จากกรณีเมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 5 มิถุนายน 2567 พ.ต.ต.หญิงอัจฉรา กระเตื้องงาน สว.สอบสวนสภ.ปากคลองรังสิต รับแจ้งพลเมืองดีพบร่างผู้เสียชีวิตถูกทิ้งที่เกิดเหตุหน้าอู่ ใต้ทางด่วนอุดรรัถยา ม.4 ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกำลังชุดสืบสวนแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากป่าหญ้า พบเป็นผู้หญิง 1 ราย ถูกห่อด้วยผ้าปูเตียงสีเทา ถูกเข็มขัดหนังสีดำ 3 เส้นของมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง พันไว้ 3 แห่ง บริเวณหัวเข่า เอวและลำคอ นอกจากนี้ยังพันด้วยไม้แขนเสื้อรัดที่บริเวณเอวและขา
จากการเปิดผ้าออกพบมีผ้าขนหนูสีชมพูอีกผืน 1 ห่ออยู่ เบื้องต้นมีบาดแผลถูกปาดด้วยของมีคมที่ลำคอ ข้อมือทั้งสองข้างถูกตัดขาด ตรวจสอบไม่พบในที่เกิดเหตุ ที่รักแร้ซ้ายหนีบดัมเบลสีฟ้าน้ำหนัก 3 กิโลกรัม ที่ขามีลูกตุ้มถ่วงน้ำหนักสีเขียวน้ำหนัก 2 กิโลกรัมวางอยู่ และยังพบบุหรี่ไฟฟ้า และฟิล์มกระจกหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เบื้องต้นคาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-8 ชม.
ต่อมาทราบชื่อผู้ตาย นางสาววรัญญา อายุ 19 ปี ต่อมาเจ้าหน้าตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ติดตามเบาะแสจนถึงบ้านพักแฟนหนุ่มผู้ต้องสงสัย คือ นายธนากรณ์ อายุ 19 ปี เพื่อกดดันบริเวณรอบ ๆ แต่นายธนากรณ์ ชิงกินยาหวังฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อล้างท้องได้ทัน
ล่าสุด (5 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบในวันที่ 5 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 05.20 น. นายธนากรณ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ออกมาจากหมู่บ้านตัวเอง โดนที่เบาะรถด้านหลังนั้น มีร่างของแฟนสาว ผู้ตาย ถูกห่อด้วยผ้ามีดติดอยู่กับเลาะด้านหลัง
ต่อมาเวลา 05.32.09 น. บันทึกภาพ นายธนากรณ์ ผู้ก่อเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ด้านหลังมีลักษณะคล้ายผ้านวมยาว วางพาดอยู่ที่เบาะหลังขี่ผ่านมาในซอยวัดบางพูน จากนั้นกล้องอีกตัว เวลาตี 05.33 น.พบนายธนากรณ์ ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ผ่านในซอยวัดบางพูน
และยังมีกล้องอีกตัวซึ่งอยู่บริเวณกลางซอย เวลาประมาณ ตี 5.34.27 น. พบ นายธนากรณ์ ผู้ก่อเหตุ ขี่รถผ่านหน้าร้านแห่งหนึ่งไป ด้านหลังจะเห็นว่ามีวัตถุบางอย่างถูกห่อด้วยผ้า ที่มีลักษณะคล้ายกับที่พบในจุดเกิดเหตุวางพาดเบาะด้านหลังขี่ผ่านไป
จากนั้น นายธนากรณ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ขับเข้ามายังซอยที่ทิ้งร่างผู้ตาย โดยกล้องของอู่รถยนต์ สามารถจับภาพไว้ได้ ในเวลา 05.36.03 น. ห่างจากจุดเกิดเหตุ 100 เมตร ก็เห็นรถ นายธนากรณ์ ผู้ก่อเหตุ ขี่ผ่านไป ก่อนที่กล้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจุดที่ทิ้งห่างไปเพียง 50 เมตร สามารถจับภาพนายธนากรณ์ ผู้ก่อเหตุ ขี่ผ่านไปเพื่อนำร่างแฟนสาวไปทิ้งข้างทาง
