จากกรณีพบศพ น้องครีม หญิงสาวอายุ 21 ปี ชาว จ.หนองคาย เสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าบริเวณริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลักกม.ที่ 144 ขาล่องใต้ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ในสภาพร่างเน่าเปื่อย ข้อมือซ้ายสวมนาฬิกาสายสีฟ้าเรือนทอง ที่นิ้วกลางสวมแหวนทอง 1 วง ข้อมือขวาสวมสร้อยลูกปัดหินมงคล และที่หัวไหล่ด้านซ้ายมีรอยสัก ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าจะเป็นคดีฆาตกรรมอำพรางศพ

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่สืบหาความจริงจากญาติผู้เสียชีวิต พร้อมตามหาภาพกล้องวงจรปิด จนพบภาพชาย มีหนวดขับรถคันดังกล่าว ที่ผู้ตายขับมาจากภูเก็ต จนตรวจพบกล้องวงจรปิด ในอีกหลายๆจุด ทำให้สืบทราบได้ว่า ใคร คือ ฆาตกร พร้อมเบาะแสชี้เป้า ทำให้ในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้าย ทำแผน จนตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเพชรบุรีพร้อมด้วยชุดสืบสวนสภ. เขาย้อยสามารถจับกุมตัวนายภานุวัฒน์ อายุ 20ปี หรือนายนุผู้ก่อเหตุฆ่าน้องครีมได้นั้น

 

ล่าสุดวันนี้ตำรวจชุดสืบสวนสามารถควบคุมตัวนายจิรวัฒน์ พร้อมกับรถกระบะของกลาง มาทำบันทึกจับกุมที่ สน.ฉลองกรุง ภายหลังจากการทำบันทึกจับกุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางตำรวจก็ได้มีการส่งตัวนายจิรวัฒน์ พร้อมกับรถกระบะของกลาง มอบให้กับทางพนักงานสอบสวน สภ.เขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ที่เดินทางมาร่วมค้นในวันนี้

 

โดยระหว่างที่ได้มีการคุมตัวนายจิรวัฒน์ ออกมานั้น ทีมข่าวก็ได้สอบถามนายจิรวัฒน์ถึงการซื้อขายรถกระบะ ซึ่งตัวนายจิรวัฒน์ ได้บอกว่า ตนเองไม่ทราบเลยว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถที่นายนุ ผู้ก่อเหตุได้ขโมยมาจากผู้เสียชีวิต เนื่องจากตอนที่ซื้อขายรถกันนั้น นายนุ ได้อ้างว่าเป็นรถของเขาเอง จึงทำให้ตนเองตัดสินใจรับซื้อ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ รวมถึงราคาที่ได้ซื้อขายกันนั้นเจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยใดๆทั้งสิ้น ก่อนจะวิ่งหนีขึ้นรถเพื่อนำตัวกลับไปสอบปากคำที่ สภ. ขาย้อย ต่อไป

 

ล่าสุดทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นสถานที่แรก หลังจากที่นายนุก่อเหตุทิ้งศพน้องครีมในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีเรียบร้อยแล้ว โดยพบว่า ตั้งแต่ช่วงเวลา 08.00 น. นายนุได้ขับรถของน้องครีมจาก จ.เพชรบุรี มาถึง จ.ปทุมธานีด้วยความรวดเร็ว

 

จากนั้น นายนุได้ขับรถกระบะของน้องครีมไปรับกลุ่มเพื่อนอาสา เพื่อเดินทางไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายนุได้จอดรถกระบะของน้องครีมด้านหน้าป้อมอาสาสมัคร และลงจากรถไปทักทายเพื่อนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น /เรียกเพื่อนให้ขึ้นรถอย่างใจเย็น ก่อนจะขับรถออกไปทำบุญที่วัดในเวลา 18.17 น.

