จากกรณีที่ชายผู้หนึ่งอาศัยอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่งใช้ลำโพงประกาศเกี่ยวกับเรื่อง ทางการเมืองที่ไม่ชอบใจการเมืองยุค 2535 และมีการด่านักการเมืองและโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งซึ่งเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณตีสอง
เท่านี้ไม่พอยังพบว่าในตอนเช้าเวลาประมาณ 7 โมงเช้าชายรายนี้ก็ประกาศผ่านลำโพงอีกครั้งหนึ่งลองฟังเสียงประกาศดูว่าหากเป็นคุณผู้ชมจะทำอย่างไรถ้าหากต้องทนอยู่กับลักษณะแบบนี้
นอกจากนี้ยังพบว่าชายรายนี้ยังเปิดลำโพงด่าในลักษณะเดียวกันทั้งสามเวลาเช้า กลางวัน ดึก โดยชาวบ้านสุดทนเพราะต้องทนกับเสียงการประกาศแบบนี้มายาวนานนับ 10 ปี จึงไปร้องเรียนที่ เพจสายไหมต้องรอด
วันนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข , จนท.ตำรวจ สน.บางนา , จนท.สำนักงานเขตบางนา ,แพทย์จาก รพ.สมเด็จเจ้าพระยา ฯลฯ เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบกรณีมีชาวบ้านร้องเรียนผ่านเพจสายไหมต้องรอด ว่ามีชายคล้ายสติไม่ดี เปิดเสียงลำโพงดังรบกวนชาวบ้านในชุมชน ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตของชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างมาก
ที่ผ่านมา ชาวบ้านเคยรวมตัวไปแจ้งมาแล้วทุกหน่วยงานแต่ไม่มีใครช่วยเหลือได้ รอบนี้จึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ขอให้ช่วยนำตัวชายคนดังกล่าวไปรักษา
หลังจากนั้นนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ได้เดินทางขึ้นไปยังห้องพักของชายรายดังกล่าวทราบชื่อคือ นายแป๊ะ โดย ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ได้ขออาสาเป็นคนพูดคุยเจรจาเป็นคนแรก ซึ่งก็ได้การทักทายจากนายแป๊ะว่า “มีปัญหาอะไร นายแป๊ะตอบกลับว่า ร.ต.ธนกฤต คือใคร และถ้าหากจะคุยด้วยต้องจ่ายเงินมา 10 ล้านบาท ซึ่งก็ได้พยายามต่อรอง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะนายแป๊ะ ได้เปิดเครื่องขยายเสียงดังลั่นห้อง และได้ปิดประตูใส่หน้า
ผู้สื่อข่าวพยายามจับใจความเครื่องขยายเสียงที่นายแป๊ะนั้นเปิดดังลั่นตึกโดยบางส่วนมีใจความว่า
“ไอ้เฮีย เจษฎา อดีตตำแหน่ง ผู้อำนวยการตูดใหญ่ใจเจ๋งนก โรงไฟฟ้าบางปะกง พร้อมด้วยสมภพลูกน้องนายเจษฎา” ซึ่งก็เปิดข้อความนี้วนไปนับ 10 รอบ
โดยประตูหน้าห้องของนายแป๊ะก็มีข้อความเขียนไว้ว่า “@C2sex ฉันผู้ขับไล่รัฐบาล 2535” และอีกหนึ่งข้อความระบุว่า ”วันนี้ ปีที่ 8 2551 ข้าราชการกวนเมือง ไม่ถูกกับนิตินิรันดร์ 9 “ และที่ประตูก็มีหนังสือพิมพ์แปะอยู่พร้อมกับภาพวาดหัวกะโหลกไขว้สีแดง
ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่าหลังจากที่ไปพูดคุยกับนายแป๊ะ เบื้องต้นจากการพูดคุยกับลุงแป๊ะยังไม่ยอมพูดคุยด้วย ซึ่งจากการได้รับเรื่องร้องเรียน และการที่ตนลงพื้นที่มาดูด้วยตนเองวันนี้ ทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา ในการขอหมายศาล เพื่อควบคุมตัวลุงแป๊ะไปรักษา
ด้านนายรักสกุล เมฆกุลวิโรจน์ จิตแพทย์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการพูดคุย ลุงแป๊ะสามารถตอบโต้ได้รู้เรื่อง แต่ยังไม่ยอมออกมาเจรจาโดยดี ซึ่งลุงแป๊ะจะเป็นผู้ป่วยหรือไม่นั้น ต้องรอนำตัวไปตรวจกับทางแพทย์ก่อน
