จากกรณีพบศพหญิงนิรนาม นอนเสียชีวิตในพงหญ้า ริมถนนเพชรเกษม จ.เพชรบุรี กว่า 1 สัปดาห์ เน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเน่าเหม็น พบร่องรอยถูกลากไปทิ้ง คาดเป็นหญิงสาวที่หายตัวไปจากภูเก็ต ซึ่งเพื่อนร่วมงานบอกว่า เห็นคนตายไปกับคนแปลกหน้า ก่อนตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบชายปริศนาขับรถคนตาย ไปที่ จ.ประจวบฯ ขณะที่ แม่ยืนยัน ศพสาวนิรนามที่ถูกทิ้งในพงหญ้าที่เขาย้อย คือลูกสาว ชื่อ น.ส.เบญรัตน์ หรือ น้องครีม อายุ 21 ปี เนื่องจากจำรอยสักหมีพู รวมถึงแหวน นาฬิกาที่น้องสวมใส่ โดยก่อนหายตัวโทร. มาบอกกำลังจะเอารถไปคืนแฟนหนุ่มหลังจากทะเลาะกัน กระทั่งกลายเป็นศพ เชื่อเป็นการฆาตกรรม






ล่าสุด (8 มิ.ย. 2567) ทีมช่าวช่อง 8 ได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งจะสามารถจับภาพน้องครีม ผู้ตาย ได้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่มีการออกไปซื้อของ จนถึงช่วงเที่ยงที่ได้มีการขับรถออกจาก จ.ภูเก็ต ก่อนถูกพบว่ากลายเป็นศพ


ภาพจากกล้องวงจรปิดเมื่อเวลา 09.31.06 น. จะสามารถจับภาพรถกระบะสีเทาดำ ของน้องครีม ผู้ตาย ขับมาจากทางเข้าตัวเมืองภูเก็ตมุ่งหน้าไปเส้นฉลอง ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดยังร้านสะดวกซื้อ ต่อมาภาพจากกล้องวงจรปิดเมื่อเวลา 09.32.35 น. จะสามารถจับภาพน้องครีม สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีเทา ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่พบกับศพที่เจอที่ จ.เพชรบุรี โดยกำลังเดินเข็นรถเข็น และมาพร้อมกับหญิงปริศนา (ทราบภายหลังเป็นพนักงานร้านนวด) ใส่เสื้อสีขาวแขนยาว โดยทั้งคู่เดินเข้ามาที่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อของ




และหลังจากที่ทั้งคู่ซื้อของในร้านสะดวกซื้อเรียบร้อยแล้ว โดยใช้เวลาในการซื้อของประมาณ 20 นาที ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวที่ 3.1 เมื่อเวลา 09.52.59 น. ก็จะสามารถจับภาพรถกระบะสีเทาดำ ขับออกจากร้านสะดวกซื้อแล้วมุ่งหน้าไปร้านนวดที่ตัวเองทำงานอยู่


- ตัวที่ 3.2 เห็นรถผู้ตายขับผ่านถนนใหญ่เวลา 09.53.43 น.
- ตัวที่ 3.3 จะสามารถจับเห็นรถของทั้งน้องครีมได้อย่างชัดเจน
- ตัวที่ 3.4 เห็นรถผู้ตายขับผ่านถนนใหญ่เวลา 09.54.41 น.
- ตัวที่ 3.5 เวลา 09.57.18 น. สามารถจับภาพรถผู้ตาย เลี้ยวขวาเข้าซอยร้านนวดที่ทำงาน โดยจากร้านสะดวกซื้อมาถึงซอยร้านนวดที่ทำงาน ใช้เวลาประมาณ 5 นาที


ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวที่ 4.1 เมื่อเวลา 09.59.33 น. จะสามารถจับภาพรถกระบะสีเทาดำ ของน้องครีมผู้ตาย เมื่อขับเข้ามายังซอยร้านนวดที่ทำงาน ก็ขับมาเรื่อย ๆ




