วันนี้ (10 มิ.ย. 67) เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวช่องแปดลงพื้นที่ ไปยัง บริเวณใต้สะพานข้ามแยกถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี เพื่อพบ นางสาวปริศนา หรือน้องจุ๊บแจง อายุ 34 ปี สาวเร่ร่อนหน้าตาดี ที่กำลังโด่งดังในโซเชียลในขณะนี้ แต่ไปถึงไม่พบเจ้าตัวทราบภายหลัง เดินทางไปถ่ายบัตรประชาชน พบเพียงที่นอน หมอนผ้าห่ม จำพวกของใช้ส่วนตัว เสื้อผ้า กล่องลังโฟมใส่ของ และ อาหารเครื่องดื่ม เช่น น้ำอัดลม น้ำเปล่า ข้าวกล่อง 2 กล่อง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ น้ำเกลือขวดเล็กจำนวนหลายขวดตกอยู่ด้วย

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พบกับ นางสาวปริศนา หรือ จุ๊บแจง ซึ่งเดินกลับมายังจุดที่พักใต้สะพานพอดี ทีมข่าวจึงได้พยายามพูดคุยด้วย โดยพบว่าจุ๊บแจง พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง จะพูดจาคล้ายกับภาษาอังกฤษแต่ไม่ใช่ ไม่สามารถจับใจความได้

 

ทีมข่าวจึงพยายามสอบถามว่าจุ๊บแจง มีครอบครัวหรือไม่ เธอตอบว่า พ่อแม่ตายหมดแล้ว อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีสามี ไม่มีใคร บ้านอยู่ที่ต่างประเทศ มาอยู่ใต้สะพานนี้ได้ 2 อาทิตย์ อยู่แล้วมีความสุขดี

 

ทีมข่าวจึงถามต่อว่าจำเพื่อนคนไหนได้ไหม จุ๊บแจงตอบว่า ต้องเห็นหน้าถึงจะจำได้

 

ต่อมาในขณะที่กำลังนั่งรอเจ้าหน้าที่พม. มาหาจุ๊บแจง ได้มีเพื่อนเก่าของจุ๊บแจง เดินทางมาหาที่นี่ โดยคุณแก้ม เพื่อนของจุ๊บแจง หลังจากได้พบกันก็มีการพูดกับทางจุ๊บแจงว่า “เป็นยังไงบ้าง จำกันได้ไหม ไปรักษาตัวเนอะ จะได้หาย ไปเถอะนะ โอเคไหม” ซึ่งจุ๊บแจง ก็ตอบเป็นภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่อง

 

จากนั้นจุ๊บแจงได้ขอบุหรี่จากคนแถวนั้น เพราะรู้สึกเครียด ก่อนที่จะได้บุหรี่มานั่งดูดรอเจ้าหน้าที่ พม.มา

 

ทีมข่าวจึงเข้าพูดคุยกับคุณแก้ม อดีตเพื่อนของจุ๊บแจง เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองรู้จักกับจุ๊บแจงมานานแล้ว เนื่องจากเขาเป็นเพื่อนสนิทของเพื่อนตนอีกที โดยตอนนี้เพื่อนตนคนนั้นไปอยู่ต่างประเทศ ตนเห็นข่าวจึงมาดูจุ๊บแจงให้ เพราะตนเห็นที่เขาลงในเฟสกัน ตนรู้สึกสงสารและเป็นห่วงความปลอดภัยของจุ๊บแจง อยากพาเขาไปบำบัดไปอยู่ที่อื่น เพราะหากอยู่ตรงนี้ต่อไปเขาก็จะต้องเสพยาเหมือนเดิม และกลัวเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

 

ส่วนครอบครัวเขาเท่าที่ตนรู้คือพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว แต่เขามีแฟน ซึ่งเป็นคนที่พาเขามาติดยาแบบนี้ ชื่อนายต้น

 