 

จากนั้นหลังจากทำบุญกันเสร็จแล้ว ทีมข่าวพบว่า นายนุได้พาเพื่อนทั้งหมดกลับมาส่งที่ป้อมอาสาจุดเดิมในเวลา 11.22 น. และมีการนั่งเล่นภายในป้อมอาสาอย่างไม่รู้สึกกลัวว่าจะถูกตำรวจจับ นายนุใช้เวลาอยู่กับเพื่อนสักพัก จากนั้นเวลา 11.58 น. นายนุจึงได้ชักชวนเพื่อนอีก 2 คน เดินทางไปที่ร้านล้างรถหยอดเหรียญเพื่อล้างรถ หวังจะทำลายหลักฐานให้หมด โดยขับรถออกจากซอยป้อมอาสา และถึงร้านล้างรถในเวลา 12.23 น.

 

ล่าสุดทีมข่าวได้สอบถามเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอู่ของนายจิรวัฒน์ ให้ข้อมูลว่า นายจิรวัฒน์ได้มาเปิดอู่ซ่อมรถที่นี่ได้ประมาณ 1 ปีเศษแล้ว แต่ตนเองก็ไม่ได้รู้อะไรมาก แต่ที่ผ่านมา ตนเองจะเห็นมีคนนำรถยนต์มาจอดไว้ สลับเปลี่ยนกันจำนวนหลายคันต่อวัน

 

ต่อมาทีมข่าวได้นำรูปภาพของนายนุให้กับชาวบ้านดู ชาวบ้านยืนยันว่า ไม่เห็นนายนุ เดินทางเอารถมาขายที่นี่ เพราะไม่คุ้นหน้า หรือ อาจจะมีการขายมาจากที่อื่นแล้ว และนายจิรวัฒน์ขับมาจอดหรือไม่

 

และตนเองก็เพิ่งมาทราบจากนักข่าวว่า อู่แห่งนี้ นำรถของน้องครีมที่เป็นข่าวดังมาจอดทิ้งไว้ที่นี่ ก่อนตำรวจจะตามมาพบ

 

ล่าสุด วันที่ (12 มิ.ย.) เวลา 20.00 น. ทีมข่าวช่องแปด ลงพื้นที่ไปยัง สถานีตำรวจภูธร เขาย้อย จ.เพชรบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเจ จิรวัฒน์ เจ้าของอู่รถ ย่านฉลองกรุง ผู้รับซื้อรถของกลาง พร้อมของกลางเป็นกระบะริโว่สีเทาดำ ทะเบียน3 ฒษ 5699 กทม.โดยถอดแผ่นป้ายทะเบีบน ที่รับซื้อผ่าน จาก นายอนุวัฒน์ หรือ นุ ผู้ก่อเหตุฆ่าน้องครีม อายุ 22 ปี จนเสียชีวิต แล้วนำศพไปทิ้งที่พงหญ้า บริเวณหลักกิโลเมตร 114 เพื่อนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมถึงความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ถึงความเป็นมาของการรับซื้อรถของกลาง และจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับรถเถื่อนหรือไม่

 

ต่อมาหลังจากนายเจ เดินทางมาถึง สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ผู้สื่อข่าวช่องแปดได้พยายามสอบถาม นายเจ จิรวัฒน์ เจ้าของอู่รถ ย่านฉลองกรุง ถึงความเป็นมาการรับซื้อรถของกลางผู้เสียชีวิต และความเกี่ยวข้อง กับนายนุ แต่นายเจก็ได้ปฏิเสธการตอบคำถามกับผู้สื่อข่าว โดยมีสีหน้าที่เรียบเฉย ก่อนจะถูกควบคุมตัวเพื่อนำไปสืบสวนบนชั้น 2 ต่อไป

 

นาย เจ จิรวัฒน์ เจ้าของอู่รถย่านฉลองกรุง ได้เดินออกมาเข้าห้องน้ำ ทีมข่าวได้สอบถามว่ามีความกังวลกับคดีนี้หรือไม่ซึ่งในเจจิรวัฒน์ตอบว่าไม่พร้อมกับสีหน้าเรียบเฉยเดินกลับเข้าไปในห้องสืบสวน

 

พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนแจ้งว่าจะมีการสอบสวนอาจจะถึงช่วงเช้าในวันถัดไป

 

ล่าสุดทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลาประมาณ 14.35 น. วันนี้ โดยจะเห็นว่า หลังจากทั้งวันมานี้ตำรวจได้ประชุมติดตามรถของน้องครีม จนล่าสุดมีเบาะแสว่ารถของน้องได้ไปจอดอยู่ในพื้นที่ซอยเจริญกรุง 54 เขตลาดกระบัง กทม.

