"เบียร์" จ่อฟ้องชู้ "เจสซี่" ทำบ้านแตก ย้ำคืนเงินที่ยืมแล้ว
วันที่ 1 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานทนายรัชพล นายเบียร์ อายุ 33 ปี พร้อมญาติ เดินทางมาพบ ทนายรัชพล ศิริสาคร เพื่อปรึกษาเรื่องที่นายเบียร์จะฟ้องชู้ นายเจสซี่อายุ 17 ปี และกรณีที่นายเบียร์ถูกครอบครัวน้องเจสซี่ดำเนินคดีข้อหารับของโจร รวมถึงตอบคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเบียร์และกานต์ ซึ่งถือว่าปรากฏตัวเป็นครั้งแรกหลังจากมีเรื่องราวดราม่า
นายเบียร์ เล่าว่า นายเจสซี่ คบกับลูกสาวช่วงเดือน ต.ค.2566 ซึ่งเป็นการไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด ส่วนตนกับภรรยาจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2564 แต่คบกันมา แต่งงานกันมาตั้งแต่อายุ 14 ปี คบกันมา 19 ปีแล้วและมีลูกกันทั้งหมด 3 คน ส่วนช่วงที่ภรรยาทำตัวผิดปกตินายเบียร์ บอกว่า ตอนนั้นภรรยาก็ไม่มีท่าทีอะไรแปลกไปเลย ท่าทีเป็นปกติ ตัวเองยังพาไปเที่ยวปกติ ซึ่งล่าสุดคือไปเที่ยวที่ จ.บุรีรัมย์ด้วยกัน ก่อนจะย้ำว่าไม่มีท่าทีใดให้เห็นเลยว่าภรรยาเปลี่ยนไป
ส่วนตัวยอมรับว่า เพิ่งมาทราบวันที่พี่ชายและทางบ้าน นายเจสซี่มาเคาะประตูหน้าบ้าน และเล่าความจริง ทำให้ความแตกวันนั้น แต่คืนนั้น ภรรยาของตัวเอง คือ น.ส.กานต์ กับ นายเจสซี่ออกจากบ้านไปตั้งแต่ 03.00 น. ซึ่งไม่รู้ว่าออกไปด้วยกัน เพราะหลับอยู่ เพิ่งมาเห็นในวงจรปิด
นายเบียร์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุ ยอมรับว่าอยากได้ครอบครัวคืน อยากได้ลูก อยากได้เมียกลับคืนมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิม ซึ่งตอนแรกๆยังรักและพร้อมให้อภัย จะไม่ได้ถามเรื่องเก่าๆ เช่นว่า มีอะไรกันหรือไม่ ความสัมพันธ์เป็นอย่างไร อีกทั้งขอยืนยันว่าส่วนตัวไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ภรรยากับนายเจสซี่เลย เพราะคงไม่มีใครอยากใช้ภรรยาร่วมกับใคร
ขณะที่หลังจากนี้ หากภรรยาเลิกกับนายเจสซี่แล้ว จะกลับมาเป็นครอบครัวหรือไม่นั้น เรื่องนี้ให้เป็นเรื่องของอนาคต เพราะเขาก็ยังเป็นแม่ของลูกของด้วย ขณะเดียวกัน เท่าที่ทราบตอนนี้ทั้ง 3 คนไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว เพราะนายเจสซี่กลับมาไปอยู่กับพ่อเขาแล้ว ส่วนลูกสาวคือน.ส.พิมพ์ อยู่กับแม่คือน.ส.กานต์
สำหรับกรณีที่ตัวเองไปยืมเงินเจสซี่ 350,000 บาท นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะความจริงตัวเองยืมเพียง 20,000 บาทแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และมีหลักฐานการคืนไปแล้ว
แต่ตัวเองมาทราบภายหลังว่า ลูกสาวไปอ้างกับนายเจสซี่ว่า พ่อเดือดร้อนเรื่องเงินแต่เอาเงินมาเก็บไว้กับตัวเอง มีการโอนเข้ามาบัญชีตนบ้าง ยอด 5,000 บ้าง 10,000 บ้าง เป็นการช่วยเหลือ แต่ไม่รู้ว่านายเจสซี่ขโมยมาจากพ่อ
ทั้งนี้ หากมีหลักฐานว่าตัวเองเอาเงิน 900,000 บาท ก็พร้อมชดใช้ เพราะส่วนตัวไม่ทราบว่าลูกสาวเอาเงินเขามาเท่าไหร่ แต่หากมีหลักฐานค่อยว่ากันทำตามกระบวนการ
ช่วงท้ายนายเบียร์ ฝากถึงลูกสาวและภรรยา ว่า ให้ออกมายอมรับความจริง ผิดก็ว่าไปตามผิด ขณะเดียวกันตัวเองก็ผิดที่ไม่ได้อบรมสั่งสอนลูกสาว ว่า อย่าไปอยากได้ของคนอื่น มีส่วนผิดในฐานะพ่อที่ไม่ได้สั่งสอน