เจ้าของร้านชำสุดทน! โจรลักของ 6 ครั้ง คดีไม่คืบ สูญเงินนับล้าน ตร.ยังจับไม่ได้ ชาวบ้านอยู่อย่างผวา

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง ได้รับแจ้งจาก นางสาวอำพร อายุ 60 ปี หรือ "ป้าพร" ชาว ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง เจ้าร้านพาเคียงการเกษตร ระบายความคับแค้นใจหลังจาก ร้านค้าถูกคนร้ายงัดเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ถึง 6 ครั้ง ในรอบ 2 เดือน โดยครั้งแรกคนร้ายเข้ามางัดตู้น้ำมันหยอดเหรียญ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 67 ที่ผ่านมา ก่อเข้ามาขโมยซ้ำอีก 2 รอบ ถัดมาอีกครึ่งเดือนคนร้ายงัดหน้าต่างร้านค้าที่อยู่ติดกัน เข้าไปเจาะตู้เซฟในห้องนอน ที่ใส่ สร้อยทอง เพชร พระเลี่ยมทอง มูลค่านับล้านบาทหายไป แล้วถัดมาไม่กี่วัน ก็เข้าขโมยคอมพิวเตอร์ และถอดเซฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปอีก และล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 4 มิถุนายน 2567 คนร้ายปืนต้นไม้รื้อหลังคาตู้น้ำมันหยอดเหรียญ อีกครั้ง พร้อมงัดเอาเงินในตู้ไปอีก พร้อมทั้งปัดกล้องวงจรปิดที่จับภาพไว้ได้บางช่วงบางตอน ในขณะที่คนร้ายเข้ามางัดตู้น้ำมันหยอดเหรียญ

โดย ป้าพร กล่าวด้วยน้ำตาว่า คับแค้นใจจนบอกไม่ถูกหมดแรงแล้ว ค้าขายไปกำไรก็ได้โจรหมด โดยทุกครั้งที่เกิดเหตุ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ตรวจสอบทุกครั้ง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ลงมาเก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ ของคนร้าย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ นี่หวังว่าหาก โจรเข้าขโมยครบ 10 ครั้งก็คงหมดตัวและคงต้องปิดร้านถาวร เพราะทุกอย่างได้โจรไปหมดแล้ว ทองคำ เพชร ที่ซื้อสะสมไว้ในตู้เซฟโจรยังถูกเจาะเอาไปได้ ติดตั้งกล้องวงจรปิด 16 ตัว ทั้งภายในภายนอกทุกมุม ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้ ทุกอย่างหมดหวัง เพราะลำพังทุกวันนี้จะเพิ่งเจ้าหน้าที่กฎหมายบ้านเมืองมันแสนยาก สุดท้ายอยากวอนตำรวจ ไม่อยากวอนคุณโจร เร่งช่วยจับคนร้ายรายนี้ชักทีเถอะ ทุกวันไม่ใช่เดือดร้อนเฉพาะร้านตนเอง ชาวบ้านในหมู่บ้านทุกคนต้องอยู่กันหวาดระแวงกับการอาละวาดของโจรรายนี้

ขณะที่กล้องวงจรปิดที่จับภาพได้ตอนคนร้ายเข้าไปงัดตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ช่วงเวลา 01.58 น. ของวันที่ 4 มิถุนายน 67 ก่อนคนร้ายเห็นกล้องแล้วไปกดให้กล้องลดหน้าจอลงต่ำไม่สามารถจับภาพได้ โดยภาพคนร้าย เป็นชายวัย 20-30 ปี สูงไม่เกิน 170 ซม. สวมหมวกไหมพรหม ปิดบังใบหน้าก่อนสวมหมวกแค๊ปปิดซ้ำอีกครั้ง

ขณะเดียวกันในคืนเกิดเหตุดังกล่าว คนร้ายคนดังกล่าวยังเข้างัดร้านค้าอีกร้านหนึ่ง ซึ่งห่างจากร้านแรก 1 กิโลเมตร โดยเป็นร้านของป้าหมาย นางจำลอง อายุ 63 ปี เลขที่ 31 ม.4 ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง เช่นกัน โดย ป้าหมาย เล่าว่า ช่วงเวลา 03.28 น. ของคืนวันที่ 4 มิถุนายน 67 คนร้ายสวมหมวกไหมพรหม ใสทับด้วยหมวกแค๊ป โดยเป็นรายเดียวกับร้านแรก ได้เข้ามาตัดเหล็กตาข่ายของร้าน ด้านติดถนน จังหวะตัดเสียงดังแป็ก ทำให้ลูกชายรู้สึกตัว และดูกล้องในโทรศัพท์มือ พบคนร้ายกำลังตัดเหล็กเพื่อเข้ามาขโมยของในร้านขายของช้ำ เมื่อลูกชายเห็นจากกล้อง ก็จะโกนด่าแม่ ทำให้คนร้ายตกใจวิ่งหนี ก่อนขับรถหลบหนีไป โดยฟังเสียงแล้ว น่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ยีห้อฟีโน่

ป้าหมาย ยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ 15 วันที่ผ่านมา คนร้ายได้เข้ามางัดร้านขโมยเงินสดไป3000 กว่าบาท โดยตัดเหล็กเข้ามา แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ โดยเข้ามาเก็บลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ทราบผลว่าเป็นใคร จนเข้ามาขโมยเป็นครั้งที่ 2 อีก ป้าหมาย รู้สึกกังวล กับปัญหาการลักขโมย ที่เกิดขึ้นถี่ยิบและทุกวันในละแวกใกล้เคียง วันนี้ชาวบ้านนอนหลับไม่สนิท เพราะต้องเฝ้าระวังตนเอง อยากวอนทางตำรวจช่วยเข้มงวด หรือจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะเดือดร้อนกันทั่วหน้าแล้วในตอนนี้