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้สนธิกำลังกัน ทั้งตำรวจชุดสืบสวน สภ.เขาย้อน , สภ.เจริญกรุง , และตำรวจชุดสืบสวนตำรวจนครบาล 3 ไปยังพื้นที่เป้าหมาย จนไปพบตัวนายจิรวัฒน์คนรับซื้อรถ แต่เมื่อไปถึงไม่พบรถกระบะของครีม จากนั้นตำรวจได้เค้นถาม นายจิรวัฒน์ กระทั่ง นายจิรวัฒน์จึงได้บอกพิกัดว่ารถกระบะที่รับซื้อมา ในเวลา 16.21 น.

 

จากนั้นจะเห็นว่า ตำรวจชุดสืบสวนได้เดินทางออกจากอู่ไปยังพิกัดที่นายจิรวัฒน์ นำรถไปจอดทิ้งไว้ ห่างกันประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวก็เป็นพื้นที่ดินที่นายจิรวัฒน์ซื้อทิ้งไว้อยู่แล้ว

 

เปิดหลักฐาน ไอ้นุ ซุกบ้านพ่อ ประกาศขายรถขนศพทันที

 

วันนี้ (12 มิ.ย.) ทีมข่าวช่อง8 ลงพื้นที่ตามความคืบหน้า โดยได้เดินทางไปที่พักของพ่อนายอนุวัฒน์ หรือ นุ คนก่อเหตุ ทราบว่า วันที่ 4 มิ.ย. ช่วงเช้า ได้ขับรถมาที่หมู่บ้าน ที่พักของพ่อ

 

โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพ ถนนเข้ามาภายในหมู่บ้านของพ่อ ซอยคลองหลวง27 ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพรถของนายอนุวัฒน์หรือนุขับผ่านกล้อง เลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้าน ช่วงเวลาประมาณ 08.17 น.

 

หลังจากนายอนุวัฒน์ขับรถกระบะของนางสาวครีมคนตาย ขับเข้ามาที่พักของพ่อ ในพื้นที่คลองหลวง ได้ขับผ่านกล้องของรปภ. ซึ่งจับภาพใบหน้าชัดเจน

 

ก่อนที่จะขับรถวนหาที่จอด โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดหลายมุมจับภาพได้

 

และหลังจากได้ที่จอดรถแล้ว ได้มีการดับเครื่องและเปิดประตูลงจากรถ ล็อกรถและเดินเข้าไปหาพ่อ

 

จากนั้นกล้องวงจรปิดจับภาพต่อเวลาประมาณ 12.55 น. ของวันที่ 4 มิ.ย. นายอนุวัฒน์หรือนุเดินออกจากห้องของพ่อ เดินไปที่รถเพื่อที่จะไปเอาสิ่งของบางอย่าง ก่อนจะเปิดประตูรถและขึ้นไปนั่งอยู่บนรถพักใหญ่ และลงจากรถ เวลาประมาณ 13.23น. ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเศษ ล็อกรถ เดินกลับไปที่ห้องพ่อเหมือนเดิม

 

และเวลา 13.44 น. -13.46 น กล้องวงจรปิดจับภาพนายอนุวัฒน์หรือนุเดินไปที่รถกระบะ และยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปบริเวณด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อที่จะนำไปโพสต์ขายรถให้กับเต็นท์เถื่อน , ก่อนจะเดินกลับเข้าไป

 

กล้องวงจรปิดจับภาพต่อ ซึ่งเป็นช่วงเย็น จะเห็นว่านายอนุวัฒน์มีการเปลี่ยนเสื้อจากสีดำเป็นสีเหลือง เดินออกมาจากห้องของพ่อ เวลา 15.48น.

 

เวลา 15.50 น. เดินสำรวจความเรียบร้อยของรถ พร้อมกับไปเก็บเชือกที่อยู่ท้ายกระบะ

 

เวลา 15.55 น. ขับรถออกจากจุดจอดในหมู่บ้าน

 

เวลา 15.56 น. ขับรถออกหมู่บ้านกล้อง รปภ. จับภาพใส่เสื้อเหลืองเห็นใบหน้าชัดเจนตอนขาออก

 

เปิดหลักฐาน ไอ้นุ ขนรถ น้องครีม ไปขายตลาดมืด

และมีกล้องวงจรปิดถนนคลองหลวง 27 จับภาพรถกระบะสีดำของคนตาย ซึ่งมีนายอนุวัฒน์เป็นคนขับ จับภาพได้เวลาประมาณ 15:58 น. เห็นว่านายอนุวัฒน์ขับรถมุ่งหน้าเอาไปขาย ตามพิกัดที่นัดหมายกับคนซื้อเอาไว้

 

นอกจากนี้ ทีมข่าว ได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด เพิ่ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลัง 19:56 น. ตามที่มีสัญญาณ GPS ของรถ ของคนตายซึ่งเป็นรถกระบะสีดำ ไปปรากฏสัญญาณ GPS อยู่แถวเลียบคลองรังสิต-นครนายก ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่มีการซื้อขายรถสำเร็จและมีคนรับซื้อกำลังขับรถนำกลับอู่แถวลาดกระบัง

 

ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดถนนรังสิต-นครนายก จับภาพวันที่ 4 มิ.ย. เวลาประมาณ 19:56 น. ซึ่งเป็นกล้องเรียบคลองรังสิต-นครนายก มุ่งหน้าไปขึ้นทาง ออกลาดกระบัง จับภาพหลังมีการซื้อขายรถเอาไว้ได้

 

ขณะเดียวกันทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดและความเคลื่อนไหวของครอบครัวนายอนุวัฒน์หรือนุ โดยเข้าใจว่าหลังจากในช่วงค่ำของวันที่ 4 มิ.ย. มีการนำรถกระบะสีดำของนางสาวครีมคนตายไปขายแล้ว นายอนุวัฒน์ได้มีการย้อนกลับยืมรถกระบะสีขาวของพ่อ เพื่อที่จะขับรถมุ่งหน้าไปยังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 9 มิ.ย. ไปหาหญิงสาวคนสนิท (ฟ้า) คนใหม่ ก่อนที่จะไปนั่งกินข้าวที่ร้านอาหารและถูกจับในวันดังกล่าว

 

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดวันที่ 9 มิ.ย. พบว่า รถกระบะสีขาวของพ่อนายอนุวัฒน์ ได้มีการขับออกจากหมู่บ้าน เพื่อไปตั้งร้านร้านขายของในตลาดย่านคลองหลวง ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดในหมู่บ้านจับภาพรถกระบะสีขาวขับออกหมู่บ้าน แต่คนขับยังคงเป็นพ่อของนายอนุวัฒน์ ซึ่งไม่ใช่เจ้าตัวขับเอง

 

จากนั้นมีภาพกล้องวงจรปิดถนนคลองหลวง 27 ซึ่งเป็นเส้นทางที่เห็นรถกระบะสีขาวของพ่อนายอนุวัฒน์ ขับรถมุ่งหน้าไปตั้งร้านที่ตลาดเพื่อรอขายของ

 

และในวันเดียวกันนี้ ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านซึ่งเป็นที่พักของพ่อนายอนุวัฒน์ หรือนุ คนก่อเหตุนั้น ปรากฏว่าห้องของพ่อที่อยู่อาศัยกับแม่เลี้ยงของนายอนุวัฒน์ ยังคงปิดเงียบและล็อกกุญแจเอาไว้ โดยทราบข้อมูลจากเพื่อนข้างห้องว่า มีการเดินทางไปติดตามความคืบหน้าทางคดีที่เพชรบุรี และกำลังมีการทำเรื่องในการขอคืนรถกระบะสีขาว ที่ตัวของนายอนุวัฒน์ขับไปกินข้าวแล้วถูกจับ โดยไม่ใช่เป็นรถคันที่ใช้ก่อเหตุ จึงกำลังไปทำเรื่องขอคืนเพื่อใช้ในการทำมาหากินต่อไป

 

จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางไปที่ตลาดย่านคลอง ซึ่งเป็นตลาดตลาดสดตอนเย็น ปกติจะเห็นแผงขายผลไม้ของพ่อและแม่นายอนุวัฒน์ตั้งเปิดร้านอยู่ แต่ปรากฏว่าวันนี้ก็ยังคงปิดร้านไม่ได้มีการเปิด และไม่ได้มีการจ้างลูกน้องมาขายแทนแต่อย่างใด

 

ขณะที่กลุ่มวัยรุ่น ในหมู่บ้านที่พักของพ่อนายอนุวัฒน์ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เคยเห็นนายอนุวัฒน์ขับรถสีดำมาจอด เพียงวันเดียว จากนั้นก็ไม่เห็นอีก มีแต่ยืมรถของพ่อซึ่งมีทั้งรถกระบะสีขาวและมอเตอร์ไซค์ใช้ บางครั้งก็เดินเข้าออก และใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในช่วงกลางวันจะไม่ค่อยเห็น จะเห็นกลางคืนมากกว่า และตัวนายอนุวัฒน์มักจะมานั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างห้อง หลังบุหรี่บุหรี่หมดก็จะเดินกลับเข้าไป

 

ร้องไห้ระงมวัด ส่งวิญญาณ “น้องครีม”

วันนี้ทางครอบครัวน.ส.เบญจรัตน์ หรือน้องครีม อายุ 21 ปี จัดพิธีฌาปนกิจศพเพื่อส่งดวงวิญญาณน้องครีมสู่สวรรค์ ที่วัดมงคลนิมิตร อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย โดยมีญาติของครีมและชาวบ้านมาร่วมส่งวิญญาณจำนวนมาก แต่ไร้เงาของนายเค (นามสมมติ) แฟนเก่าครีม และญาติของนายอนุวัฒน์ หรือ นุ มือฆ่าที่มาร่วมงาน

 

ก่อนพิธีเผาศพนางสาววรรณิษา อายุ 22 ปี ลูกพี่ลูกน้องของครีม อ่านบทกลอนไว้อาลัยหน้าเมรุเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเจ้าตัวทั้งอ่านกลอนไว้อาลัยและร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจ เพราะไม่คิดจะมีวันนี้ ซึ่งในงานแม่กับยายน้องครีมน้ำตาคลอตลอดงาน

 

และเมื่อถึงเวลาพี่จะไปถึงพิธีฌาปนกิจศพโดยการนำร่างของครีมเข้าสู่เตาเผาเมรุ ทางญาติได้ถวายผ้าไตรแด่พระสงฆ์ จากนั้นญาติเคลื่อนโลงศพของครีมเข้าเตาเผาเมรุ ระหว่างที่เคลื่อนโลงศพปรากฏว่า ยายของน้องครีมกรีดร้องขึ้นมาและร้องไห้ออกมาอย่างเสียงดัง หลังสิ้นเสียงยายกรีดร้อง แม่ของครีมก็ร้องไห้ตามและตะโกนชื่อลูกออกมาเสียงดัง แล้วทั้งแม่และยายครีมก็ร้องไห้และตะโกนชื่อครีมโดยร้องไห้ระงมลั่นงานศพ ซึ่งทั้งแม่และยายก็ร้องไห้ด้วยความสะเทือนใจและมีท่าทีคล้ายทำใจไม่ได้และจะเป็นลม ทำให้บรรยากาศค่อนข้างชุลมุนทั้งญาติและชาวบ้านต้องต่างต้องหาแอมโมเนียและยาดมให้ทั้งสอง เป็นการด่วน

 

แล้วจะเห็นบางช่วงบางตอนที่ญาติได้หาแก้วน้ำให้แม่และยายจับ เพื่อที่จะให้กรวดน้ำให้กับน้องครีม ในช่วงที่ทั้งแม่และยายร้องให้อย่างหนักขณะเผาร่างน้องครีม ในส่วนที่ญาติทำแบบนี้เนื่องจากมีพระทักระหว่างทำพิธี ว่าวิญญาณน้องครีมอาฆาตเพราะตายทุกข์ทรมานจึงให้กรวดน้ำให้บ่อยเพื่อส่งผลบุญให้น้อง

