"ฮาย อาภาพร" พาน้องสาว - ผู้เสียหาย จากกลุ่มมิจฉาชีพ แจ้งความ ตำรวจไซเบอร์ หลังถูกตุ๋น สูญเงินกว่า 70 ล้าน

วันนี้ 31 พ.ค. ”ฮาย“ อาภาพร นครสวรรค์ พาน้องสาว ”แหวดศรี นครสวรรค์ พร้อมผู้เสียหายอีก 11 ราย เดินทางมาที่ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 หรือ บก.สอท.1 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อเข้าแจ้งความ หลังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ จนสูญเงินรวมกว่า 70 ล้านบาท

โดย ฮาย อาภาพร เล่าว่า ตอนแรกที่รู้ว่าน้องสาวไปกู้เงินนอกระบบ พร้อมกับทักยืมคนใกล้ชิด ตอนนั้นโกรธมาก เพราะคิดว่าน้องสาวนำเงินไปเล่นพนันออนไลน์ จึงไม่ติดต่อตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 27 เมษายน ”แหวดศรี“ ได้นำเอกสารหลักฐานทั้งหมด มาให้พี่สาวดูว่าที่ต้องไปหยิบยืมเงิน และกู้นอกระบบมา เพราะถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอก หลังจากที่เข้าไปในกลุ่มรับของรางวัล เพราะซื้อสินค้าจากแอปพลิเคชันชื่อดัง

โดยแหวดศรี เล่าว่า เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากการสั่งสินค้าในแอปฯ ออนไลน์ ที่ใช้ประจำ กระทั่งวันหนึ่งมีเบอร์โทรศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย 02 โทรเข้ามา แล้วบอกว่าได้รับสิทธิพิเศษ เป็นโบนัสสินค้า จากนั้นให้แอดไลน์ ก่อนจะได้ส่งสินค้าให้ดู เพราะความไว้ใจ และเชื่อถือ เพราะแหวดศรีมีการซื้อสินค้าจากร้านดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง จึงแอดไลน์และกดดู พบว่ามีให้เลือกตู้กดน้ำเย็นน้ำร้อน โดยให้ฟรี เป็นของสมนาคุณ

จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพ ก็เริ่มมีการเชิญชวนว่า ถ้าชวนคนมากดลิงก์ หรือกดแชร์เพิ่ม 1 ครั้ง จะได้ 20 บาท พอลองกดลิงก์ ก็ได้เงินจริง และมีเงินโอนเข้ามาตลอด และยิ่งกดไปเท่าไหร่ก็จะได้เท่านั้น แหวดศรีก็เลยมองว่าน่าสนใจ เพราะมีเงินเข้ามาจริง หลังจากให้ทำกิจกรรมสักพัก มิจฉาชีพ เริ่มชวนเข้ากรุ๊ปไลน์ ซึ่งในกรุ๊ปนั้นมีสมาชิกอยู่ 400-500 คน โดยในกรุ๊ปดังกล่าวมีข้อมูลว่า หากมีการอัปเกรดเลื่อนขั้น ก็จะได้ส่วนแบ่งกลับมาเยอะขึ้นแต่ต้องเสียเงินในการ "เพิ่มเลเวล" ก่อน ครั้งละ 950 บาท และก็ทำลักษณะก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งการ "เพิ่มเลเวล" ไปถึงระดับที่สามารถเข้ากลุ่ม VIP ซึ่งแหวดศรี อัปไปจนถึงระดับที่ 7 ก็พบว่าในกลุ่มไลน์มีตัวละครอยู่ประมาณ 3-4 คน ซึ่งอ้างว่าจะได้รับสิทธิพิเศษกว่าตอนที่อยู่ในไลน์กรุ๊ปใหญ่ โดยรายชื่อคนในกรุ๊ปไลน์ VIP นั้นก็มีตำแหน่งใหญ่โต ทั้งศาสตราจารย์ ดร. จึงสร้างความน่าเชื่อถืออีกด้วย หลังจากเริ่มลงทุนเพิ่มเลเวลแล้ว ก็ได้เงินเพิ่มกลับมา โดยวงเงินในการ "เพิ่มเลเวล" ก็จะยิ่งสูงขึ้น ตามเลเวลที่ต้องการอัป จาก 950 บาท ก็เริ่มขึ้นเป็น หนึ่งหมื่นบาท

โดยจะมีคนในกลุ่มย่อยนี้ ที่จะรับบทบาทเป็นคนร่วมบริจาคทำบุญ และมีการแอบอ้างเป็นมูลนิธิชื่อดัง (รามาธิบดี ,ช่วยเหลือสัตว์) รวมถึงเรื่องการโอนเงินเข้าไปด้วย โดยแหวดศรีได้โอเงินไปหลายครั้ง และมีครั้งหนึ่งโอนเข้าไป 5 หมื่นบาท ได้ผลตอบแทนกลับมา 7 หมื่นบาท ทำให้แหวดศรีเริ่มโอนไปเรื่อยๆ จนช่วงหลังเริ่มโอนเงินไปให้เป็นหลักแสนบาท จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพก็มีกลอุบายว่า มีสมาชิกบางคนกดรหัสผิด ทำให้ไม่สามารถถอนเงินได้ และเงินที่สะสมมาได้ทั้งหมดก็จะสูญหายไป ถ้าอยากจะได้ก็ต้องโอนเงินเพิ่มเข้าไปอีก ประมาณ 3-4 แสนบาท แล้วทีมงานจะปลดล็อกให้ ด้วยความที่แหวดศรีอยากได้เงินคืน จึงได้พยายามโทรขอยืมกับทุกคนที่อยู่ใกล้ตัว รวมทั้งกู้เงินนอกระบบที่ต้องเสียดอกร้อยละ 20 ด้วย

ทำให้ ฮาย อาภาพร ได้เล่าเรื่องนี้ และมีผู้เสียหายร้ายอื่นๆ เห็น จึงติดต่อเข้ามา เพื่อจะรวมตัวกันเข้าแจ้งความ โดยบางรายสูญเงินหลักแสน หลักหลาย แต่บางคน สูญเงินมากถึง 25 ล้านบาท โดยเมื่อรวมกันแล้ว มากถึง 30 ราย มีมูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท ฮาย อาภาพร ยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า การกระทำของมิจฉาชีพกลุ่มนี้เลวมาก ที่ใช้การเขียนโปรแกรมออกมาหลอกคน ซึ่งเหตุการทั้งหมดหากเจออยากจะเข้าไปทำร้ายร่างกายพวกนี้ (กระโดดถีบหน้า) เพราะสิ่งที่มิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอก ทำให้หลายคนหมดตัว และมีอีกหลายคนที่ตัดสินใจจบชีวิต เพราะเครียด ซึมเศร้า นอกจากผู้เสียหายกลุ่มนี้ ยังพบว่ามีคนในวงการ เบื้องหลังวงการ หรือผู้ที่มีอาชีพดีๆ อีกหลายคนโดนกระทำเช่นเดียวกัน

ส่วน “แหวดศรี” บอกว่า ตั้งแต่เจอเหตุการณ์นี้ ก็เคยคิดอยากเลือกจากไป แต่พอเห็นหน้าแม่ ได้คุยกับพี่สาว ทำให้ดึงสติกลับมาได้ แล้วเผชิญหน้ากับปัญหาแทน