- ตัวที่ 4.2 เห็นรถผู้ตายขับผ่านถนนภายในซอย เวลา 10.00.37 น.
- ตัวที่ 4.3 เห็นรถผู้ตายขับผ่านถนนภายในซอย เวลา 10.00.40 น.
- ตัวที่ 4.4 เห็นรถผู้ตายขับผ่านถนนภายในซอย เวลา 10.01.55 น. โดยจุดสังเกตของวงจรปิดตัวนี้ รถคันดังกล่าวมีการเปิดกระจกขับ และจะเห็นได้ว่าคนขับรถจะเป็นหญิงพนักงานร้านนวด ที่ไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อกับน้องครีม ผู้ตายเป็นคนขับ


ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวที่ 5.1 เมื่อเวลา 10.02.04 น. จะสามารถจับภาพรถกระบะสีเทาดำ ขับมาจอดอยู่ตรงข้ามร้านนวด ซึ่งทั้งน้องครีม ผู้ตาย และหญิงพนักงานร้านนวด ก็ลงจากรถและเดินข้ามถนนมาที่ร้าน


- ตัวที่ 5.2 และหลังจากน้องครีม อยู่ที่ร้านนวด นานเกือบ 2 ชม. ก็เดินออกมาร้าน เพื่อมาที่รถแล้วขับรถออกจากร้านไปในเวลา 11.53.32 น.
- ตัวที่ 5.3 เวลา 11.54.37 น. จะเห็นรถของ ผู้ตายขับลัดเลาะไปตามซอยต่าง ๆ
- ตัวที่ 5.4 เวลา 11.54.03 น. จะเห็นรถของ ผู้ตายขับลัดเลาะไปตามซอยต่าง ๆ
- ตัวที่ 5.5 เวลา 11.55.33 น. จะเห็นรถของ ผู้ตายขับลัดเลาะไปตามซอยต่าง ๆ
- ตัวที่ 5.6 เวลา 11.57.07 น. จะเห็นรถของ ผู้ตายขับลัดเลาะไปตามซอยต่าง ๆ
- ตัวที่ 5.7 เวลา 11.58.12 น. จะเห็นรถของ ผู้ตายขับลัดเลาะไปตามซอยต่าง ๆ
- ตัวที่ 5.8 เวลา 12.00.24 น. จะเห็นรถของผู้ตายขับมาที่ 3 แยกพระเมรุวัดสว่างอารมณ์ โดยเลี้ยวซ้ายเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งภายในซอยดังกล่าว โดยเข้าไปภายในหมู่บ้านประมาณ 5 นาที จึงสังเกตได้ว่าอาจจะเข้าไปรับใครตรงจุดนี้หรือไม่




หลังจากเข้าไปในหมู่บ้านภายในซอยประมาณ 5 นาที กล้องตัวที่ 6.1 เมื่อเวลา 12.05.54 น.จะสามารถจับภาพรถของผู้ตายขับออกมาจากหมู่บ้าน


- ตัวที่ 6.2 เวลา 12.07.50 น. จะเห็นรถของผู้ตายขับลัดเลาะไปตามซอยต่าง ๆ
- ตัวที่ 6.3 เวลา 12.08.12 น. จะเห็นรถของผู้ตายขับลัดเลาะไปตามซอยต่าง ๆ
- ตัวที่ 6.4 เวลา 12.09.54 น. จะเห็นรถของผู้ตายขับลัดเลาะไปตามซอยต่าง ๆ
- ตัวที่ 6.5 เวลา 12.10.12 น. จะเห็นรถของผู้ตายขับลัดเลาะไปตามซอยต่าง ๆ
- ตัวที่ 6.6 เวลา 12.10.13 น. จะเห็นรถของผู้ตายขับลัดเลาะไปตามซอยต่าง ๆ ซึ่งจุดนี้จะวิ่งผ่านหน้าร้านนวดสอดคล้องกับวจป.ตัวเมื่อวาน
- ตัวที่ 6.7 เวลา 12.17.53 น. จะเห็นรถของผู้ตายขับออกมาจากซอยร้านนวดมุ่งหน้าออกจากจังหวัดภูเก็ต
- ตัวที่ 6.8 เวลา 12.18.01 น. จะเห็นรถของผู้ตายขับออกมาจากซอยร้านนวดมุ่งหน้าออกจากจังหวัดภูเก็ต




ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังซอย 3 แยกพระเมรุวัดสว่างอารมณ์ ซึ่งเป็นจุดที่น้องครีม ผู้ตาย ขับเข้ามาในซอยดังกล่าว ก่อนจะหายเข้าไปประมาณ 5 นาที และขับออกมา โดยเมื่อทีมข่าวช่อง 8 ลองขับเข้าไปก็เจอกับรีสอร์ตลับตาแห่งหนึ่งในซอยดังกล่าว ซึ่งห่างจากต้นซอยที่น้องครีม เข้ามาประมาณ 300 เมตร ซึ่งเมื่อมาถึงทีมข่าวช่อง 8 ได้มีโอกาสพูดคุยกับนางอ้วน (นามสมมติ) พนักงานรีสอร์ตดังกล่าว โดยนางอ้วนเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีลูกค้าผู้ชายรายหนึ่งจองรีสอร์ต ห้องที่ 9 เข้ามาในเวลา 20.46 น. แต่ไม่ได้สังเกตว่ามายังไงเดินมา มีคนมาส่ง หรือขับรถมาเอง ตนไม่ทราบ


แต่ในช่วงเช้าทางตนนั้นได้มีการเดินทำความสะอาดกวาดถูภายในรีสอร์ต และเมื่อไปหยุดที่หน้าห้อง 9 ก็คือของชายคนดังกล่าว ทางตนจึงเข้าไปกวาดบริเวณหน้าห้องสักครู่ แต่ทางชายคนดังกล่าว บอกว่า เพิ่งทำความสะอาดตัวเองกว่าจะมีโอกาสมาพักผ่อนแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทางผมจึงบอกไปว่าถ้าอยากพักผ่อนต่อก็รีบจองเพราะว่าเดี๋ยวมีแขกคนอื่นเข้ามาจองต่อ แต่ชายคนนั้นก็เงียบไป แล้วบอกว่าพักผ่อนวันนี้พอแล้วเดี๋ยวจะออกไปที่อื่นแล้ว




และจากนั้นก็เห็นชายคนดังกล่าวมีการคุยโทรศัพท์กับหญิงสาวรายหนึ่ง บริเวณหน้าห้อง โดยมีการพูดคุยกันว่า “ออกมาหาหน่อย เดี๋ยวพาไปดูหนัง” ก่อนที่ในช่วงก่อนเที่ยง ใช่คุณดังกล่าวจะได้มีการเช็กเอาต์และเดินทางออกไปจากรีสอร์ท เส้นทางตอนนั้นไม่ทราบว่าทางชายคนนั้นกล่าวมีใครมารับหรือออกไปเองเพราะไม่ได้สังเกตเนื่องจากในขณะนั้นมีแขกที่เข้าพักจำนวนมาก ส่วนจากการที่ได้ดูภาพของทางทีมข่าวให้ดู ทางชายคนดังกล่าวข้ามีความคล้ายกับรูปของชายที่กำลังขับรถจากกล้องจับความเร็ว ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ว่าชายคนดังกล่าวอาจจะเป็นคนที่คนตายมารับก็เป็นได้


โดยจากการสอบถามพนักงานรีสอร์ต ที่ชายคนดังกล่าวมาพักในวันที่ 1 และเช็คเอาต์ออกในวันที่ 2 ว่าชื่ออะไร ซึ่งทางพนักงานรีสอร์ตจึงให้ข้อมูลส่วนตัวชายคนดังกล่าวมาให้ ซึ่งเป็นข้อมูลจากใบขับขี่ของเจ้าตัว โดยชายคนดังกล่าวคือนายอนุวัฒน์ ซึ่งจากการสังเกตใบขับขี่ของนายอนุวัฒน์ พบว่ามีการออกที่จังหวัดประจวบฯ




ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลกับน้องครีม ผู้ตาย ตรงที่น้องครีมบอกกับเพื่อนร่วมงานว่าตนเองจะไปเอาที่ จ.ประจวบฯ แต่ทั้งนี้ยังไม่ยืนยันว่าชายคนดังกล่าว เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ เพราะจากการสันนิษฐานเชื่อว่าไทม์ไลน์ของการเช็กเอาต์ของนายอนุวัฒน์ กับช่วงที่น้องครีม ผู้ตาย ขับรถกระบะเข้าไปในซอย 3 แยกวัดสว่างอารมณ์นั้น มีความสอดคล้องเรื่องของเวลาแต่เพียงเท่านั้น


และถัดมาทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังร้านนวดที่ทำงานของน้องครีม ผู้ตายอีกครั้ง และได้พบกับนางกบ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพนักงานร้านนวด ร้านเดียวกับน้องครีม ผู้ตาย ซึ่งจากการสอบถามจึงทราบว่านางกบ จึงทราบว่านางกกนั้นคือสาวปริศนา ที่เดินทางไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อกับน้องครีม ผู้ตาย ดังนั้นทีมข่าวช่อง 8 จึงได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับนางกบ โดยนางกบเล่าว่า ตนเองคือคนที่ไปซื้อของกับน้องครีม ผู้ตาย ซึ่งในวันนั้นช่วงเช้าตนเองและผู้ตาย ได้มีการขับรถหาหอพักใหม่กัน ซึ่งในตอนแรกตนเองและผู้ตาย พักอาศัยอยู่ที่ร้านนวดที่ทำงาน แต่อยากขยับขยายพื้นที่จึงหาหอใหม่กัน


และเมื่อหาดกันไปกันมาก็ยังไม่พอใจจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปที่ร้านนวดที่ทำงาน แต่ระหว่างทางเจอร้านสะดวกซื้อ จึงแวะเข้าไปซื้อของกินของใช้ จากนั้นเมื่อซื้อของกันเสร็จ ก็เดินทางกลับเข้าร้านนวดที่ทำงาน และเมื่อมาถึงทางน้องครีม ผู้ตาย ก็เลยบอกกับตนว่า “เดี๋ยวช่วงเที่ยงจะขับรถไปเอารถที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นะ”




ตนก็ถามว่า “ไปกับใครจะขับไปคนเดียวเหรอมันอันตราย” น้องครีม ผู้ตาย จึงบอกว่า “จะไปเอารถกับญาติ” และไม่ได้ยินเช่นนี้ตนผู้ซึ่งไม่ชอบก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของใคร จึงไม่ถามต่อเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของน้องครีม ผู้ตาย จากนั้นในช่วงเกือบเที่ยง น้องครีม ผู้ตายก็ได้ขับรถออกไปจากร้าน และประมาณ 5 ถึง 10 นาที น้องครีม ผู้ตาย ก็ได้ขับรถผ่านหน้าร้านโดยมีการเปิดกระจกและมีการโบกมือบ๊ายบายให้ตน ก่อนที่จะสังเกตได้ว่า มีชายคนหนึ่งรูปร่างท้วมมีการไว้หนวดเครา นั่งอยู่ข้างข้างน้องครีม ผู้ตายด้วย


และจากนั้นน้องครีม ผู้ตาย ก็หายไปเลยและไม่มีใครสามารถติดต่อได้ ซึ่งทางร้านนวดเองก็เป็นห่วงจึงได้มีการติดต่อไปหาน้องครีม ผู้ตาย แต่ก็ไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลย ก่อนที่จะมาทราบข่าวว่าพบเป็นศพแล้วก็รู้สึกตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากเพราะไม่คิดเลยว่าน้องครีม ผู้ตายจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ในชีวิต


ส่วนในเรื่องของความสัมพันธ์ของน้องครีม ผู้ตาย กับบุคคลต่าง ๆ ตอนนั้นก็ไม่ทราบข้อมูลหรือรายละเอียดอะไรเลย เพราะเรื่องส่วนตัวของคนอื่นต้นนั้นไม่อยากยุ่ง สุดท้ายก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการสืบสวนสอบสวนคดีของน้องครีม ผู้ตายอยู่นั้น เร่งตามตัวผู้ก่อเหตุและนำตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ววันนี้ เพราะเชื่อว่าทุกคนที่รู้จักน้องครีม ผู้ตาย คงรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องครีม ผู้ตายแบบนี้