 

จากนั้นร่างของน้องครีมก็เข้าสู่เตาเผาเมรุ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของน้องญาติของน้องหรือเป็นคนใกล้ชิดน้อง ต่างหลั่งน้ำตาให้กับเหตุการณ์นี้เพราะไม่คิดว่าเขาจะถูกฆาตกรรมและเสียชีวิต ตอนนี้แม่ก็ด่าฆาตกรว่าทำไมถึงใจร้ายฆ่าน้องครีม และส่วนยายก็บอกหลานเป็นครั้งสุดท้ายว่าให้ขึ้นไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์นะลูก

 

หลังเผาศพน้องครีมนางพรพรรณ อายุ 42 ปี แม่น้องครีม พร้อมให้สัมภาษณ์ทีมข่าว โดยบอกว่า เมื่อวานนี้ตอนที่ดูข่าวซึ่งทางพ่อแม่ของนุและนุ ฝากขอโทษตนเองคิดฆ่าลูกสาวตน ตนไม่เชื่อลมปากของฆาตกร เพราะลูกตนตายไปแล้ว และเขาสังหารลูกตน ตนเชื่อว่าเขาวางแผนมาก่อนฆ่า และต้องการชิงทรัพย์รถแฟนเก่าลูกตน ไม่เกี่ยวหึงหวง

 

มีประเด็นที่ตนติดใจ น้องครีมส่งข้อความไปหาอีกคนแล้วบ่นกับช่างตัดผมว่า “ทำไมยังไม่มา ยังไม่ถึงเหรอ” แล้วที่นุอ้างว่า น้องพูดแทรกขณะแฟนสาวนุโทรมา ถ้าคิดอีกมุม น้องอาจพยายามขอความช่วยเหลือจากปลายสายเพื่อให้รู้ว่าลูกตนอยู่ในรถก็ได้ เพราะไม่มีใครรู้เหตุการณ์ในรถนอกจากลูกสาวคนที่เสียชีวิตไปแล้วกับนุ

 

ส่วนนายเค (นามสมมติ) แฟนเก่าลูกคนไม่ได้ติดต่อตนมาเช่นกัน แม้เมื่อวานตนฝากสื่อไปบอกว่าอยากให้หน่อยใครมาเปิดเคลียร์ใจกับตนว่าไม่มีส่วนร่วมเรื่องนี้ แต่จนถึงเผาร่างลูกสาวตนนายเคยังไม่โทรมาหาตน ยืนยันเจ้าตัวมีเบอร์ตน รวมทั้งไม่มางานศพแฟนเก่าก็คือลูกสาวตน แล้วจะให้ตนคิดยังไง เพราะไทม์ไลน์ที่ลูกบอกจะคืนรถมันตรงกับที่นุรับลูกสาวตนไปฆ่า

 

สุดท้ายตนอยากให้ครอบครัวมือฆ่ามาเยียวยาครอบครัวตน เพราะน้องครีมรักยายมาก ส่งเงินให้ยายทุกเดือน ซึ่งน้องครีมเป็นเสาหลักของครอบครัว ตอนนี้เสาหลักไม่อยู่แล้ว ก็อยากให้มาช่วยดูแลยายแทนน้องครีม ความฝันน้องครีมอยากสร้างบ้านสองหลังที่อยู่ติดกันหลังหนึ่งให้แม่อยู่และหลังหนึ่งให้ยายอยู่ แล้วบอกยายก่อนเสียชีวิตว่าถ้าสร้างบ้านเสร็จจะรับยายไปอยู่ด้วยที่หนองคาย แต่ตอนนี้ความฝันทุกอย่างพังทลายหมดแล้ว

เจอแล้ว! รถ "น้องครีม" โยงแก๊งรถเถื่อนตลาดมืด ย้ำปมฆ่าชิงทรัพย์?