สอบสวนเบื้องต้นนางอัมพวรรณ อายุ 46 ปี ภรรยาเจ้าของอู่ เปิดเผยว่า ช่วงช่วงเช้ามืดแฟนตนเองบอกว่ามีคนเอาขยะมาทิ้งที่ฝั่งตรงข้ามหน้าร้านซึ่งเป็นป่าหญ้า ตนเองยังบอกกลับไปว่าอย่าเพิ่งดีกว่าเผื่อเป็นยาบ้า ไว้ให้สว่างก่อน โดยตอนที่พบเห็นเพราะแฟนตนเองนอนในรถยนต์หน้าบ้าน ประมาณ 08.00 น. เศษ ตนเองและแฟนจึงเดินไปดูเพื่อเก็บขยะเพราะกลัวว่าทางเทศบาลจะว่าเอา เพราะขยะถูกทิ้งตรงข้ามอู่ เมื่อเดินไปดูจึงเอาถุงขยะขึ้นมา 1 ถุง จึงพบมีขามนุษย์โผล่อยู่และจับ ๆ ในถุงดูก็พบว่ามันนิ่มจึงรีบโทร. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งตอนนั้นตกใจมาก โดยขณะที่คนร้ายนำศพมาทิ้งแฟนตนเองได้ถ่ายภาพเอาไว้ได้ทัน
นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้สังเกตพบว่าบริเวณถนนก่อนถึงจุดทิ้งศพนั่น มีคราบเลือดหยดเป็นจุด ๆ อยู่ที่บริเวณถนนเป็นระยะทางประมาณกว่า 150 เมตร ซึ่งรอยคราบเลือดนั้น ได้แห้งไปหมดแล้ว
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ นายทองแดง พยานที่เห็นหน้าคนร้าย เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุตนเองนอนอยู่ในรถพบว่ามีชาย 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะกำลังใช้หญ้าปกคลุมอะไรบางอย่างที่นำมาทิ้งไว้ ก่อนจะเดินไปขยิบถุงขยะในถังขยะฝั่งตรงข้าม มาเทใส่บนหญ้าที่ปกคุมไว้ก่อนหน้าก่อนขับรถออกไป ก่อนจะวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ตนเองจึงเดินไปดูใหม่พร้อมพูดว่า "เอาอะไรมาทิ้ง มึงมาเก็บไปเลย ไม่งั้นจะแจ้งตำรวจ" คนร้าย ยังบอกว่า "เอาของรักมาทิ้ง" ก่อนที่คนร้ายจะขับรถรถจักรยานยนต์ออกไปเลย โดยรอบแรกที่ตนเองพบเห็นประมาณช่วงตีห้า แต่ภาพที่ตนเองถายภาพคนร้ายกับรถรถรถจักรยานยนต์ไว้ คือช่วงเวลา 05.40 น.
จากการสอบถาม นายเอกชัย พ่อของนายธนากรณ์ หรือ แซน คนก่อเหตุ เผยว่า หลังลูกชายก่อเหตุแล้วได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังแม่ ก่อนที่จะกินยาเพื่อจะฆ่าตัวตาย ซึ่งขณะนี้แพทย์ได้นำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการอายัดตัวถ้าหากพบว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถที่จะพูดคุยได้ เพราะยังอยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์
อีกทั้ง ลูกชายตนนั้นเรียนอยู่ปี 1 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง พร้อมกับ แฟนของเขา คือ นางสาววรัญญา หรือ น้องหมิ๊งหมิง ผู้ตาย โดยบ้านหลังดังกล่าวนี้ตนและภรรยาไม่ได้อยู่ มีเพียงลูกชายตนสองคนและแฟนของลูกชายอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งช่วงเช้ามืดภรรยาตนได้รับข้อความจากลูกชายตนว่า "ขอโทษทุกสิ่งทุกอย่าง" จึงคิดว่ามันน่าจะมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น ตนและภรรยาพยายามติดต่อมาทางลูกชาย แต่ไม่มีผู้ใดรับสายแล้วไม่สามารถติดต่อลูกชายอีกคนได้ จนได้รีบเดินทางมาดูก็พบว่าลูกชายเปลือยกายอยู่ในห้องนอน กินยาหลายขนาด จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาพอดีก่อนที่จะ ทราบว่ามีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ย้อนกลับไปยังหมู่บ้านที่ผู้ก่อเหตุ และผู้ตายอาศัยอยู่ โดยทีมข่าวพยายามสอบถามข้อมูลกับรปภ. แต่ทาง รปภ. หมู่บ้านแจ้งว่าไม่ทราบอะไรเลย ในหมู่บ้านไม่มีการแจ้งเหตุใด ๆ ส่วนที่ตำรวจเข้ามาเมื่อเช้า ไม่รู้มาทำไม ตำรวจไม่ได้บอกอะไร