จากนั้นคุณแก้มได้มีการต่อสายถึงเพื่อนสนิทจุ๊บแจงที่อยู่ต่างประเทศ ให้ทั้งคู่ได้คุยกัน แต่ก็คุยไม่รู้เรื่องเพราะจุ๊บแจงพูดภาษาอะไรไม่รู้

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่พม. ได้ลงพื้นที่มาหาจุ๊บแจง โดยทีมข่าวสังเกตเห็นว่า จุ๊บแจง มีท่าทีไม่พอใจ ชักสีหน้า และไม่ค่อยอยากคุยกับเจ้าหน้าที่พม. เวลาเจ้าหน้าที่ถามอะไรก็จะตอบเป็นภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่อง ก่อนที่เธอจะรีบลุกหนีไป ยกมือโบกมือลาให้ทีมข่าว และเจ้าหน้าที่พม. ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในซอยถนน ซีเอสที

 

จากนั้นทีมข่าวจึงได้รีบวิ่งตามจุ๊บแจงเข้าไปในซอย พอเข้าไปได้สักระยะหนึ่งจุ๊บแจงก็หยุดวิ่ง ก่อนจะพูดภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่องด้วยท่าทีโมโหอะไรสักอย่าง ทีมข่าวจึงพยายามพูดให้สงบลง ก่อนจะพากลับไปด้านหน้าปากซอย

 

จากนั้นจึงได้มีการพูดคุยให้จุ๊บแจงสงบลง โดยทีมข่าวได้มีการนำลิปสติกมาทาให้จุ๊บแจง เพื่อให้อารมณ์ดีขึ้น โดยระหว่างนั้นตำรวจสน.พญาไท ก็ได้เดินทางมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่พม.ว่าจะดำเนินการอย่างไรกันต่อ

 

จากนั้นจึงได้นำจุ๊บแจงขึ้นรถพม. พร้อมคุณแก้ม เพื่อไปยังสน.พญาไท ก่อนที่จะนำตัวจุ๊บแจงไปตรวจสุขภาพจิตต่อไป

 

ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายพงพันธ์ อายุ 47 ปี เพื่อนชายเร่ร่อน ของจุ๊บแจง กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ใต้สะพานลอย แห่งนี้ ด้วยกัน 3 คน มีจุ๊บแจงและสามีของน้อง ชื่อว่านายต้น ซึ่งเดิมก่อนรู้จักกันนั้น ตนเองไปซื้อสุรา และได้พบกับ น้องจุ๊บแจงแถวๆใกล้ที่พัก ย่านอินทราคอนโดมิเนียม เห็นน้องยืนอยู่ท่าทางเหมือนคนสติไม่ดี จึงได้มีการชักชวนดื่มสุรา หลังจากนั้นจุ๊บแจงจึงตามมาอยู่ใต้สะพานลอย บริเวณเดียวกันกับตน มาเป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยตัวจุ๊บแจงเองก็มีสามีอยู่แล้ว ชื่อว่านายต้น ดังกล่าว นายต้นก็มาๆไปๆ โดยตนจะให้ของเก่าที่เก็บมาได้ให้จุ๊บแจงไปขายแลกเป็นเงิน พร้อมกล่าวอีกว่าตนทราบเพียงว่าจุ๊บแจงเป็นคนสติไม่ดี ชอบดื่มสุรา และเสพยา

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปพบกับนางสาวต้า น้องสะใภ้ของจุ๊บแจง เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตัวของจุ๊บแจง มีอาการหลอนๆ แบบนี้มานานแล้ว เนื่องจากเล่นยาเสพติด และดื่มเหล้าหนักมาก ตั้งแต่ตอนท้อง จนคลอดลูกมาก็เล่นอยู่ ตัวของพี่ชายตน(นายต้น) ก็ไม่ได้สนใจจะพาไปบำบัด แม่ตนก็พยายามตักเตือน เขาก็ไม่ฟัง ซึ่งตนเองและแม่ไม่สามารถเป็นผู้ปกครองเขา จึงทำไรไม่ได้ มีแค่เพียงพี่ชายคนเท่านั้นซึ่งเป็นแฟน สามารถบอกเขาให้ไปบำบัดได้ แต่พี่ตนก็ไม่ทำ

 

ทำให้ภาระต้องมาตกอยู่ที่ตนกับแม่ ลูกของพี่ชายตนกับจุ๊บแจง ตนกับแม่ก็ต้องเป็นคนเลี้ยง หาข้าวให้กิน พาไปโรงเรียนพาไปหาหมอ เพราะพี่ชายตนกับจุ๊บแจงทั้งคู่ไม่ทำงานอะไรเลย มานอนอยู่บ้านก็นอนเปิดแอร์เฉยๆ ทั้งวัน โดยที่ตนกับแม่ต้องชายของทำงานหาเงินมาเลี้ยงพวกเขา ซึ่งลูกสาวเขาอายุ 4 ขวบ ก็ต้องไปรักษาอาการทางจิตเวช เพราะจิตใจไม่ค่อยดีจากสภาพแวดล้อมที่เห็นพ่อแม่เขาเสพยา กินเหล้าแบบนี้

 

ตัวของพี่ชายตน กับจุ๊บแจง คบหากันมาหลายสิบยี่สิบปีแล้ว พี่ชายตนติดคุกบ่อยเพราะเรื่องยาเสพติด พอช่วงพี่ชายตนออกจากคุกมาช่วงปี 2562-2563 พี่ตนออกคุกมาก็คบหากับจุ๊บแจงต่อ และท้องลูก และมาอยู่ด้วยกันที่บ้านแม่ตนนี้ และมาเกาะแม่ตนกิน แถมขโมยของอีก

 

ตนพยายามจะติดต่อหาคนหรือหน่วยงานให้มารับเขาทั้งคู่ไปบำบัด แต่ก็ไม่มีใครตอบกลับมา ตนจะไล่เขาออกจากบ้านก็ไม่ได้ เพราะแม่ตนรักพี่ชายตนมาก และพี่ตนก็มีจุ๊บแจงอยู่ วันดีคืนดีจุ๊บแจงลุกขึ้นมารำกลางดึกให้ลูกดูแบบนี้ มันน่ากลัว ตนก็เป็นห่วงทั้งแม่และหลาน

 

ล่าสุด 4-5 เดือนที่แล้ว เขาขโมยเงินแม่ไป 2 แสนบาท แม่ก็บอกให้เขาเอาเงินมาคืน แต่เขาไม่คืน ก่อนที่ทั้งคู่จะเก็บของออกจากบ้านไป แต่ช่วง 3 เดือนแรกที่ออกไปยังมีแวะๆกลับมาบ้านบ้าง แอบปีนบันไดหนีไฟขึ้นห้องไป

 

พอตนเห็นข่าววันนี้ ตนก็รู้สึกกังวลเพราะมีบางคอนเมนต์ในโซเชียลบอกว่าแม่ตนไปตีเขา ไปตีลูกสะใภ้ ไม่เป็นความจริงเลย แม่ตนไม่เคยทำแบบนั้น มีแต่พี่ชายตนกับจุ๊บแจงที่เขามาขโมยของ มาตีแม่ วันดีคืนดีถือมืดเดินไปทั่ว และยังมีการมาขอเงินแม่ตนไป 4000 บอกว่าจะไปบำบัดแต่ก็ไม่บำบัด

 

จริงๆตนและแม่เคยส่งตัวพี่ชายไปบำบัดแล้ว แต่เขาหนีออกจากโรงพยาบาลกลับมาหาลูกพร้อมเข็มน้ำเกลือเลย ตนมองว่าไม่ควร

 

ส่วนวันนี้ที่หน่วยงานมาช่วยเหลือนำตัวเขาไปบำบัด ตนก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะหนีออกมาหรือไม่ แต่หากทำได้จริงก็ถือเป็นเรื่องดี ลูกเขาจะได้จำเขาได้ ตนเองกลัวลูกเขาโตมาแล้วมาถาม จะเป็นปมในใจเขา

ชะตาชีวิตเล่นตลก! เปิดใจ "จุ๊บแจง" จาก...สาวฮอต สู่...คนเร่ร่อน