ขณะที่เมื่อช่วงเช้า ครอบครัว ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อทำพิธีเชิญวิญญาณของผู้เสียชีวิต กลับไปยังบ้านเกิดในจังหวัดสุโขทัย ระหว่างทำพิธีเชิญวิญญาณ น้องครีม โดยแม่ได้เดินกอดรูปลูกสาวแล้วเดินมายังจุดทิ้งศพเมื่อ เห็นจุดทิ้งศพแม่ก็เริ่มร้องไห้ออกมา พร้อมกับบอกว่ากลับบ้านกันนะลูก


หลังจากเริ่มมีการจุดธูปปักลงดิน ญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินมาแล้วทำท่าอุ้ม เปรียบเสมือนการอุ้มร่างของน้อง กลับบ้าน หลังจากนั้น แม่ได้ร้องไห้ออกมาแทบขาดใจ และเป็นลมเดินไม่ไหว จนญาติของทางครอบครัวต้องช่วยกันอุ้มไปที่รถเพื่อสงบสติอารมณ์


น.ส.พรพรรณ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวทำงานโรงงาน ก่อนลาออกไปทำงานฟาร์มหมูที่ จ.พิจิตร จากนั้นไปอยู่ที่ภูเก็ตโดยไม่ทราบว่าทำงานอะไร ก่อนพบศพเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ลูกสาวโทร. มาบอกว่าได้ทะเลาะกับนายเค ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม โดยนายเคได้ทวงรถกระบะ ตนจึงบอกลูกว่าให้ขับรถไปจอดที่สถานีตำรวจที่ใกล้เคียง และให้นายเคมารับรถเอง เนื่องจากเป็นห่วงลูกกลัวจะถูกนายเคทำร้าย ลูกสาวจึงได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวออกจาก จ.ภูเก็ต จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้อีกเลย กระทั่งได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบศพ และส่งรูปให้ดูจึงแน่ใจว่าเป็นบุตรสาวของตนจริง ตนเชื่อว่าต้องเป็นการฆาตกรรม จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด




ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จากโรงงานแห่งหนึ่ง บริเวณริมถนนเพชรเกษมขาออก ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร บันทึกภาพรถต้องสงสัย เป็นรถกะบะสีเทาดำ ขับมาด้วยความเร็ว แต่เมื่อมาถึงหน้าโรงงานดังกล่าวได้มีการเบรคและชะลอ จนกระทั่งไปจอดบริเวณจุดพบศพ ซึ่งเป็นป่าทืบ เมื่อเวลา 03.51 น. จึงคาดว่าน่าจะเป็นช่วงนำร่างผู้ตายมาทิ้งไว้ ก่อนจะขับหลบหนีไป


ทีมข่าวได้สำรวจจุดเกิดเหตุ พบศพน้องครีมที่ถูกฆาตกรรมปริศนาและนำมาทิ้งบริเวณป่าช่วงหลักกิโลเมตรที่ 114 ถนนเพชรเกษม พบว่าด้านในเป็นลานป่ากว้างขนาดใหญ่ สามารถขับรถเข้าไปได้โดยทีมข่าวจำลองเหตุการณ์ ลองขับรถเข้าไปภายในจุดทิ้งศพ พบว่า สามารถเลี้ยวเข้าไปได้อย่างง่ายดายและทางเป็นดินลูกรังขับเข้าไปจะเจอลานกว้างขนาดใหญ่โดย คาดว่าคนร้ายจะจอดรถที่ร้านบริเวณจุดนี้ จากนั้นก็อุ้มร่างของน้องครีมทิ้ง บริเวณโพรงหญ้าติด ฝั่งติดกับถนนเพชรเกษมโดยสามารถมองเห็นรถวิ่งผ่านมา