ขณะที่เจ้าหน้าตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ติดตามเบาะแสจนถึงบ้านพักที่นายธนากรณ์ใช้ก่อเหตุ พบว่าภายในบ้านของนายธนากรณ์ ผู้ก่อเหตุนั้น ยังพบว่ามียาประจำตัวของเขาเอง ซึ่งเป็นยารักษาอาการทางจิต และยังพบยาประจำตัวของผู้ตาย ซึ่งเป็นยารักษาโรคภูมิแพ้ นอกจากนี้ยังพบแผงยารักษาอาการไมเกรน ยารักษาอาการซึมเศร้า อีกเป็นจำนวนมาก
ด้าน นางสาวจั้ม อายุ 23 ปี พี่สาวคนตาย ซึ่งได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม กับพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต โดยกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ประมาณ 2-3 เดือนที่แล้วก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน น้องสาวจะเลิกแต่เขาไม่ยอมเลิกโดยมีการมัดมือมัดเท้าแล้วก็ไม่ทำไปมากกว่านั้นแล้วก็จบไป เขาไม่เคยมีพฤติกรรมรุนแรงทำร้ายน้องสาวเลย เพิ่งจะมีครั้งนั้น ซึ่งน้องสาวเราเรียน ม.ปลายมากับเขา และทำงานที่เซเว่นฯ ด้วยกัน อยู่แถวดอนเมือง
พอมาทราบข่าวน้องสาวแบบนี้ตนเองใจจะสลาย น้องสาวเคยบอกกับตนเองว่าเคยจะเลิก ซึ่งเขาก็เคยพูดไว้ว่าถ้าจะเลิกจะไม่จากกันไปแบบเป็นต้องจากกันไปแบบตาย โดยคำพูดนี้พูดมาแล้วประมาณสองเดือนที่แล้ว โดยเหตุการณ์ที่มัดมัดมือมัดเท้าก็เป็นเพราะน้องสาวจะเลิกเช่นกัน ก่อนน้องสาวเคยโทร. มาคุยซึ่งบอกว่าจะขอเลิกและย้ายออกมา และจะกลับบ้านที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ตนเองก็ยังบอกไปว่าถ้าจะออกมาก็บอกเดี๋ยวตนจะรับไปส่ง แล้วเขาก็พูดว่าลองขอคุยดูก่อน แต่สุดท้ายก็ดีกัน ก็ไปนานมากประมาณเดือนสองเดือน
ซึ่งน้องสาวได้มาอยู่บ้านนี้กับแฟนตั้งนานแล้ว และไม่เคยไปเช่าหออยู่ที่ไหนแต่ก็มีการพูดคุยกันว่าจะไปเช่าหออยู่ใกล้ใกล้กับมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังไม่ทันทำอะไรเลยก็มาจบชีวิตลงก่อน เราก็เคยเตือนน้องแต่เราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะน้องสาวรัก จริง ๆ ตัวหนูก็คิดนะว่ามันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ที่คิดแบบนี้เพราะว่าแฟนของน้องสาวเคยมีคดีเก่าเรื่องทำร้ายร่างกาย และตนเองก็เคยได้ยินแฟนน้องสาวพูดเกี่ยวกับประมาณว่าเขาชอบ เขาตื่นเต้นเกี่ยวกับการทำร้ายหรือการฆ่าคน ซึ่งตนเองได้ยินออกมาจากปากของทางผู้ชาย โดยอยู่กันครบมีทั้งตนเองและน้องสาวด้วย ซึ่งลักษณะการพูดของผู้ชาย เขาจะพูดแบบลักษณะติดเล่น แต่ตนเองก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดจริง
ด้านนางศศิภา อายุ 64 ปี ยายของผู้เสียชีวิต ซึ่งยังไม่ทราบเรื่อง พอทราบตกใจ น้ำตาคลอ โดยระบุว่า ไม่ทราบเรื่อง ปกติหลานสาวเรียนด้วยทำงานด้วย อยู่ต่างจังหวัด นาน ๆ จะกลับบ้าน ล่าสุดก่อนสงกรานต์พาแฟนมาเที่ยวบ้านก็ไม่มีอะไรผิดสังเกตุ "เขาเป็นเด็กขยัน ทำงานเก็บเงินส่งมาให้แม่ ส่วนแม่รับจ้างทั่วไป ซึ่งตอนนี้นั่งรถไฟไปรับจ้างอยู่ตัวจังหวัด ทราบเรื่องก็ไม่สามารถกลับมาบ้านได้ ต้องรอรถไฟช่วงค่ำ ๆ ไม่รู้สาเหตุทำไมถูกฆ่า ใจร้ายจัง หลานยายเป็นคนดี น่ารัก"
