จากกรณีวันนี้ (11 มิ.ย. 2567) สองสามีภรรยา เดินทางมาขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกพระที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ หลอกลวงให้มีเพศสัมพันธ์ อ้างว่าเป็นการต่อดวงชะตาชีวิตให้พระรูปนั้น เป็นเวลานานเกือบ 2 ปี และยังมีการหลอกลวงให้มีเซ็กซ์หมู่กับลูกศิษย์คนอื่นด้วย

โดย นางพร (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ได้เล่าว่า รู้จักกับพระองค์ดังกล่าว ที่อาศัยอยู่ในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ แต่มักมีความเชื่อแปลก ๆ เกี่ยวกับลัทธิการถวายตัว หากต้องการหลุดพ้น อ้างว่าร่างกายไม่ใช่ของตนก็ต้องถวายให้ โดยถูกกระทำทางเพศทั้งสามีและภรรยา โดยตนและสามีมีความศรัทธากับพระรูปหนึ่งในสำนักสงฆ์ดังกล่าว ซึ่งใช้กลอุบาย อ้างว่าอดีตชาติของตนและพระคู่กรณีมีความผูกพันเป็นพ่อลูกกัน หากอยากเจริญรุ่งเรืองจะต้องทำพิธีกรรม เนื่องจากโดนพ่อเลี้ยงทำของใส่ จะต้องถอนของด้วยความเชื่อและศรัทธาที่ผูกพันกันมาเป็น 10 ปี

ต่อมาพระคู่กรณี ได้ให้ตนและสามีจุดธูปสาบาน ทำพิธีรับพลัง โดยอ้างว่าเป็นพิธีขั้นสูงที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของพิธีกรรมได้ ซึ่งพระคู่กรณีมักกล่างอ้างว่า กำลังจะเสียชีวิตจึงต้องใช้พลังจากตนและสามีเพื่อต่อชีวิต จึงทำให้ทั้งตนและสามีตัดสินใจทำพิธีกรรม พร้อมในช่วงทำพิธีพระดังกล่าวจะสำทับข่มขู่ ด้วยคำสาบาน ซึ่งตนยอมรับว่า ขณะนั้นมีอาการมึนงงจึงหมดข้อสงสัยในพิธีกรรมประหลาด

ในระหว่างทำพิธี จะให้ตนหลับตาตลอด จากนั้นมีการล่วงละเมิดทางเพศ โดยพระคู่กรณีจะหว่านล้อมตลอดเวลาให้ ตนและสามีอยู่เฉย ๆ อย่าขัดขืนเพราะจะเป็นการขัดคำสาบาน ชีวิตจะมีความลำบาก โดยมีการถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ ทำให้ตนและสามีหวาดกลัว และคิดว่าการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เนื่องจากในระหว่างทำพิธีมีการให้รับประทานยาบางชนิดทำให้ตนรู้สึกมึนงงไม่รู้สติ

นอกจากพระคู่กรณีแล้ว ยังมีกลุ่มลูกศิษย์ได้มาร่วมทำพิธีด้วยในบางครั้ง ลักษณะเหมือนการรุมโทรม ชาย 4 หญิง 1 โดยอ้างเพียงว่าเพื่อให้ตนบรรลุถึงขั้นปลดปล่อย ไม่ห่วงร่างกายและจิตใจของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นก็เชื่อเพราะหลังจากทำพิธี พระคู่กรณีอ้างว่า ได้ไปพบแพทย์และนำผลการตรวจร่างกายมาการันตี ว่ามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นจริง ๆ หลังจากได้ทำพิธีต่อชีวิต โดยมีตนกับสามีเป็นตัวช่วย

ทั้งนี้เหตุเกิดเมื่อปลายปี 2564 หลังเกิดเรื่องตนและสามีได้ถอนตัวออกมา เพราะคิดว่านี่คงไม่ใช่การหลุดพ้นทุกข์ นั่งมองหน้ากัน รู้สึกมันไม่ใช่จริง ๆ หลังจากออกมา ทั้งตนและสามี มีอาการทางจิต ถึงขั้นต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อบำบัดรักษาตลอด 2 ปี ตอนนี้หายเป็นปกติแล้ว จึงตัดสินใจออกมาร้องสายใหม่ต้องรอด ว่ามีลัทธิดังกล่าวที่ใช้ความเชื่อผิด ๆ มาหลอกลวง

ทางด้าน นายเอก (นามสมมติ) ผู้เสียหายอีกคน เล่าว่า พระคู่กรณีสามารถล่วงละเมิดทางเพศได้ทั้งหญิงและชาย และกลุ่มลูกศิษย์ก็มีการล่วงละเมิดทางเพศแบบภายนอกกับตนด้วย ส่วนการถ่ายคลิปอ้างว่า เพื่อเก็บไว้ถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพเจ้าที่พระดังกล่าว เคารพบูชา ส่วนเหตุผลที่ตนยอมให้แฟนมีอะไรกับพระ เนื่องจากเห็นว่าพระดังกล่าว มีความผูกพันกับแฟนในอดีตเป็นพ่อลูกกัน

ล่าสุด ทางเพจ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ออกหนังสือ ถึงการสึกพระองค์ดังกล่าว โดยมีเนื้อหาว่า “ตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเมื่อวันอังคารที่ 11 มิ.ย. 2567 กรณี " สาวร้อง ถูกพระเจ้าสำนักชื่อดังจังหวัดเพชรบูรณ์ อ้างจะสิ้นอายุขัย ให้ลูกศิษย์สาวสวยมาต่ออายุด้วยการสมสู่ทำพิธีต่อหน้าลูกศิษย์และสามีแลกหลุดพ้นบ่วงกรรม " เบื้องต้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ประสานสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์แล้ว ได้รับแจ้งว่า ได้นำเรียนเจ้าคณะจังหวัด (ม) เพื่อโปรดทราบ และพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งการให้เจ้าคณะปกครองสงฆ์ในพื้นที่ลงไปสถานที่ที่ปรากฎเป็นข่าว ซึ่งเป็นที่พักสงฆ์แห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ เบื้องต้นปรากฏว่าไม่พบบุคคลที่ปรากฏในข่าว พบแต่เพียงพระลูกวัด 1 รูป สอบถามพระลูกวัดบอกว่าท่านออกจากที่พักสงฆ์ไปตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. 2567 ไม่ทราบว่าเดินทางไปจังหวัดใดและตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้

ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. สำนักงานพระพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้รับแจ้งจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งได้ดำเนินการร่วมกับทางคณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ว่า พระสงฆ์รูปที่ปรากฏเป็นข่าว ได้สำนึกผิดและทำการลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความมัวหมอง และความเสื่อมเสียต่อภาพลักณ์ของคณะสงฆ์ โดยมีเจ้าคณะปกครองสงฆ์ในพื้นที่ได้ทำพิธีลาสิกขาให้ และคณะสงฆ์จะมีคำสั่งให้ปิดที่พักสงฆ์ดังกล่าวต่อไป”

ต่อมาทีมข่าว ได้เดินมายังสำนักสงฆ์ดังกล่าว ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมพยายามขอเข้าพูดคุยกับ พระอาจารย์ดังกล่าว แต่กลับไม่มีผู้ใดออกมา นอกจากน้องหมา 2 ตัว โดยเมื่อมองเข้าไปจะ พบว่า ภายในมีพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์ที่สร้างให้คนกราบไหว้ แต่มองเข้าไปจะพบเป็นห้องพักเปิดอยู่ แต่ไม่มีผู้ใดออกมา จากการที่ได้ยืนมองจากประตูรัวของสำนักสงฆ์

ทีมข่าวได้คุยกับ นางเค ชาวบ้านข้างวัด เผยว่า ตนเห็นพระอาจารย์คนดังกล่าว มาตั้งแต่เด็ก ๆ นับถือกันมา มาสร้างสถานปฏิบัติธรรมเกือบ 20 ปีแล้ว ไม่เคยออกมาบิณฑบาตร จะมีแม่บ้านทำอาหารให้ ตนไม่เคยเข้าไปสถานปฏิบัติธรรม แต่มักเจอตอนขับรถไฟฟ้าจะไปสวนของแก โดยแกเป็นคนดี ไม่เคยว่าจะมีพฤติกรรมแบบนั้น ท่านยิ้มแย้มเสมอเวลาเจอ ท่านอยู่กับพระอีก 2 รูป ส่วนใหญ่ลูกจะมาช่วงเทศกาลต่าง ๆ จะมีเยอะมาก ทั้งไทยและต่างประเทศ แต่ตนอยู่แถวนี้ ไม่เคยเข้าไปสำนักสงฆ์ เลยไม่ทราบว่าในนั้นมีอะไรอยู่บ้าง