เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 5 มิ.ย. 2567 ที่กองกำกับการ 3 กองบินตำรวจ ดอนเมือง เจ้าหน้าที่นำตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด จากสนามบินนานาชาตินครศรีธรรมราช มาถึงสนามบินกองกำกับการ 3 กองบินตำรวจ โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ จากกรมราชทัณฑ์ พร้อมอาวุธครบมือ รอรับตัวเพื่อเตรียมนำตัวส่งเรือนจำกลางบางขวาง


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดรถยนต์คุ้มกันขบวนจากกองบังคับการปราบปราม 2 คัน รถคุ้มกัน 2 คัน และมีรถตู้ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน คอยดูแลความปลอดภัย 1 ชุด จำนวน 4 นาย และรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจ นำขบวน จำนวน 1 คัน โดยเสี่ยแป้งจะอยู่ในรถตู้ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง และมีรถตู้ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมราชทัณฑ์ 2 คัน และรถคุ้มกัน 1 คัน คอยประกบรถตู้ที่เสี่ยแป้งนั่งอยู่ เพื่อขนย้ายนักโทษ จากท่าอากาศยานไปยังเรือนจำกลางบางขวาง




เมื่อเครื่องลงจอดเสร็จ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำรถตู้เข้าไปรับตัวข้างเครื่องบิน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประกบอย่างแน่นหนา โดยเสี่ยแป้ง สวมเสื้อราชทัณฑ์ สวมเสื้อเกาะกันกระสุน ใส่แมสก์สีเขียว และสวมหมวกสีขาว พร้อมใส่เครื่องพันธนาการที่ข้อมือ และเท้า ก่อนที่จะเจ้าหน้าที่จะนำตัวขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้ามายังเรือนจำกลางบางขวาง




จากนั้นเวลา 11.50 น. ขบวนรถตู้กรมราชทัณฑ์ โดยมีรถของตำรวจกองปราบปรามนำหน้าขบวนมาถึงหน้าเรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งรถตู้คันที่ แป้งนา โหนด มาถึงได้จอดด้านหน้าเรือนจำ มีกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่เรือนจำกว่า 30 นาย ยืนกั้นเป็นทางเดินเข้าเรือนจำ ก่อนจะให้ แป้ง นาโหนด ลงจากรถตู้ ควบคุมเข้าไปยังด้านในเรือนจำทันที โดยตอนลงจากรถ แป้ง ยกมือไหว้ 1 ครั้ง และผู้สื่อข่าวสอบถามแป้ง นาโหนด ว่ากังวลหรือไม่ถ้าถูกขังเดี่ยว แป้งนาโหนด ส่ายหน้าและไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว จากนั้นมีนักข่าวได้ถาม แป้ง นาโหนด ว่ามีอะไรอยากจะพูดหรือไม่ ซึ่ง แป้ง นาโหนด ไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนเจ้าหน้าที่จะพาเดินเข้าไปด้านในเรือนจำ




ขณะที่ นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผบ. เรือนจำกลางบางขวาง เผยถึงขั้นตอนการรับตัว แป้ง นาโหนด เข้าสู่เรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนทั่วไปตามกระบวนการ ระเบียบกรมราชทัณฑ์ 8 ขั้นตอน นั่นคือ 1. ตรวจร่างกายผู้ต้องขังเข้าใหม่ 2. ตรวจสอบชื่อ-นามสกุลและเลขประจำตัวประชาชนของผู้ต้องขัง ตามที่ปรากฏในบัตรประจำตัวประชาชน 3. พิมพ์ลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องขัง 4. จัดทำทะเบียนประวัติผู้ต้องขังในวันที่รับตัว 5. ตรวจค้นตัวและสัมภาระ 6. ขั้นตอนการคัดกรองโรค 7. ผู้ต้องขังจะถูกแยกไปทำการกักโรคโควิด-19 ที่ห้องกักโรคของสถานพยาบาลภายในเรือนจำฯ ระยะเวลา 5 วัน เนื่องจากแป้ง นาโหนด เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศอินโดนีซีย และก่อนหน้านี้ก็มีการเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ และ 8. พิจารณาว่าควรนำตัว แป้ง นาโหนด ไปคุมขังยังแดนขังใด


ด้าน นพ.สมภพ สังคุตแก้ว ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้หลังจากรับตัว แป้ง นาโหนด มาแล้วจะดำเนินการตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ของการรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ ขั้นตอนแรกจะตรวจร่างกาย ตรวจโรค ตรวจสุขภาพทั่วไป และซักประวัติของผู้ต้องขัง หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการกักโรค โดยใช้เวลากักโรค 10 วัน




ผู้สื่อข่าวถามว่าจะขัง แป้ง นาโหนด ไว้แดนไหน นพ.สมภพ สังคุตแก้ว ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จะต้องรอให้กักโรคครบตามกำหนด 10 วัน ก่อนถึงจะนำไปคุมขังแต่จะต้องแยกขังเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจาก แป้ง นาโหนด ถูกจับกุม อาจจะเกิดการถูกลอบสังหาร หลังจากกลับมาประเทศไทยแล้ว หรืออาจจะมีการติดเชื้อในกระแสเลือด ทางกรมราชทัณฑ์ จะให้คำตอบกับสังคมในประเด็นนี้ได้อย่างไร นพ.สมภพ สังคุตแก้ว ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ผู้ต้องขังทุกคนจะต้องผ่านการตรวจเช็กร่างกายก่อน หากมีการถูกทำร้ายหรือเจ็บไข้ได้ป่วยมาก่อนเข้าเรือนจำ จะต้องผ่านการตรวจมาก่อน ในคดีสำคัญทางกรมราชทัณฑ์ มีมาตราการในการแยกคุมขังและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ หรืออาจจะถูกผู้คุมขังด้วยกันทำร้าย หรือทำร้ายตัวเอง ทางเรือนจำได้มีการโดยมีคนเฝ้าระวังรวมถึงกล้องวงจรปิดคอยดูพฤติกรรม


โดยผู้สื่อข่าวยังถามเพิ่มเติมอีกว่า จะมีการกังวลเกี่ยวกับการหลบหนีอีกหรือไม่ นพ.สมภพ สังคุตแก้ว ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การหลบหนีมี 2 เรื่อง คือหลบหนีจากภายนอกกับหลบหนีจากภายใน กรณี แป้ง นาโหนด เป็นการหลบหนีจาก รพ. ขณะนำตัวไปรักษา ซึ่งเรือนจำกลางบางขวาง เป็นเรือนจำมีความมั่นคงและปลอดภัยสูง แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องทำตามสิทธิมนุษย์ชน เช่น การเจ็บไข้ได้ป่วยของผู้ต้องขัง ก็มีความจำเป็นที่จะต้องส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวภายนอก ทำให้ผู้ต้องขังอาศัยช่วงนั้นหลบหนี

 

"แป้ง นาโหนด" ยิ้มร่า! ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำบางขวาง