มาถึงเข้าเรือนจำที่กทม. ไม่ส่งลงใต้ ยืนยันคุ้มครองไม่พลาดถูกฆ่าตัดตอน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขา ปปส. พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังประเทศอินโดนีเซีย เพื่อประสานงานขอรับตัว "แป้ง นาโหนด" หรือนายชวลิต กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย

พ.ต.อ.ทวี กล่าวก่อนเดินทางถึงความชัดเจนในการนำตัว "แป้ง นาโหนด " กลับมาว่า นายกรัฐมนตรี ได้ประสานกับกองทัพอากาศ ในการนำตัว แป้ง นาโหนดกลับมา โดยจะใช้เครื่องบินแอร์บัส ของกองทัพอากาศ ซึ่งทางการอินโดนีเซีย ให้ไปรับได้ตั้งแต่พรุ่งนี้ ( 2 มิ.ย.) แต่เนื่องจากเรื่องธุรการ รวมถึงเส้นทางการบินต้องขออนุญาตประเทศที่ผ่านทาง ทำให้ได้เวลาเหมาะสมว่าจะไปรับตัวกลับมาได้ในวันอังคาร ที่ 4 มิ.ย. ซึ่งทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการประสานงานโดยตรงกับผบ.ตร.อินโดนีเซีย จึงได้ให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รักษาการรองผบ.ตร. เดินทางไปด้วย แต่ประเทศไทยมีกฎหมาย พรบ.อุ้มหาย ดังนั้นการจับกุมตัว จึงต้องมีการบันทึกวีดีโอทุกขั้นตอนในการจับกุมก่อนเข้าประเทศไทย ซึ่งจะมีการบันทึกตั้งแต่อินโดนีเซีย

อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปในวันนี้ เป็นการไปประสานงานภายในเพิ่มเติม ในด้านเอกสารต่างๆ จากนั้นก็จะประชุมความร่วมมือกัน ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อประสานงานเรื่องการหาข้อมูลของการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จึงมี ปปส. เดินทางไปด้วย รวมถึงเป็นการไปขอบคุณทางการอินโดนีเซีย ที่ได้ให้การสนับสนุน ทั้งตำรวจอินโดนีเซีย ตำรวจท้องถิ่นเกาะเมดาน เกาะบาหลี ซึ่งได้ทุ่มเททำงานในการจับกุมครั้งนี้ และจะพาตำรวจดังกล่าวมาพบทางการไทยด้วย

ส่วนการส่งตัวกลับมา พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่เป็นความร่วมมือต่างตอบแทน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่มีการส่งตัวกลับ เพราะทางการไทยได้ร้องขอให้จับกุมคนร้ายคนสำคัญ และอินโดนีเซียก็มีความสัมพันธ์อันดีกับไทย เพราะไทยเคยส่งผู้ต้องหาค้ายาไปให้อินโดนีเซียกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ดังนั้นเมื่อ "แป้ง นาโหนด" คนเป็นคนร้ายรายสำคัญของไทย แต่ไม่มีคดีในอินโดนีเซีย การส่งตัวกลับครั้งนี้ จึงเป็นการผลักดันออกนอกประเทศ และการนำตัวกลับมา โดยเกิดจากการร่วมมือกันของอินเตอร์โพล

ทั้งนี้ยืนยันว่า การจับกุม "แป้ง นาโหนด" เกิดจากการมีหมายแดงอยู่แล้ว ส่วนวิธีสืบสวนเป็นเรื่องการติดตามตัว ที่สืบมานานแล้ว และตำรวจได้เกาะติดมานาน ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นการทะเลาะเบาะแว้งกับสาวในอินโดนีเซีย เพราะการทะเลาะเบาะแว้งไม่จำเป็นต้องมีหมายจับ และครั้งนี้ต้องให้เครดิตทางการอินโดนีเซียในการติดตามตัวมาให้

สำหรับกระแสข่าวที่มีข้อมูลว่า "แป้ง นาโหนด" เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาตินั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ทางการอินโดนีเซีย ตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่า ไม่มีการกระทำความผิดในประเด็นนี้ ส่วนในอนาคตหากพบว่า กระทำความผิดและเกี่ยวข้องการยาเสพติดข้ามชาติจริง ก็จะมีหมายจับตามมา ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย และอาจจะส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่อินโดนีเซีย

ขณะที่ขั้นตอนนำตัวกลับมาถึงประเทศไทย เมื่อมาถึงจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาในคดีที่ยังสอบสวนอยู่ ทั้งคดีหมายจับจังหวัดพัทลุง 3 หมาย หมายจับนครศรีธรรมราช 1 หมาย รวม 4 หมายจับ ทั้งคดีพยายามฆ่า หนีที่คุมขัง และอาวุธปืน และจากนั้นกรมราชทัณฑ์ จะควบคุมตัวไว้ตามคดีที่ถูกตัดสินถึงที่สุดให้จำคุกตลอดชีวิต ในคดีการปล้นทรัพย์ เรื่องการขัดแย้งยาเสพติด

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า แม้ในทางปฏิบัติจะต้องเอาไปคุมตัวที่เกิดเหตุ แต่ในปัจจุบันใช้ช่องทางกระบวนการผ่านทางออนไลน์ได้ ก็สามารถคุมขังที่กรุงเทพได้ ทำให้ยืนยันว่า จะเอาตัว แป้งนาโหนด ไว้ในเรือนจำความมั่นคงสูงที่กรุงเทพมหานคร เพื่อไม่ให้หลบหนี และไม่ไปก่อเหตุซ้ำ

ส่วนกรณีความกังวลใจของครอบครัว รวมถึง แป้งนาโหนด ที่กังวลว่าจะได้รับอันตราย หรือถูกฆ่าตัดตอน หากกลับเข้าเรือนจำอีกครั้งนั้น เพราะอาจจะไปเกี่ยวข้องกับการเปิดโปงการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะกระทรวงยุติธรรม และนายกรัฐมนตรี ต้องการให้มีสอบสวนเรื่องที่แป้งเคยพูดในคลิปเปิดใจ หากเป็นเรื่องจริงก็ดำเนินการกับคนที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นรัฐบาลต้องคุ้มครองไม่ให้แป้งเสียชีวิตแน่นอน

ด้าน พล.ต.ท.ประจวบ บอกด้วยว่า ขั้นตอนของอินโดนีเซียขณะนี้ ทางการอินโดนีเซีย ได้ทำหนังสือไปตม. และทำเรื่องเนรเทศ แจ้งไปยังสถานทูตไทย เพื่อให้ทำหนังสือปล่อยตัว แล้วทางการไทยจึงจะรับตัวมาได้และเมื่อได้ตัวมาแล้ว จะแจ้งไปยังพนักงาตสอบสวนทั้ง 2 จังหวัด เพื่อให้มาร่วมสอบปากคำตามข้อหาของหมายจับในพื้นที่ รวมถึงตำรวจจะต้องมีการสอบปากคำเรื่องเส้นทางการหลบหนีทางทะเล ขบวนการช่วยเหลือ การให้ที่พักพิงทั้งในไทยและในอินโดนีเซีย ซึ่งจะสอบปากคำทั้งหมด รวมทั้งประเด็นตำรวจหญิงญาติของแป้ง ที่มีความใกล้ชิดกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ด้วยว่า เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือให้หลบหนีในครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งรายละเอียดจะปรากฎทั้งหมดหลังการสอบปากคำ