กองปราบรวบสาว เปิดเต็นท์รถมือสอง ปลอมเอกสารการเงินลูกค้ากว่า 30 ราย เสียหายกว่า 20 ล้านบาท

วันที่ 7 มิ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม แถลงผลปฏิบัติการจับกุมอดีตลูกจ้างหน่วยงานรัฐที่ร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร สำหรับเช่าซื้อรถยนต์ให้กับสถาบันการเงิน เกิดความเสียหายมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

โดยคดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ทางผู้แทนของบริษัทธนาคารเกียรตินาคิน ได้เข้าร้องทุกข์กับกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ให้ตรวจสอบกรณีพบการเช่าซื้อรถของลูกค้าจำนวนมากที่ขาดส่งค่างวด คาดว่าอาจมีการกระทำผิดเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสาร จึงได้ทำการสืบสวน จนทราบว่า เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 น.ส.ก้อย อดีตพนักงานลูกจ้างชั่วคราวของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ปัจจุบันประกอบอาชีพขายรถมือสอง และเป็นดีลเลอร์ให้เต็นท์ขายรถยนต์ขนาดใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมปลอมแปลงเอกสารให้กับผู้เช่าซื้อ 34 คน เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน รายงานการเดินบัญชีของทางธนาคารเพื่อนำมาประกอบการยื่นขอสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถยนต์กับบริษัทเกียรตินาคิน ทำให้มีมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับจำนวน 59 หมายจับ และปิดล้อมตรวจค้นใน 6 จังหวัด เช่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา ชัยภูมิ และ กรุงเทพมหานคร สามารถจับกุม น.ส.ก้อย กับพวกรวม 29 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม และอยู่ระหว่างติดตามผู้ที่หลบหนี 7 คน เสียชีวิตแล้ว 1 คน

ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาบางคนเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเงินกู้มาก่อน ส่วนตัวการที่ปลอมเอกสารนั้นไม่มีประวัติอาชญากรรม อยู่ระหว่างขยายผลจากคำให้การของผู้ต้องหาว่ามีข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่าผู้ต้องหากลุ่มเดียวกันยังมีพฤติการณ์แบบเดียวกับธนาคารแห่งอื่นอีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผลต่อไป

สำหรับผู้ที่ยื่นเอกสารปลอมนั้น แบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มที่จงใจฉ้อโกงแต่แรก และบุคคลที่รู้ตัวว่าเครดิตการเงินไม่พร้อมแต่อยากได้รถ ซึ่งทุกคนต้องทราบอยู่แล้วว่าข้อมูลที่ส่งให้นั้นเป็นจริงหรือเท็จ จึงขอฝากเตือนไปยังประชาชนที่ต้องการเช่าซื้อรถยนต์ระมัดระวังในการใช้เอกสารปลอม มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี และกลุ่มบริษัทผู้ให้สินเชื่อธนาคารต่าง ๆ ต้องตรวจเอกสารให้ครบถ้วนถูกต้องก่อนอนุมัติสินเชื่อ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย

ด้านนายณภัทร เทอดไท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวว่า หลังพบพฤติกรรมการปลอมแปลงเอกสารจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ และกังวลว่าหากไม่ดำเนินการพฤติกรรมดังกล่าว อาจส่งผลให้ประชาชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เดือดร้อนไปด้วย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ส่วนการเยียวยาผู้เสียหายนั้นสามารถเข้ามาพูดคุยกับธนาคารได้เป็นรายกรณีไป