วันที่ 6 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นางสาวพิมพ์ชนก หรือ พิม อายุ 34 ปี เพื่อขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวกรณี นายพินโญ หรือ พ่อโย อายุ 58 ปี พ่อของตนเองได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง นายหริพันธุ์ หรือ เท็น อายุ 33 ปี อดีตแฟนหนุ่มไป 1 ครั้ง บริเวณหน้าร้านขนมไข่เต่า ถนนราษฎร์อุทิศ 1 ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา จนได้รับบาดเจ็บก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลา หลังอดีตแฟนยกพวกบุกมาที่ร้าน พร้อมกับมีการคว่ำถาดขนมทั้งหมด และพยายามยื้อแย่งยึดรถจักรยานยนต์ไปให้ได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทางฝั่งตนไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน จึงเป็นสาเหตุได้ร้องทุกข์สื่อเข้ามา

ล่าสุดทีมข่าวได้รับคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ เมื่อเวลา 18.11 น. วันที่ 5 มิ.ย โดยนายหริพันธุ์ได้พาเพื่อนชายมา 3 คน บุกมาที่ร้าน ก่อนที่นายหริพันธุ์ได้ยืนโต้เถียงกับพ่อแม่ของนางสาวพิมพ์ชนกโดยมีเพื่อนชายยืนคุ้มเชิงอยู่รอบ ๆ ร้าน

จากนั้นนายหริพันธุ์รื้อร้านยกพวกถังแก๊ส อุปกรณ์ทำขนม ระหว่างที่นายหริพันธุ์กำลังรื้อของในร้านออก พ่อกับแม่ของนางสาวพิมพ์ชนกได้พยายามห้ามปรามนายหริพันธุ์ แต่เจ้าตัวไม่ฟังก่อนจะเปิดฝาตู้กระจกพร้อมกับคว่ำถาดขนม จนทำให้ นายพินโญ พ่อของนางสาวพิมพ์ชนกฟิวส์ขาด วิ่งอ้อมไปหยิบมีดที่ใช้หั่นหัวมันและจำปาดะ วิ่งเข้ามาแทงไป 1 ครั้ง ก่อนเกิดการชุลมุนขึ้นจนทำให้เจ้าของร้านขายอาหารสุนัขวิ่งออกมาจากร้าน พร้อมเพื่อนชายของนายหริพันธุ์อีก 3 คน วิ่งเข้ามาห้ามปราม นายพินโญ พ่อของนางสาวพิมพ์ชนก ก่อนจะแยกย้ายและนำตัวนายหริพันธุ์ส่งโรงพยาบาลสงขลา

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าร้านขายอาหารสุนัข ริมถนนราษฎร์อุทิศ 1 ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ซึ่งได้พบกับ นายพินโญ หรือ พ่อโย อายุ 58 ปี (พ่อ) และ นางสาวพิมพ์ชนก (ลูกสาว) ก่อนจะพาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะมอบหลักฐานวิดีโอกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถบันทึกช่วงเกิดเหตุไว้ได้ทั้งหมด

จากการสอบถาม นางสาวพิมพ์ชนก ได้เล่าว่า ตนกับนายหริพันธุ์ หรือ เท็น อยู่กินด้วยกันมาประมาณ 3 ปี อยู่กันมาช่วยกันขายของ พอมาวันที่ 6 มิถุนายน 2566 ตนถูกศาลตัดสินให้จำคุก 9 เดือน ช่วงที่ตนอยู่ในเรือนจำตลอด 9 เดือน เท็นก็ไปเยี่ยมตนตลอด และก็ยังขายของที่เดิมที่เราขายด้วยกันเป็นประจำ แม่ตนจะเป็นคนทำขนมให้เท็นขาย จนกระทั่งตนออกมาจากคุก 11 มีนาคม 2567 แม่ก็มาคุยกับตนในบ้านว่าเท็นมีคนอื่น ตนก็ถามว่าใคร แม่บอกว่าตนรู้จักสรุปก็คือเพื่อนสนิทของตน แม่ก็พูดออกมาว่าอยู่ได้ไหมถ้าไม่มีเท็น ตนก็บอกแม่ไปว่าก็ต้องอยู่ให้ได้ ไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อนของตน

จากนั้นตนจึงไปตกลงกับเท็น เขาก็บอกว่าจะกลับมาอยู่กับตนเช่นเดิม แต่ทางแม่ตนไม่โอเค แม่รับไม่ได้ ทางเท็นก็ยืนยันจะอยู่กับตนและกลับมาช่วยกันขายของ แม่ตนจึงถามไปว่าแน่ใจใช่ไหมว่าจะเลิกกับคนนั้นแล้วมาอยู่กับตนเพียงคนเดียว เขายืนยันว่าทำได้ ถ้าเขาทำไม่ได้ตนก็ขอเพียงรถขายของเท่านั้น เพราะเขาก็รู้ว่าลำบาก

