับโอนเงิน เปิดบัญชี แล้วได้ค่าจ้าง เกรงว่าสุดท้ายจะได้ไม่คุ้มเสีย กลายเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว