จากกรณีการเสียชีวิตของน้องไบรอั้นเด็กทารก เพศชาย วัย 2 เดือน ที่ถูกนายนิพนธ์ และ น.ส.เฟย ภรรยาสาววัย 19 ปี เป็นพ่อและแม่ของเด็ก ถูกนำมาขุดหลุมดินฝังไว้ ที่บริเวณเชิงเขากบ เขตเทศบาลนครนครสวรรค์

 

ทีมข่าวช่อง8 ได้กล้องวงจรปิด วินาทีที่พ่อแม่น้องไบรอั้นนำศพไปฝั่งที่ทางลงเขากบ โดยกล้องบันทักภาพ ทั้งสองคนเดินมาตามถนน

 

โดยนางสาวเฟยแม่ของน้องไบรอั้น เป็นคนสะพายกระเป๋า ผ้าโดยภายใน มีร่างของน้องไบรอั้น อยู่ภายซึ่งจากการสังเกตจากกล้องวงจรปิดทั้งคู่ยังมีการเดินกอดคอ จูงมือ และแสดงความรักต่อกันไม่ได้มีท่าทีสลดหรือเสียใจกับการเสียชีวิตของลูก

 

เมื่อเดินไปสักพักก็มีการสลับเป็น นายเบี้ยวพ่อของน้องไบรอั้น เป็นคนถือกระเป๋าศพลูกตัวเองแทนเมีย

 

จากนั้นทั้งคู่ก็เดินผ่านทางโค้งและ ข้ามเข้าไปยังป่าทางลงเขากบซึ่งจุดนี้กล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกภาพได้

ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการฝังศพ

ก็พบว่าสองสามีภรรยาเดินออกมาจากจุดที่ฝังศพด้วยท่าทางปกติไม่มีความตื่นตัวหรือสำนึกผิด ร้องไห้ ทำทุกอย่างเหมือนเหตุการณ์ปกติและเดินกลับ หอพัก

 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบจากชุดสืบสวนพบว่าภาพวงจรปิดที่จับได้นั้นเหตุเกิดเวลาประมาณ 18:20 น. ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ไม่ใช่ วันที่ 24 พฤษภาคมตามคำกล่าวอ้างของนายเบี้ยวและนางสาวเฟ่ย สองสามีภรรยา ให้การกับพนักงานสอบสวนโดยอ้างว่าเหตุเกิดวันที่ 24 พฤษภาคมซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้เห็นชัดเจนโดยคาดการณ์ว่าเด็กชายไบรอั้น น่าจะเสียชีวิตตั้งแต่คืนวันที่ 22 พฤษภาคม และ ถูกปล่อยทิ้งไว้ในห้องจนถึงเย็นวันที่ 23 พฤษภาคมพ่อแม่จึงนำมาฝังศพทิ้งไว้ที่ทางลงเขากบ จนกระทั่งมาพบศพและ รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากเพื่อนเค้นถาม สองสามีภรรยาจึงรู้ว่าเด็กเสียชีวิต และ ถูกนำมาฝัง

 

ต่อมาทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิดวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 เวลา 19:46 จะเห็นนายนิพนธ์ และนางสาวารุณี ผู้ต้องหา ตามคำให้การของผู้ก่อเหตุบอกว่าหลังเอาลูกชายไปฝังก็กลับมาอยู่ห้องตามปกติ พฤติกรรมแค่หลังเกิดเหตุทั้งคู่ยังใช้ชีวิตตามปกติ คุยกันเล่นสนุกสนามและก่อนพากันเดินออกจากห้องพักพากันไปเที่ยวต่อ

 

