จากกรณีผู้เสียหาย ชาย 1 หญิง 2 เข้าร้องเพจ สายไหมต้องรอด ในกรณีพระมีการหลอหกลวงเข้าลักธิถวายตัว หลังจากมีความศรัธทรานับ 10 ปี พร้อมมีการให้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวอีกด้วย และยังมีการเรียกเหล่าคนสนิทร่วมสัมพันธ์ ตลอดระยะปี 2554-56 จนทำให้ผู้เสียหายทั้ง 3 คน ทนไม่ไหวตัดสินออกมา และต้องเข้ารักษาอาการนานถึง 2 ปี จนดีขึ้น ต่อมา ทางฝั่งผู้ถูกกล่าวหา ได้มีการส่งหลักฐาน ภาพและคลิปของผู้เสียหาย เพื่อชี้แจงว่า ในบริบทที่เกิดขึ้นนั้น มาจากความสมยอมไม่ได้เกิดจากการโดนบังคับ พร้อมกับยังมีการให้ข้อมูลว่า เป็นเรื่องของการขัดผลประโยชน์ของวัตถุมงคล มูลค่าหลาย 10 ล้าน
ซึ่งในวันนี้ (13 มิ.ย. 2567) ทางด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดู พร้อมทีมงาน พาหญิงผู้เสียหาย 3 คน เข้าแจ้งความที่ สน.คันนายาว ทั้งนี้ นางสาวฟ้า (นามสมมติ) ตามที่ตนเคยออกมาเปิดเผยว่า ฝั่งสำนักสงฆ์มีคลิปและภาพของตนเอาไว้และตนก็กลัวว่าวันหนึ่งพวกเขาจะนำผ้าเหล่านี้มาเปิดเผย ก็ไม่นึกว่าวันนี้จะมาถึง ตนรู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าพวกเขาจะนำคลิปและภาพออกมาตามที่ตนกังวลและกลัวไว้จริง ๆ
ซึ่งที่มาของคลิปดังกล่าวนั้น อดีตพระคนนี้จะไลน์เข้ามาในแชตกลุ่ม เพื่อบังคับให้ตนถ่ายคลิปและวิดีโอคอลตามที่พวกเขาต้องการเพื่อนำไปช่วยตัวเอง โดยเธอยืนยันว่าภาพที่ปรากฏในสื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่งนั้นเป็นภาพตัดต่อ เพราะถ้าเปิดภาพเต็มจริง ๆ ออกมา จะเห็นว่า มีมุมภาพเล็ก ๆ คล้ายเป็นการวิดีโอคอล ซึ่งภาพเล็กดังกล่าวนั้นก็คือตัวอดีตพระที่กำลังวิดีโอคอลกับตนและกำลังช่วยตัวเองระหว่างรับชม โดยอดีตพระจะเป็นผู้วิดีโอคอลมาหาตนเอง อ้างว่าเพื่อเป็นการดึงพลังทางไกล
พร้อมกันนี้ ยังบังคับให้ตนยิ้มระหว่างถ่ายคลิป โดยอ้างว่า เพื่อให้ท่านเทพคุรุที่อดีตพระอ้างว่าจะต้องนำคลิปไปถวายนั้นได้ชมอย่างมีความสุข มิเช่นนั้นจะไม่บังเกิดพลัง ซึ่งตนก็ต้องฝืนยิ้มทำไปโดยไม่เต็มใจตามที่อดีตพระสั่งการมา ถ้าตนไม่ยิ้ม อดีตพระก็จะสั่งให้ยิ้มหรือถ่ายแก้ส่งกลับไปใหม่ ซึ่งตลอดที่ผ่านมา ตนจำเป็นต้องทำและคิดแต่เพียงแค่ว่า มันเป็นแค่เป็นเพียงสิ่งสมมติ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ร่างกายไม่ใช่ของเราและทุกครั้งก็ต้องปรับอารมณ์
ส่วนภาพถ่ายเปลือย 3 คนนั้น เป็นการที่อดีตพระวิดีโอคอลหาบังคับให้พวกตนทั้ง 3 คนมีเพศสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างวิดีโอคอล ซึ่งทุกครั้งพวกตนทั้ง 3 คนก็จะต้องมาพูดคุยกันว่าโอเคไหม ถ้าโอเคก็ทำตามที่อดีตพระสั่ง คิดแค่ว่าทำให้เขาได้พลังดีขึ้นก็พอ โดยทุกครั้งที่วิดีโอคอลอดีตพระก็มักจะถ่ายที่ใบหน้าของเขา หรือถ่ายที่อวัยวะเพศขณะช่วยตัวเอง ซึ่งยืนยันว่า เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่มีการวิดิโอคอลหากัน ซึ่งอดีตพระคนนี้ยังเคยส่งภาพของบุคคลอื่นในลักษณะของการเปลือยเปล่าระหว่างทำพิธีแบบไม่เห็นหน้า เหมือนเป็นการเชิงข่มขู่และบอกกับตนว่า การทำพิธีแบบนี้คือเรื่องปกติ
