จากกรณีนางสาวฟาง (นามสมมติ) สาวระยอง ร้อง กัน จอมพลัง เพื่อขอความช่วยเหลือหลัง นายฟลุ๊ค แฟนเก่าที่เลิกกันมาปีกว่า ตามระรานไม่เลิก ตามเข้ามาทำร้ายร่างกายในที่ทำงาน เอาคีย์บอร์ดฟาด ต่อย-เตะหน้า หมัดเท้าเข่าศอกกระหน่ำมาที่หน้าและตัวนับไม่ถ้วน จนนอนจมกองเลือด ใบหน้าผิดรูป ที่ฝ่ายชายกล้าทำเพราะฝ่ายชายเป็นญาติกับเถ้าแก่ที่ทำงาน ก่อนหน้านี้เคยมางัดบ้านและบุกเข้ามาในบ้าน แต่ตนหนีเอาตัวรอดออกมาทัน หลังจากเกิดเหตุแจ้งความแล้ว แต่ฝ่ายชายยังใช้ชีวิตปกติ กลัวความไม่ปลอดภัย นั้น
ล่าสุด (13 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพกล้องวงจรปิดตัวที่ 1 บันทึกเหตุการณ์วันที่ 4 มิถุนายน 2567 เวลา 12.46 น. ระหว่างที่นายฟลุ๊ค มาหานางสาวฟางที่บ้านแต่นางสาวฟางได้พยายามขี่รถจักรยานยนต์หนีออกไปจากบ้าน
จากนั้นกล้องวงจรปิดตัวที่ 2 บันทึกภาพวันที่ 7 มิถุนายน 2567 มีชายใส่เสื้อสีแดงพยายามวิ่งมาบอกนางสาวฟาง ผู้เสียหายก่อนที่จะมีนายฟลุ๊ค ใส่เสื้อสีขาววิ่งตามเขามา แล้วใช้คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ตีไปที่หน้านางสาวฟางและทำร้ายร่างกายอีกหลายครั้ง ก่อนจะวิ่งออกไปจากที่ทำงานของนางสาวฟาง ซึ่งมีผู้ชายเสื้อสีแดงเข้าพยายามห้าม
ทั้งนี้ นางสาวฟาง เล่าว่า ตัวเองเลิกกับนายฟลุ๊คได้ปีกว่า เคยเรียนด้วยกันตอน ม.ปลาย แต่ไม่สนิท เห็นกันในโซเชียลจึงทักมาจีบและเริ่มคุยกัน แต่พอคบกันชอบทำร้ายร่างกายและมีอารมณ์แปรปรวน ชอบคิดเองเออเอง ว่าตนจะมีคนอื่นบ้าง บางครั้งตนเองเคยตื่นมาเข้าห้องน้ำช่วงกลางดึก หรือ ตี 1 ตี 2 ฝ่ายชายก็จะมาแอบฟัง ว่าแอบคุยกับใครหรือไม่ ซึ่งตัวเองคบกันมาได้เพียง 10 เดือนเท่านั้นก็ถูกทำร้ายร่างกาย เคยถูกเอาขวดซอสมาขว้างใส่จนแขนช้ำ มีใบรับรองแพทย์
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา นายฟลุ๊คเคยตบตี ทำลายข้าวของ มาเปิดประตูรถค้างไว้และดันค้างไว้จนพัง หรือเอาขวดเหล้าขว้างหน้าบ้านบ้าง โดยไม่เกรงใจแฟนใหม่ที่อยู่ภายในบ้าน ชอบมาหาเรื่องพูดคุยปกติ ก่อนจะค่อย ๆ ดึงเรื่องเก่า ๆ มาพูด ซึ่งนายฟลุ๊คเคยมาทุบกระจกรถแฟนใหม่จนพัง ขณะนั้นมีการแจ้งความกันแต่เรื่องจบไปแล้ว
จนกระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา นายฟลุ๊คบุกมาทำร้ายตัวเองที่ทำงาน ด้วยการเอาคีย์บอร์ดฟาดหน้า ถีบและทุบซี่โครง จนมีน้องที่ทำงานมาช่วย ซึ่งหลังเกิดเหตุเถ้าแก่ซึ่งเป็นญาติของผู้ก่อเหตุ มาคุยกับพ่อว่าจะดูแลความปลอดภัยให้แต่ความจริงก็เอือมระอาเหมือนกัน
โดยทำให้ตัวเองมีอาการมึนศีรษะ ปากอ้าได้ไม่เยอะ กินข้าวได้คำเล็ก ๆ ลุกนั่งเร็วจะเวียนหัวเพราะหินปูนในหูหลุดจากการกระแทกรุนแรง ขณะที่ฝ่ายชายใช้ชีวิตปกติ แต่ตัวเองไม่กล้าออกจากบ้านใช้ชีวิต ไม่กล้าออกไปไหนคนเดียวหวาดระแวงตลอดเวลา หากพี่สาวหรือพี่เขยไม่ว่างก็ไม่ได้ออกไป พ่อแม่ต้องมาส่งข้าวส่งน้ำให้
โดยนายฟลุ๊ค แฟนเก่าเคยบอกกับตัวเองว่าเสพยาเสพติด แต่ตัวเองไม่เคยเห็นกับตา นายฟลุ๊คมีโรคประจำตัว เป็นซึมเศร้าและไบโพลาร์ เวลาทำไม่ดีชอบเอาโรคมาอ้างเสมอ ว่าควบคุมตัวเองไม่ได้ พ่อแม่คนก่อเหตุก็ทราบ และอยากให้ฝ่ายชายถูกจัดการตามกฎหมาย เพราะญาติพี่น้องก็เอือมระอา ผู้ก่อเหตุสร้างปัญหาตลอด นายฟลุ๊คเคยเข้าไปในบ้านตนเอง ไปเปิดประตูห้องนอนตัวเองค้างเอาไว้ ตนก็ต้องรีบขี่จักรยานยนต์จากที่ทำงานกลับไป ซึ่งเข้าไปโดยไม่เกรงกลัวว่าจะเจอแฟนใหม่ด้วย
ทั้งนี้ นายฟลุ๊คเคยมีคดีรุมโทรมจนติดคุกมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อสิบปีก่อน ในวันนี้ตัวเองมาร้องเพื่ออยากให้ดำเนินการและทำให้เลิกยุ่งกับตัวเอง ที่ผ่านมาพยายามเลี่ยงและตัดปัญหาแล้ว ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุดไม่ว่าจะมากหรือน้อย หลังเกิดเหตุตำรวจบอกว่าติดธุระอยู่ จึงยังไม่สามารถดำเนินการได้
ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า พฤติกรรมแบบนี้ เหมือนไม่กลัวกฎหมาย หากคุมตัวเองไม่ได้ ในคุกมีคนควบคุมตัวให้แน่นอน หลังจากนี้ฝากให้ผู้กำกับการ สภ.เขาชะเมา ดูแลให้ เชื่อว่าได้รับความเป็นธรรม นายฟลุ๊ครับปากแล้ว หากผิดคำพูด ก็ระวังจะไม่ได้ประกันตัว ซึ่งตัวเองก็เตือนสติไปหลายอย่าง หากคุมอาการของโรค ไม่ได้ก็ไม่ควรกำเริบเฉพาะผู้หญิง คนที่รังแกคนอ่อนแอกว่า เป็นพวกกระจอก แต่ไม่เก่งจริง หากพฤติกรรมซ้ำรอย รับปากแต่ทำไม่ได้ก็จะติดคุกแบบตัวอย่างที่เคยเกิดมาก่อนหน้านี้
ขณะที่ต่อมา กัน จอมพลัง ได้ให้ผู้เสียหายต่อสายโทรศัพท์หา นายฟลุ๊ค ผู้ก่อเหตุ ไม่นานนายฟลุ๊กก็รับสาย ทาง กัน จอมพลัง ถามว่า ไปกระทืบเขามาใช่เปล่า นายฟลุ๊คบอก "ใช่ครับ" จะเลิกระรานได้เปล่า นายฟลุ๊คอ้างว่าก็ไม่มีแล้ว ที่ทำไปเพราะเจ็บแค้น ตอนเลิกกัน ผู้เสียหายก็ไปจีบแฟนใหม่ที่ร้านแม่ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เลิกกับตน อ้างว่าไปทำงาน
ตอนนี้รับปากว่าตนก็จะอยู่ของตนแล้ว กัน จอมพลัง สอบถามต่อว่า หลังจากนี้จะไม่ระรานได้หรือไม่ นายฟลุ๊คอ้างว่า ตนก็ดีกับผู้เสียหายตลอด ตนเคยทำงานที่เดียวกัน แต่ก็ออกจากงานเพราะไม่อยากมีปัญหาด้วย กันจึงถามต่อว่า ออกเพราะมีปัญหาเรื่องที่ทำงานด้วยหรือไม่ นายฟลุ๊คตอบว่า มีหลายเรื่อง และเงียบนึก ก่อนอ้างว่า ตนทำงานอยู่ห้องเดียวกันกับผู้เสียหายแล้วก็ทะเลาะกัน พอตนหนีมาอีกห้องหนึ่ง ก็ยังถูกตามมาด่าถึงอีกห้อง อ้างว่าเวลามีปัญหาตนเองจะเป็นฝ่ายหนี
ส่วนครั้งที่มีปัญหากัน ตนแค่ขอให้แฟนใหม่ลบโพสต์ที่ไปด่าตนเอง (เรื่องทุบกระจกรถพัง) แต่ผู้เสียหายก็บอกว่าไม่ใช่เรื่องของตนเอง จากนั้นพูดคุยกันต่อว่า ตอนนี้มีปัญหาเพิ่มรู้ใช่หรือไม่ นายฟลุ๊คตอบว่า "รู้ครับ" กันจึงถามต่อว่า ที่แค้นใจและทำแบบนี้หายแค้นไหม นายฟลุ๊คเงียบ ก่อนตอบว่า เรื่องไม่จบครับ
ซึ่งกัน จอมพลัง ก็ได้พูดให้ข้อคิดไปในช่วงท้าย กัน จอมพลัง ถามว่า อยากขอโทษหรือไม่ นายฟลุ๊คบอกว่า ตอนแรกสงสาร แต่ไม่พูดขอโทษ ถามว่ารู้สึกผิดไหม ก็รู้สึกผิด รับปากว่าจะไม่ไประรานอีก เมื่อ กัน จอมพลัง บอกกับนายฟลุ๊คว่า หากรับปากแล้วไม่ทำตามที่พูด อาจไม่ได้รับการประกันตัว เพราะฟลุ๊คอยากมีเหตุผลของตัวเอง นายฟลุ๊คจึงบอกว่า ผิดไปแล้ว อยากขอโทษและสงสาร