วันนี้เวลาประมาณ 11:00 น. พนักงานสอบสวนสภ. เมืองนครสวรรค์ควบคุมตัว พ่อและแม่ของน้องไบรอั้น ไปฝากขังโดยระหว่างที่นำตัวออกจากห้องขัง ทีมข่าวสอบถาม พ่อของน้องไบรอั้น เกี่ยวกับประเด็นการใช้หมอนกดหน้าลูกเจ้าตัวได้แต่สายหน้าแล้วตอบว่าไม่ได้ทำจากนั้นตำรวจคุมตัวขึ้นรถเพื่อที่จะไปฝากขังช่วงจังหวะนี้ทีมข่าวสอบถามอีกครั้งหนึ่งว่าแน่ใจใช่ไหมว่าไม่ได้เคยใช้หมอน กดหน้าลูกเจ้าตัวบอกว่าไม่เคยทำส่วนที่นายม่อนเพื่อนคนสนิทให้การกับนักข่าวนั้นเป็นเรื่องเท็จนายม่อนหมั่นไส้ตนเองและต้องการใส่ร้ายตนเองเพราะไม่ชอบตนเองตั้งแต่เกิดเรื่องจึงใส่ร้าย

 

ส่วนการตายของลูกก็หยุดลมหายใจเองไม่ได้ทำให้ลูกตายซึ่งลูกอาการไม่ดีตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว

 

ทั้งนี้ทีมข่าวสอบถามว่าเหตุใดทั้งสองคนไม่มีท่าทีสลดหรือเสียใจหลังจากลูกตายแล้ว สองสามีภรรยาได้แต่ก้มหน้าเงียบแล้วบอกว่าเสียใจ

 

ทีมข่าวช่องแปดได้พูดคุยกับน้องทับทิมหนึ่งในพยานที่เค้นนายเบี้ยวและนางสาวเฟยสองสามีภรรยาพ่อแม่ของน้องไบรอั้น เด็กชายวัยสองขวบเสียชีวิตปริศนาแล้วนำไปฝังดิน

 

โดยน้องทับทิมเล่าว่าได้มีโอกาส คุยโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทของนางสาวเฟยแม่ของเด็กเพื่อนคนนี้เล่าว่า นางสาวเฟยไม่อยากมีลูกและคิดจะไปทำแท้งหลายครั้งและพอคลอดลูกก็ไม่อยากเลี้ยงลูกโดยเพื่อนคนนี้เป็นคนสนิทกับนางสาวเฟยยังบอกอีกว่าในอดีตก่อนที่จะตั้งท้องนางสาวเฟยเคยเสพยาเสพติดในโรงเรียนด้วย

 

และมีช่วงหนึ่งหลังจากคลอดลูกได้ประมาณหนึ่งเดือนเพื่อนคนนี้บอกกับน้องทับทิมว่า ได้วิดีโอคอลคุยกับนางสาวเฟย และพบว่าที่กะโหลกศีรษะของน้องไบรอั้นมีรอยเขียวช้ำ และพอทราบข่าวว่าน้องไบรอั้น เสียชีวิตก็อดคิดไม่ได้ว่า นางสาวเฟยและ นายเบี้ยวสามี จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่

 

น้องทับทิมบอกอีกว่าพฤติกรรมการเลี้ยงลูกของเขาทั้งสองคนเป็นเหมือนคนไม่อยากมีลูกไม่อยากเลี้ยงและเคยเอาไปให้คนอื่นเลี้ยงแต่แม่ไปเอากลับมาคืน เมื่อกลับมาอยู่กับพ่อแม่แล้วสองคน ก็ดูแลลูกไม่ดีบางครั้งก็ทิ้งลูกไว้แล้วออกไปข้างนอกกันสองคน

 

เรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยส่วนตัวไม่เชื่อแน่นอนว่าน้องไบรอั้น จะเสียชีวิตเอง และตั้งข้อสันนิษฐาน ว่าน้องไบรอั้น อาจจะอดนมจนเสียชีวิตก็ได้เพราะทั้งสองคนไม่สนใจ เรื่องการให้นมลูก

เพื่อนรุมแฉยับ! สงสัย "พ่อ-แม่" ใจยักษ์ ฆ่าลูก? ยัดกระเป๋าขึ้นเขาซ่อนศพ