"กัน จอมพลัง" ช่วยชาวบ้านย่านท่าข้าม ร้องเรียนเพื่อนบ้านเพี้ยน ตกค่ำสวดคาถาทำพิธีประหลาด บูชาเหล็กไหลกลางถนน สุดท้าย พูดจาดียอมเข้ารับการบำบัด
วันที่ 30 พ.ค. 2567 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง เดินทางมายังพื้นที่ สน.ท่าข้าม พร้อมกับสื่อมวลชน หลังจากได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ว่ามีชายอ้างตัวเป็นศิษย์เหล็กไหล พอฟ้าเริ่มมืดจะจุดธูปเทียนทำพิธีกลางถนนของหมู่บ้าน สวดคาถาบูชาเหล็กไหล ตกดึกจะตะโกนร้องเพลงชาติ และตะโกนด่าเพื่อนบ้านไปทั่ว นอนบนถนน ยืนอาบน้ำกางเกงในตัวเดียวข้างถนน เป็นอย่างนี้มาปีกว่าแล้ว ทำให้ชาวบ้านห่วงเรื่องความปลอดภัย
เมื่อ กัน จอมพลัง ลงพื้นที่หมู่บ้านดังกล่าว ก็เจอกับชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันและเข้ามาหา จากนั้นก็เล่าให้ฟังถึงพฤติกรรมของชายรายดังกล่าว ก่อนจะชี้บอกบ้านของพ่อชายคนดังกล่าว
เมื่อกัน จอมพลัง เดินไปเคาะประตูบ้าน ก็พบกับชายสูงวัย เมื่อสอบถามชายสูงวัยก็บอกว่า เป็นพ่อของชายคนดังกล่าว ลูกอายุประมาณ 40 กว่า ป่วยจิตเวชมา 10 กว่าปีแล้ว เนื่องจากลูกชายติดยาเสพติด
ตอนแรกได้พาไปบำบัดและรักษาแล้ว แต่เมื่อกลับมาลูกก็ชอบขโมยของภายในบ้าน ทำให้พ่อสุดทนจึงไล่ออกจากบ้าน แล้วก็ประกาศตัดพ่อตัดลูกกัน ทำให้ลูกนำข้าวของมานอนอยู่บริเวณหน้าบ้าน และก็เริ่มทำพิธีกรรมแปลกๆ อย่างที่เห็น
หลังจากนั้น ก็มีการนำตัวไปรักษาอีกรอบ แต่ก็หลบหนีออกมา และไปก่อเหตุจนไฟไหม้แฟลต ทำให้ต้องจ่ายค่าชดใช้ไป พ่อจึงไม่สนใจแล้วปล่อยให้อาศัยข้าววัดกิน
ขณะที่ลงพื้นที่ไม่พบกับชายคนดังกล่าว กระทั่งมีคนแจ้งว่า ชายคนดังกล่าวอยู่ที่วัด กัน จอมพลัง พร้อมกับทัพนักข่าวจึงได้เดินทางต่อไปที่วัด ก็พบกับชายคนดังกล่าว
เมื่อเข้าไปสอบถามชายคนดังกล่าวสามารถสื่อสารได้ และตอบโต้พูดคุยกับนักข่าวได้ปกติ โดยเล่าว่า เมื่อปี 2555 เคยเสพยา จากนั้นก็ไม่ได้แตะต้อง และหันมาสูบยาเส้นแทน ส่วนพิธีกรรมต่างๆ ที่ทำ ก็เป็นการบูชาเทพเจ้า และร้องเพลงชาติโชว์สื่อมวลชน
หลังจากพูดคุยเสร็จ กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากนี้ก็จะไปติดตามต่อ เพราะตำรวจจะทำประวัติแล้วส่งต่อข้อมูลให้กับโรงพยาบาล เพื่อนำตัวรักษาต่อไป
ด้านชาวบ้าน เปิดใจกับทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 หลังมายืนส่งชายคนดังกล่าวว่า พวกตนอยากให้ชายคนดังกล่าวหาย เพราะปกติก็ไม่เคยทำร้ายใคร เป็นเพื่อนบ้านที่น่ารักมาตลอด และเป็นคนพูดเพราะ แต่จะมีบางครั้งที่อาละวาด โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อน แต่ก็ไม่เคยกระทบคนอื่น
"อยากให้ส่งตัวไปรักษา เพราะอยากให้กลับมาเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขต่อไป" เพื่อนบ้านกล่าว