จตุพร ชี้ อสส.สั่งฟ้องวันนี้แค่เตือน ทักษิณ เดินหน้าตามดีลลับ ลั่นหากคิดจะสู้สุดท้ายอาจจะจบด้วยการรัฐประหาร
นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. ออกมาวิเคราะห์เกมการเมือง หลังจากที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร ในคดีมาตรา 112 ว่า คดีนี้นายทักษิณต้องกังวล แม้ตอนนี้ สส. รวมถึงนักเคลื่อนไหว จะได้รับการประกันตัวจากคดีมาตรา 112 แต่กรณีของนายทักษิณ ท่านเป็นบุคคลที่เคยหนีคดี ตอน อสส.สั่งฟ้องในรอบแรกท่านก็หนีคดี ท่านจึงเป็นบุคคลที่มีหมายจับในคดีนี้ แม้จะมีการเพิกถอนหมายจับแล้วในภายหลัง แต่กรณีที่ผู้ต้องหาเคยหนีคดี หลายกรณีศาลไม่ให้ประกันตัว ดังนั้น คดีนี้อาจทำให้นายทักษิณติดคุก และเหตุการณ์มันจะไม่เหมือนวันที่ 22 สิงหาคมอีกต่อไป อยู่ดีๆจะป่วยตอนดึกแล้วไปโรงพยาบาล และอยู่โรงพยาบาลตำรวจมันไม่ง่าย เหมือนเดิมอีกต่อไป จึงเป็นเรื่องที่ต้องกังวลสำหรับนายทักษิณ
และการที่นายทักษิณ อ้างว่า ติดโควิดวันนี้เพราะประเมินสถานการณ์แล้ว เพราะท่านรู้ดีที่สุดว่าท่านได้กลับมาประเทศไทยด้วยเหตุผลอะไร มันมีการดีลแล้ว จนนำไปสู่การตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี สว.สายพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยกมือให้ และกลายเป็นการจับมือกับพรรคขั้วตรงข้ามโดยพรรคเพื่อไทย ต้องตระบัดสัตย์ และการที่นายทักษิณไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว ถ้าไม่มีดีลลมาก่อน ไม่มีใครกล้าทำให้ แต่เมื่อวันนี้ไม่ปฏิบัติตามดีลหรือทำอะไรเกินดีล ท้ายที่สุดคณะผู้ดีลก็ต้องเอาเรื่องนี้มัดขาเอาไว้ ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน เพราะดีลเดิม นายเศรษฐา จะต้องลาออก สิ้นเดือนมีนาคม แต่ขยายเวลาออกไป อสส.จึงเลื่อนไปเป็นวันที่ 29 พฤษภาคม ซึ่งคณะผู้ดีล เขาก็ต้องตรึกตรองไว้แล้ว ตั้งแต่ก่อนเอาตัวกลับมาประเทศไทย เช่น ว่า ต้องอยู่ในการควบคุมตัวภายในประเทศ ใช้สำนวนที่ว่า ถ้าเป็นตาข่ายก็จะไม่มีรูรอดโดยเด็ดขาด แต่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา คนก็สงสัยว่าสรุปใครอยู่ในตาข่ายกันแน่ เพราะนายกทักษิณ ไปได้ทุกที่ และก็มีความแข็งแรงเกินคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อันเป็นเหตุผลของการพักโทษ มันทำลายกระบวนการยุติธรรม มันกลายเป็นว่าคณะเดียวไปปลุกผีทักษิณขึ้นมา และควบคุมไม่ได้ อาละวาดเพ่นพ่านไปหมด วันนี้จึงต้องใช้สำนักงานอัยการจับเข้าหม้อดินใหม่
"เพราะฉะนั้นเมื่อไม่เป็นไปตามดิว ไม่ไปตามเวลา และทุกอย่างที่ลำพอง ทำเกินดีล มาตรการที่ออกมาวันนี้ ก็เป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เพราะว่าการเจรจาที่เป็นแค่ลมปากไม่มีมาตรการควบคุม เขาต้องรู้ว่าคู่ดีลเขาเป็นใครและบัดนี้ก็สำแดงให้เห็นแล้ว จึงคิดว่าถ้า 18 มิถุนายนนี้ นายเศรษฐา ยังไม่ลาออก นายทักษิณ ก็คงไม่ไปพบอัยการสูงสุด เพราะสุ่มเสี่ยง เนื่องจากตามดีล เศรษฐาต้องไป มันเป็นข้อตกลง มันไม่ใช่หลักรัฐศาสตร์มันเป็นเพียงแค่การฮั้ว ให้ได้อำนาจและตัวเองได้กลับมา และนายกยิ่งลักษณ์ก็ต้องได้กลับมาเหมือนกัน" นายจตุพร ระบุ
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ถ้าไม่เกิดดีลใหม่ขึ้นมาและสุ่มเสี่ยงที่นายทักษิณต้องติดคุก เขาไม่มีทางเดินทางไปพบอัยการ เพราะการติดคุกคือสิ่งที่นายทักษิณกลัวที่สุด
ขณะที่การดีลให้นายเศรษฐา ลาออก ก็เพื่อให้ 3 candidate ของพรรคร่วมรัฐบาล และให้ขั้วอำนาจเดิมกลับมาบริหารประเทศซึ่งหากแคนดิเดต ที่มีอยู่ในบัญชีไม่ได้นั่น อาจจะหมายถึงการกลับมาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย
นายจตุพร กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ไม่มีใครแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ นอกจากตัวนายทักษิณ เพราะเขารู้ดีว่าเขากลับมาประเทศไทยได้อย่างไร จะมาแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุคงเป็นไปไม่ได้ หากวันนี้นายทักษิณ คิดจะสู้สุดท้ายมันอาจจะจบด้วยการรัฐประหาร น้องสาวของท่านก็ยากที่จะกลับมา และปัญหาต่างๆมันจะลุกลาม เพราะฉะนั้นท่านเป็นคนที่สร้างปัญหานี้ขึ้นมาเอง ท่านก็ต้องรู้ว่าท่านจะต้องแก้อย่างไร และวันนี้มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่า คณะดีลเขาก็โต้กลับทันควัน หลังจากถูกตั้งคำถามว่าสรุปแล้วเขายังกินข้าวอยู่หรือไม่ และมันสำแดงแล้วว่าเขายังกินข้าวอยู่
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวคิดว่า นายทักษิณ ไม่กล้าแลก เพราะตัวประกันในเกมนี้เยอะเหลือเกิน วันนี้คุณจะเล่นเกมที่ได้อย่างเดียวมันไม่ได้ พอถึงเวลาเสียแล้วไม่ยอมเสีย มันก็จะเจอแบบนี้