จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.ทองสุข โปร่งทะเล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุใช้อาวุธมีดฟันและแทงกัน มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ที่บริเวณศาลาริมทาง ปากทางเข้าหมู่บ้านคูขาดน้อย ต.ท่าโพธ์ชัย อ.หนองกี่ บนถนนสายโชคชัย-เดชอุดม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน

แต่เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพียงรอยเลือดหยดตามพื้นถนน ส่วนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ญาติและชาวบ้านได้นำส่งโรงพยาบาลแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปยังโรงพยาบาล เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อไปถึงทราบชื่อผู้ที่ถูกแทงเสียชีวิตคือ นายสรศักดิ์ หรือ หน่อง อายุ 33 ปี เป็นลูกชายของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านคูขาดน้อย โดนมีดแทงตัดขั้วหัวใจ 1 แผล ส่วนผู้บาดเจ็บ คือ นายวุฒิชัย หรือ ออฟ อายุ 32 ปี มีแผลถูกมีดฟันที่ใบหน้าข้างขวา

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองกี่ สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว คือ นายอนิรุต หรือ รุต อายุ 34 ปี ขณะที่นายอนิรุตกำลังเดินทางหลบหนี โดยหลังจากเกิดเหตุนั้นนายอนิรุต เดินหลบไปจากจุดเกิดเหตุกว่า 2 กิโลเมตร จากนั้นโบกรถซาเล้งของชาวบ้าน เข้ามาตัวอำเภอหนองกี่ ซึ่งมาทราบว่ารถซาเล้งคันนั้น คือรถของนายสมพิศ พ่อของนายสรศักดิ์ ผู้เสียชีวิต ที่กำลังมุ่งหน้าไปหานายสรศักดิ์ที่โรงพยาบาล

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสารเสพติด พบว่า ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งและสภาพจิตใจเป็นปกติ และตรวจสอบกระเป๋าสะพาย 2 ใบของผู้ก่อเหตุ พบขวดน้ำจิ้ม 1 ขวด ซองยาเส้น 1 ห่อ มีดปลายแหลมเล็ก 1 เล่ม แต่ไม่พบมีที่ใช้ก่อเหตุและมีเหล็กแหลม 1 อัน

แต่จากการสอบปากคำ กลับพูดจาไม่รู้เรื่องคล้ายคนสติไม่ดี บอกว่า ตนเองเป็นคน จ.ชลบุรี แต่ไปทำงานที่ศรีสะเกษ เป็นช่างเชื่อมอิสระจะมาหางานทำในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่เมื่อถามว่าทำไมถึงก่อเหตุแทงคนตาย กลับอ้างว่าไม่ได้ฟันหรือแทงใครและจะสู้คดีในชั้นศาล พอถามว่าเสพยาหรือไม่ ก็บอกว่าไม่ได้เสพ แล้วถามว่าปกติหรือเปล่า ก็บอกว่า ปกติดีไม่ได้บ้า

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะ” ไม่ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน และเตรียมฝากขังที่ศาลจังหวัดนางรองในวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.)

ล่าสุด (4 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพวงจรปิดหลังก่อเหตุ โดยมุมที่ 1 เวลา 19.27 น. ขณะที่นายสมพิศ (พ่อ) นายมีชัย (พี่เขย) ของนายสรศักดิ์ ผู้ตาย ขี่รถซาเล้งโดยมีนายอนิรุต ผู้ก่อเหตุ ที่โบกรถแถวจุดเกิดเหตุติดรถมาด้วย (ขณะนั้นพ่อและพี่เขยไม่ทราบนายอนิรุต เป็นคนร้าย คิดว่าคือชาวบ้านที่โบกรถข้างทางเฉย ๆ) ขี่ผ่านบริเวณ ด่านช่างน้ำหนักรถบรรทุก ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กม.

ภาพวงจรปิดมุมที่ 2 เวลา 19.33 น. ขณะที่นายสมพิศและนายมีชัยขี่รถซาเล้งผ่าน บริเวณหน้าโรงสีแห่งหนึ่งเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลหนองกี่ ขณะที่นายอนิรุต ลงจากรถเรียบร้อยแล้ว และภาพวงจรปิดมุมที่ 3 เวลา 19.37 น. หลังจากที่พ่อและพี่เขยของผู้ตาย ส่งนายอนิรุตลงจากรถบริเวณจุดยูเทิร์น และนายอนิรุตเดินข้ามถนนมา เพื่อมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอหนองกี่ ก่อนที่นายอนิรุตจะเดินย้อนกลับมา

จากนั้นภาพวงจรปิดมุมที่ 4 เวลา 20.12 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบตัวนายอนิรุต และนำกำลังเข้าจับกุม และภาพวงจรปิดมุมที่ 5 เวลา 20.14 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขี่รถผ่านบริเวณหน้าโรงสีแห่งหนึ่ง เพื่อนำตัวนายอนิรุตกลับไปยัง สภ.หนองกี่

โดยทางทีมข่าวช่อง 8 ได้สอบถามไปยัง นายมีชัย พี่เขยของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากนายอนิรุตก่อเหตุเรียบร้อยแล้ว ก็เดินข้ามถนนมาอีกฝั่ง ก่อนเดินหลบหนีมาเรื่อย ๆ ระยะทางเกือบ 2 กม. ประจวบกับตนและนายสมพิศ พ่อของนายสรศักดิ์ กำลังไปหานายสรศักดิ์ ผู้เสียชีวิต ที่โรงพยาบาลหนองกี่ โดยขณะนั้นนายอนิรุตอ้างว่าเป็นคนตกงานกำลังจะหารถกลับบ้านไปโคราช จึงอ้อนวอนขอความช่วยเหลือขอติดรถไปด้วย ขณะนั้นทางด้านนายสมพิศจึงถามไปด้วยความไม่ได้คิดอะไรว่า “มึงใช่คนที่แทงลูกกูหรือเปล่า” แต่นายอนิรุตตอบว่าไม่ใช่ เขาเพียงแค่ตกงานกำลังจะกลับบ้านเท่านั้น