ขณะที่จุดพบศพ พบว่า แม้จะนำร่างของน้องออกไปแล้ว แต่ด้วยสภาพศพที่ถูกทิ้งไว้มาหลายวันบนกองหญ้า ทำให้กองหญ้ายังคงเป็นรูปร่างน้องครีมนอนเสียชีวิต ในสภาพกลางขายกแขนขึ้น และมีหนอนเริ่มไช ตามหญ้า จุดที่ทิ้งศพเพราะมีคราบน้ำเหลืองเลือดเลอะอยู่บริเวณนี้ และเป็นที่น่าแปลกใจว่าจุดที่พบศพนั้น อยู่ติดกับถนนเพชรเกษมสามารถมองเห็นรถวิ่งผ่านมาได้แต่ไม่มีใครเข้ามาบริเวณป่า หญ้านี้


ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถาม นางสาวรัติกาล อายุ 33 ปี แม่ค้าขายที่ปัดน้ำฝน ซึ่งเปิดร้านอยู่บริเวณทางเข้าป่าหญ้าที่ทิ้งศพน้องครีม เผยว่า วันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนเองขายของอยู่แล้วมีอาการจะไปทำธุระส่วนตัวในป่า ปกติก็เดินไปไม่ลึกมากแต่วันที่พบศพมีอะไรไม่รู้ดลบันดาลใจให้เดินเข้าไปในป่าลึก เมื่อเดินไปถึงก็เห็นร่างของผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในพงหญ้า ตอนนั้นไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ เพราะตกใจกลัว วิ่งออกจากจุดเกิดเหตุจนล้มไปบอกพี่สาวให้มาช่วยดูว่าใช่ร่างของมนุษย์หรือไม่




จนกระทั่งพี่สาวมาก็พบว่าเป็นร่างมนุษย์จริงผู้หญิงเสียชีวิตนอนอยู่ในสภาพมีหนอนไชตามร่างกาย และมีคราบเลือดคราบน้ำเหลือง ไหลลงพงหญ้าจำนวนมาก จากนั้นก็โทรแจ้งตำรวจ โดยส่วนตัวคิดว่าคนร้ายใจร้ายมากที่ทำแบบนี้ส่วนการก่อเหตุ คาดว่าคงขับรถเข้ามาถึงจุดเกิดเหตุแล้วจับร่างของน้องโยนลงเพราะสภาพศพ แขนขากลางไม่ได้นอนราบแบบเรียบร้อยหรือมีการจัดเตรียมการจัดจับโยนเพื่อให้พ้นตัว


ส่วนป่าหญ้า ที่เกิดเหตุนี้ปกติหากไม่ใช่คนในพื้นที่จะไม่มีใครรู้ว่าขับมาด้านในจะเป็นลานดิน และเป็นป่าข้างใน นอกจากคนในพื้นที่ ซึ่งกรณีนี้คาดว่าหากไม่ใช่คนในพื้นที่คงขับรถเข้ามาดูลาดเลาแล้วนำศพทิ้ง แล้วก็ออกไปทันทีซึ่งพฤติกรรมโหดร้ายใจร้ายกับน้องมากสงสารพ่อแม่ และตัวน้องครีม อยากขอให้ตำรวจจับกุมตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เมื่อถามถึงชายต้องสงสัยที่ขับรถผ่านกล้องวงจรปิดลักษณะคล้ายมีหนวด นางสาวรัตติกาล ระบุว่า ไม่เคยเห็นชายคนนี้มาก่อนและตอนกลางวันก็ไม่มีใครแปลกหน้าเข้ามาบริเวณป่าแห่งนี้ที่ผิดสังเกต