นางสาวพิมพ์ชนก เล่าอีกว่า ที่ตนเดินออกมาจากบ้านวันนั้น เพราะเท็นบอกว่าให้ตนอยู่กัน 3 คน ก็คือมีตน มีแฟนใหม่ และเท็น ให้ลองอยู่ด้วยกันแบบนี้ ยอมรับว่าตอนแรกตนรักจึงทนดูไปก่อน หลัง ๆ มันไม่ได้แล้วคนละวัน รับไม่ได้ จนมาถึงวันที่ 4 เม.ย. 2567 ก็ไม่ได้ติดต่อ พ่อแม่ไปขายของแทน ตนยังรับไม่ได้เวลาไปขายของจะมีคนมามอง แม่ก็บอกว่าเท็นมาหาที่ร้านจะเอารถกลับบ้าง ในวันนั้นก็ตกลงชัดเจนว่าจะให้ตนขายของ ก็เห็นว่าลำบาก ถ้าอยากได้เงินจะเอากี่บาท พ่อบอกว่าเท็นก็พาเพื่อนมา 3-4 คน ยกของตนลงจากรถ ยังไงก็จะเอารถคืนให้ได้ พ่อจึงบอกว่าถ้าจะเอาก็ไปแจ้งตำรวจมา ตนจึงรับพ่อไปโรงพัก ตำรวจบอกว่ายังแจ้งข้อหาไม่ได้ เนื่องจากผู้ถูกกระทำไม่ได้มาแจ้งความ ต้องรอทางเขา พ่อตนไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ ทางเท็นก็น่าจะรู้ดีว่ายังไง ตนเลิกกับเท็นมาไม่มีใครรับได้ที่จะอยู่แบบนั้น พ่อตนก็แก่แล้ว ตนก็ไม่อยากให้พ่อไปอยู่ในคุก เพราะมันไม่ใช่เรื่องของแก

จากการสอบถาม นายพินโญ หรือ พ่อโย ได้เล่าว่า พ่อขายของมาตั้งแต่ปี 2547 ตอนนั้นพ่อก็มีรถเอง แต่ช่วงนั้นที่โควิดระบาด พ่อหาเงินส่งค่าใช้จ่ายไม่ทัน พ่อจึงขายรถพ่วงข้างคันนี้ไป เราก็ไม่มีเงิน หลังจากนั้นไปทำงานก่อสร้างอยู่ช่วงหนึ่ง ลูกสาวเราก็ได้คบหากับเท็นอยู่ได้ 3-4 ปี เท็นก็บอกว่าอยากจะซื้อรถให้ลูกเราสักคัน ซึ่งเป็นรถของร้านราคา 12,000 บาท มาขายของ ซึ่งลูกสาวขายกลางคืน พ่อขายกลางวัน หลังจากที่ลูกเราติดคดี 9 เดือน เท็นก็ยังไปเยี่ยม

จากนั้นไม่นานเท็นก็เอาสาวซ้อนท้ายมา พ่อก็เพิ่งได้รู้ว่าเขามีคนใหม่แล้ว แม่ก็เห็น พอแม่เล่าลูกก็รับไม่ได้จึงตีตัวออกห่างจากเขา เพราะอยู่กัน 3 คนมันอยู่กันยังไงอยู่ไม่ได้ พ่อก็รับไม่ได้ หลังจากนั้นก็มาทวงรถกลับ ถ้ามาเอาไปแล้วพ่อจะขายอะไร ชีวิตพ่อไม่มีอะไรจะทำแล้ว ไม่มีรายได้ พ่อยกมือไหว้ก็ได้จะเอาเท่าไร เท็นไม่ยอมจะเอารถคืนอย่างเดียว และมาระรานตลอดเวลา ครั้งหลังพาเพื่อนมาล้อมหน้าล้อมหลัง ขนมอะไรที่อยู่ในถาดมันรื้อออกหมด ห้ามก็ไม่ฟัง พ่อก็บอกแล้วว่าถ้าจะเอารถพ่อไม่ยอม กุญแจรถ ถังแก๊สมันยึดเอาไปหมด จะเข็นรถออกไป พ่อก็เลยไปผลักบอกไม่ได้

ทีนี้พ่อก็จ้วงมีดแทงไปเลย เพื่อให้หยุดไปก่อน พ่อพกประจำ จริง ๆ เอามาใช้หั่นหัวมัน หั่นของต่าง ๆ พอลูกสาวมาพ่อบอกให้พาไปมอบตัวเลย เพราะพ่อทำผิด เขายังไม่ได้แจ้งข้อหาตอนนี้ให้เรากลับบ้านก่อน มีการลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว คือพ่อก็เสียใจมาก ของก็ไม่ได้ขาย เงินเราก็ไม่มี พ่อก็สงสารลูกไม่มีงานทำทั้งคู่ ทั้งลูกและเมีย พ่อเสียใจมากที่ทำลงไปแล้ว เพราะเหตุการณ์มันบังคับเรา ตรงนี้พ่อยอมเลย

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่บ้านพ่อแม่ของนายหริพันธุ์ หรือ เท็น เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่าได้พบกับญาติ ซึ่งได้แจ้งว่า พ่อแม่ของนายเท็นไม่อยู่บ้านและได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลสงขลา เพื่อรอดูอาการของลูกชาย และตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วและรู้สึกตัวดี