หลังจากนั้นนายสมพิศและนายมีชัยจึงให้นายอนิรุตติดรถมาด้วย ขี่ออกมาได้ประมาณเกือบ 3 กิโลเมตร จึงให้นายอนิรุตลงจากรถบริเวณจุดยูเทิร์น เพราะเป็นทางแยกที่ตนต้องมุ่งหน้าไปทางโรงพยาบาลหนองกี่ นายอนุรุตก็ลงจากรถ หลังจากนั้นก็เดินไปเรื่อย ๆ ซึ่งตนก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเดินไปไหน ตลอดระยะเวลาที่นั่งรถด้วยกันมานั้นนายอนิรุตไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้มีท่าทีมีพิรุธแต่อย่างใด โดยตามเนื้อตัวตนก็ไม่ได้เห็นคราบเลือด อาจเป็นเพราะตนไม่ได้สังเกตให้ชัดเจน และมาทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากจับกุมตัวได้ ว่าคนที่ตนให้ติดรถซาเล้งมาด้วยนั้นคือคนเดียวกันที่ฆ่าน้องชายของตนเอง ตนเสียใจเป็นอย่างมากยอมรับว่าช็อกและทำอะไรไม่ถูก ขณะนั้นไม่ทราบเลย ถ้าเกิดทราบก็อาจจะมีการใช้กำลังบ้าง เพราะน้องชายนั้นเป็นคนดีมาก ๆ ช่วยเหลือครอบครัวมาตลอด ไม่เคยมีเรื่องกับใคร

นอกจากนี้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมกันประกอบพิธี ประจำพื้นบ้านอีสาน คือ พิธีช้อนเรียกขวัญวิญญาณ บริเวณจุดเกิดเหตุปากทางเข้าหมู่บ้าน เชื่อว่าเป็นพิธีประกอบเพื่อให้ดวงวิญญาณของนายสรศักดิ์ ผู้เสียชีวิต นั้นกลับมายังบ้านเกิด ไม่เป็นวิญญาณเร่ร่อน โดยให้คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านคอยเรียกชื่อนายสรศักดิ์ และใช้สวิงคอยช้อนตามประเพณี

ด้านนายวุฒิชัย คนเจ็บมีแผลถูกมีดฟันที่ใบหน้าข้างขวา เปิดเผยกับทางทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนกับผู้เสียชีวิตเพิ่งเสร็จจากทำงานรับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัส กำลังจะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านแต่ระหว่างที่ขับกลับบ้านมาถึงศาลาริมทางบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน ได้มีชายอายุประมาณ 30-40 ปี ซึ่งตนกับเพื่อนก็ไม่รู้จักว่าเป็นใคร ยืนกวักมือเรียกให้จอดรถก็คิดว่าเขามีเรื่องขอความช่วยเหลืออะไร ด้วยความหวังดีนายสรศักดิ์ คนขับก็จอดรถ แล้วตนซึ่งซ้อนท้ายก็เดินเข้าไปถามว่ามีอะไรให้ช่วย แต่เขาก็ไม่พูดอะไรกลับใช้มีดฟันเข้าที่หน้าข้างขวาตน 1 ที จากนั้นนายสรศักดิ์เห็นท่าไม่ดีจึงลงจากรถหวังจะเข้ามาช่วยตน แต่กลับถูกผู้ก่อเหตุใช้มีดเล่มเดียวกันแทงตัดขั้วหัวใจ 1 ครั้ง

จากนั้นวิ่งไปขอความช่วยเหลือเกือบ 400 เมตร ตนก็วิ่งตาม ก่อนนายสรศักดิ์จะล้มฟุบกับพื้นและเสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุก็ถือมีดเปื้อนเลือดเดินหนีไป จากนั้นตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ในสภาพเลือดท่วมหน้าไปตามชาวบ้านมาช่วย ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน เมื่อมาทราบสาเหตุว่านายอนิรุตนั้นต้องการชิงทรัพย์ ตนโกรธแค้นเป็นอย่างมากที่ต้องทำถึงขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ตนและนายสรศักดิ์ก็ไม่เคยมีปัญหากับนายอนิรุตมาก่อน ทั้งยังจอดช่วยเหลือด้วยความหวังดี

ตนรู้สึกขอบคุณนายสรศักดิ์เป็นอย่างมาก ที่ยอมเสียสละชีวิตเพื่อที่จะปกป้องและช่วยตนเอง ตนกับนายสรศักดิ์นั้นสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก มีอะไรก็ช่วยเหลือกันมาโดยตลอด วันนี้เพื่อนรักต้องมาเสียชีวิตตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และจะอยู่ช่วยเหลืองานศพจนวาระสุดท้าย ตนไม่อยากโกรธแค้นนายอนิรุต อยากอโหสิกรรมให้ เพราะไม่อยากมีอะไรติดค้างกัน แต่ก็คงต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง เบื้องต้นนั้นตนได้ทำการรักษาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเย็บไปกว่า 13 เข็ม หลังจากนี้ก็คงต้องรอติดตามอาการต่อไป