ทีมข่าวลงพื้นที่ฟาร์มหมูแห่งหนึ่ง ใน อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร สอบถามผู้จัดการฟาร์มหมูดังกล่าว บอกว่า รู้จักนายเคและน้องครีม เพราะทั้งคู่ทำงานอยู่ที่นี่ โดยฝ่ายชายเป็นคนดูแลฟาร์มหมู โซน 1 ซึ่งตนก็เห็นนายเคทำงานอยู่ ส่วนน้องครีม ทำงานเป็นแม่บ้าน มีหน้าที่ทำและส่งอาหารให้กับคนในฟาร์ม เพิ่งรู้ข่าวมาว่าทั้งคู่เลิกกัน จากนั้นน้องครีมก็ลาออกไปเมื่อ 2 เดือนก่อน ส่วนรายละเอียดเรื่องส่วนตัว ตนเองก็ไม่รู้อะไรมาก แต่ก็ยืนยันว่า นายเค ตอนนี้ก็ยังคงอยู่ในฟาร์มหมู ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. ถึงวันนี้นายเคก็ยังไม่ได้ออกไปไหน ส่วนเดือน พ.ค. นายเคได้ลาขอไปข้างนอกกับเพื่อน 1 วัน (จำวันไม่ได้) ทีมข่าวได้ส่งรูปคนที่อยู่ในรถกระบะกับน้องครีม ให้ผู้จัดการฟาร์มดู เขาบอกว่า ไม่เคยเห็นคนดังกล่าวเลย


ผู้จัดการฟาร์ม บอกอีกว่า ช่วงเช้าถึงเย็นนายเคทำงานรับโทรศัพท์ไม่ได้ เพราะเป็นกฎของฟาร์มจะติดต่อได้อีกครั้งช่วงเย็นวันนี้ พร้อมรับปากว่าจะประสานให้ โดยยังยืนยันว่าช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 2-7 มิ.ย. นายเค อยู่ในฟาร์มหมูแน่นอน ทีมข่าวแจ้งว่า น้องครีมได้เสียชีวิตแล้ว ผู้จัดการคนดังกล่าวก็ตกใจ และบอกว่าเพิ่งทราบจากทีมข่าวว่าน้องครีมเสียชีวิต


เบื้องต้น นายเค ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ตนไม่มีเบอร์พนักงาน ต้องรอเจอตัวและขอเบอร์จากนายเคก่อน เพราะตนเองก็อยู่คนละส่วนงาน โดยตอนนี้นายเคเริ่มมีอาการเครียดมาก หลังรู้ว่าน้องครีม อดีตแฟนสาว เสียชีวิตลง ซึ่งเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ ขอให้การกับตำรวจก่อน


ด้านนายพล (นามสมมติ) และ นายคิง (นามสมมติ) รปภ. ด่านหน้าประจำฟาร์มหมู ซึ่งทางทีมข่าวได้ให้ดูรูป นายเค และ น.ส.ครีม รปภ.ทั้งสองก็จำได้ และบอกว่าทั้งคู่ทำงานอยู่ที่ฟาร์ม โดย รปภ. ทั้งสองคนยืนยันว่า นายเค ยังคงอยู่ในฟาร์มหมู ไม่ได้ออกไปไหน เพราะคนที่ผ่านเข้าออกฟาร์ม ต้องขออนุญาตเข้าและออกเพียงประตูที่พวกตนเฝ้าอยู่ที่เดียวเท่านั้น เพราะเป็นฟาร์มปิด ปลอดโรค ซึ่งในบันทึกการเข้าออกในเดือนนี้ มิ.ย. ของคนในฟาร์ม ไม่มีมีชื่อนายเค ออกจากฟาร์มเลย




ล่าสุดทีมข่าวได้รับภาพข้อความที่ นายเค อดีตแฟนของน้องครีม ส่งมาหาแม่ของน้องครีม ซึ่งเป็นภาพพิกัดรถกระบะที่น้องครีมขับมาปรากฏอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ในวันที่ 4 มิ.ย. 2567 โดยแม่ของน้องครีมได้ขอให้นายเคเช็กพิกัดรถคันดังกล่าวให้ เนื่องจากเป็นห่วงลูก หลังจากติดต่อไม่ได้หลายวัน จึงอยากรู้ว่าตอนนี้รถที่ลูกนั่งมาอยู่ที่ไหน

 

ช่อง 8 เปิดหลักฐานที่แรก วงจรปิดแกะรอยชายปริศนาฆ่าน้องครีม