หลังจากใช้เวลาผ่านไปกว่า 4 ชั่วโมงพบว่าการเจรจาของทีมสายไหมต้องรอดกับลุงแป๊ะลำโพงดัง เป็นผลสำเร็จโดยลุงแป๊ะยินยอมที่จะไปหาหมอด้วย
โดยระหว่างที่ลงมานั้นลุงแป๊ะลำโพงดังสวมเสื้อโค้ทหนังสีดำกางเกงกางเกงขายาว ไว้ทรงผมแมนจู ผสมฮาร์ดร็อคผมยาวหยิกลักษณะคล้าย ศิลปิน
ระหว่างทางเดินลงบันไดลงมานั้น เจ้าหน้าที่ชุดสายสืบได้มีการค้นตัว และกระเป๋าก่อน เดินลงมาจนถึงชั้นล่าง เมื่อลงมาถึงลุงแป๊ะลำโพงดังมีท่าทางคล้ายกับคนเพิ่งตื่นนอนและถามว่าจะมีฉีดยาไหม เพราะกลัวการฉีดยา ทาง นายเอกภพก็บอกว่าไม่มีการฉีดยาแน่นอน และเมื่อ เห็นผู้สื่อข่าวก็ถามว่ามาทำอะไรกัน จากนั้นก็เดินขึ้นรถรถตู้ ออกไปพบแพทย์
หลังจากที่มีการเจรจาและนำตัวลุงแป๊ะลำโพงดัง ชายที่เปิดลำโพงเสียงดังตลอดทั้งวัน รบกวนชาวบ้านซอยอุดมสุข หลังจากที่ลุงแป๊ะยอมกับทีมสายไหมต้องรอดเพื่อที่จะไปหาหมอทำการรักษาและขอใบรับรองแพทย์
ปรากฏว่าระหว่างเดินทางทีมงานสายไหมต้องรอดตรวจ ค้นกระเป๋าของลุงแป๊ะลำโพงดังพบว่าภายในมีอาวุธปืน ขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนปืนขนาดเก้ามม.กว่า 300 นัด และกระสุนปืนลูกซองอีก 100 นัด
ทำให้ตอนนี้ลุงแป๊ะลำโพงดังจากเดิมที่ต้องไปพบแพทย์ก็ต้องอยู่กับตำรวจก่อนเพื่อตรวจสอบเรื่องอาวุธปืนได้มาถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่และการพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย
ทีมข่าวพูดคุยกับลุงแป๊ะลำโพงดังแบบเปิดใจในห้องสืบสวนสน. บางนาโดยลุงแป๊ะบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีคนกลั่นแกล้งชื่อนายเอกทำงานอยู่โรงไฟฟ้าบางปะกงคอยกลั่นแกล้งให้เป็นข่าวซึ่งการสัมภาษณ์ครั้งนี้เป็นการสัมภาษณ์ไปหัวเราะไปเพราะลุงแป๊ะดังค่อนข้างเป็นคนตลกเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าไปนำลำโพงมาจากที่ใดเจ้าตัวตอบว่า ซื้อมาจากคลองถมในราคา 800 บาทซึ่งลำโพงในราคาเท่านี้จะเสียงดังมากตามที่ชาวบ้านร้องเรียนได้อย่างไร
และจากนี้ก็จะกลับไปพักที่คอนโดเหมือนเดิมเพราะ ประกาศขายแล้วแต่ยังขายไม่ได้จะขายในราคา 300,000 บาทถ้ามีคนซื้อก็จะไปไม่อยู่ตรงนี้
เมื่อถามย้ำเรื่องลำโพงเสียงดังลุงแป๊ะเริ่มมีท่าทางไม่ค่อยพอใจและบอกว่า เสียงไม่ได้ดังคนที่บอกว่าเสียงดังคือคนที่เปิด หน้าต่างนอนก็จะได้ยินแต่คน ส่วนใหญ่ก็ปิดหน้าต่างเพราะเปิดแอร์แทบทุกห้องแล้วถามว่าจะได้ยินเสียงได้อย่างไร
ส่วนอาวุธปืนและกระสุนจำนวนมากนั้นลุงแป๊ะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ขอตอบคำถามว่าทำไมต้องพกหรือมีอาวุธปืนนี้ติดตัวและนำมาจากที่ใด โดยย้อนนักข่าวว่าจะถามไปทำไมของใช้ส่วนตัว
ทีมข่าวแอบแซวลุงแป๊ะว่าหน้าคล้ายกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยคือคุณ ชาดา ไทยเศรษฐ ลุงแป๊ะตอบว่าไม่อยากเหมือนรัฐมนตรีแต่อยากเป็นนายกรัฐมนตรีพอจบประโยคนี้ก็ส่งเสียงหัวเราะกันทั้งตำรวจและนักข่าว
ก่อนจะจบลุงแป๊ะลำโพงดังยังให้พรและทำท่าคล้ายพรมน้ำมนต์และพูดว่า อยู่เย็นเป็นสุขนะลูกนะ แล้วก็ดื่มน้ำตอนนักข่าวและช่างภาพทุกคนก็กลัวว่าลุงแป๊ะจะพ่นน้ำออกมาเปรียบเหมือนน้ำมนต์ต่างรีบพากันออกจากห้องสืบสวนทันที