โดยบรรยากาศที่บ้านผู้เสียชีวิต ญาติ ๆ ต่างเสียใจ และจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุที่เกิดขึ้น และบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามีผู้ตายหน้าตาดี น่ารัก เป็นคนดีขยัน ทำงานเก่ง เก็บเงินส่งมาให้แม่ประจำ ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนางชัญญา แม่ของผู้เสียชีวิต พอรับและทราบเรื่อง ร่ำไห้ แต่ไม่สามารถเดินทางกลับมาบ้านที่ ต.ท่าสัก อ.พิชัย ได้เพราะต้องรอรถไฟ เนื่องจากไปรับจ้างทำกับข้าวให้นายจ้างจะเสร็จงานประมาณ 20.00 น. จึงจะกลับบ้านได้ และเสียใจมากจากการจากไปของลูก
ล่าสุด พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า บ้านหลังดังกล่าวที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ มีผู้อาศัยอยู่ 4 คน คือพี่ชาย พี่สะใภ้ ผู้ตาย และผู้ก่อเหตุ และบางวันจะมีแม่เข้ามาพักด้วย จากการสอบพยานในที่เกิดเหตุ คือพี่ชายของผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ คือคบกันแบบที่ครอบครัวทั้งสองรู้มา 2-3 ปี และกำลังจะเข้าเรียนต่อด้วยกัน ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎแห่งหนึ่ง ตอนนี้กำลังรอเปิดเทอม
ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.00 น. ได้ยินทั้ง 2 คน ทะเลาะกันเสียงดังมาก ก่อนจะมีการไปเตือนให้ทั้งคู่หยุด เมื่อทั้งคู่เงียบไป จึงไม่ได้เอะใจ เพราะลักษณะแบบนี้ มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง กระทั่ง ตีเวลาประมาณ 05.30 น. ผู้ก่อเหตุได้นำร่างของผู้เสียชีวิตไปทิ้งอำพรางไว้บริเวณหน้าอู่แห่งหนึ่ง ใต้ทางด่วนอุดรรัถยา จากนั้นพี่ชายมาพบว่าน้องชายกินยาเกินขนาด จึงได้แจ้งกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลต่อไป
เมื่อตำรวจตรวจสอบในบ้านหลังดังกล่าว พบคราบเลือดภายในห้องนอน ซึ่งคาดว่าเป็นจุดก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายจนหมดสติ จากนั้นจึงนำร่างของแฟนสาวลงมาที่ห้องน้ำ และทำการหั่นอวัยวะ คอและมือต่อ โดยใช้มีดอีกโต้ในการลงมือ สำหรับการขนย้ายศพ ผ่านประตูหมู่บ้าน ที่มี รปภ. เฝ้าอยู่ตลอดเวลา ทำได้อย่างไร
พล.ต.ท.จิรสันต์ บอกว่า นายแซม ผู้ก่อเหตุใช้คีย์การ์ดเปิดประตูหมู่บ้าน เลยไม่ผิดสังเกตหรือเป็นที่น่าสงสัย ซึ่งในขณะนี้ กำลังสอบปากคำ รปภ. เพิ่ม เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบประวัติการรักษาจิตเวชมานาน ซึ่งครอบครัวของผู้ก่อเหตุ ก็ได้เปิดเผยว่ารักษาตัวมาประมาณ 2-3 ปี
นอกจากนี้ยังพบประวัติอาชญากรรมของผู้ก่อเหตุ เมื่อปี 2565 ที่ สน.คันนายาว ในคดีอนาจาร เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เมื่อสอบถามว่าเป็นคนเดียวกันกับผู้เสียชีวิตหรือไม่ ทาง พล.ต.ท.จิรสันต์ บอกว่าเป็นคนละคนกับผู้เสียชีวิต ตำรวจยังมีการเร่งตามหามือของผู้เสียชีวิต เนื่องจากว่ายังไม่พบว่าไปอยู่ที่ใด เพราะผู้ก่อเหตุยังไม่ฟื้น หรือมีสติในการให้ปากคำ ตอนนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นกับนายแซม คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