ส่วนเรื่องที่ฝั่งสำนักสงฆ์ออกมาตอบโต้ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ว่า ที่ผู้เสียหายออกมาพูดเรื่องนี้เป็นเพราะความขัดแย้งทางธุรกิจ ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะเรื่องนี้อยู่ในชั้นศาลอยู่แล้ว สุดท้ายอยากขอร้องคนที่เห็นคลิปดังกล่าว อย่าส่งต่อหรือเผยแพร่ เพราะถือว่าเป็นเรื่องผิดพลาดของตนที่เกิดขึ้นมาแล้ว และเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต ตนไม่อยากให้ครอบครัวหรือคนรู้จักมามองตนในทางที่เลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว ตนกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะมีคลิปที่เลวร้ายมากกว่านี้ออกมาเปิดเผยอีก ถือเป็นเรื่องที่โหดร้ายกับตนอย่างมาก
ทางด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า เนื่องจากตนมีพยานหลักฐานเป็นแชตกลุ่มไลน์ที่อดีตพระคนนี้ระบุชัดเจนว่า ต้องการให้ผู้เสียหายทำอะไร รวมทั้งอดีตพระวิดีโอคอลหาผู้เสียหายเอง โดยอ้างว่า หากไม่ทำตามที่อดีตพระคนนี้บอกไป ท่านคุรุจะโกรธ รวมทั้งยังบังคับไม่ให้ผู้เสียหายตั้งคำถามหรือสงสัยใด ๆ ต้องเชื่อเท่านั้น ซึ่งตนมองว่า ถ้าสถานีโทรทัศน์ช่องนั้นโทร. มาสอบถามตน ตนก็พร้อมที่จะเปิดเผยแชทดังกล่าวให้ จะได้ไม่ต้องนำคลิปไม่เหมาะสมนั้นออกมาและกลายเป็นการข่มขืนซ้ำเหยื่อ
นอกจากนี้ คลิปที่สถานีโทรทัศน์ช่องนั้นนำมาเปิดเผยนั้น มีการปิดมุมบนขวาเอาไว้ ซึ่งมุมดังกล่าวคือภาพวิดีโอคอลฝั่งของอดีตพระ ตนเลยไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องเซ็นเซอร์ปิดตรงนั้น ทำไมถึงไม่ปล่อยออกมาเต็ม ๆ ถ้าปล่อยมุมนั้นออกมาจะได้เห็นชัดเจนว่า นั่นคือภาพวีดีโอคอลโดยที่อดีตพระคนนั้นก็เปิดกล้องอยู่ด้วย
ส่วนกรณีของการยึดทรัพย์ของอดีตพระระหว่างบวชนั้น นายเอกภพชี้แจงว้า ตนไมเคยระบุว่า จะไปดำเนินการยึดเอง บอกจะเพียงแค่ว่า ตามขั้นตอนของกฎหมาย สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะต้องเข้าไปตรวจสอบ ทรัพย์สินที่อดีตพระรายนี้มีระหว่างที่ครองสมณเพศ เพราะเนื่องจากจะต้องส่งคืนทรัพย์สินดังกล่าวสู่ศาสนา โดยเฉพาะในเรื่องที่อดีตพระคนนี้เคยทำวัตถุมงคลขาย ไม่ว่าจะมีจำนวนเงินเท่าไร ก็ต้องส่งคืนวัดตามจำนวน ซึ่งอันนี้ก็ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายตรวจสอบต่อไป ไม่เกี่ยวกับตน เพียงแค่เล่าให้นักข่าวฟังเท่านั้น
นายเอกภพยังได้ชี้แจงผ่านไปยังสังคมว่า มีหลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมผู้เสียหายถึงเชื่อแบบนั้น ตนรู้สึกว่าหลายคนที่คอมเมนต์แบบนี้นั้นยังคงมีความเชื่อในเรื่องของการขอหวยอยู่เลย นายเอกภพจึงบอกไปว่านี่มันคือความเชื่อ อยากให้ทุกคนมองถึงความกล้าหาญของผู้เสียหายคนนี้ที่กล้าออกมาเปิดปลงเรื่องดังกล่าว เพราะเรื่องนี้ทำให้ศาสนาเสื่อมเสียและไม่สมควรที่จะเกิดขึ้นอย่างยิ่ง ยังมีอีกหลายคนที่อาจจะหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อของลัทธิประหลาดลัทธินี้ ซึ่งการที่สถานีโทรทัศน์ดังกล่าวนั้นเปิดเผยคลิปเหล่านั้นออกไป ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม กลายเป็นการข่มขืนเหยื่อซ้ำ เป็นไปตามที่ฝั่งสำนักสงฆ์เคยข่มขู่ผู้เสียหายและเมื่อคลิปดังกล่าวหลุดออกมา อาจจะทำให้เหยื่อรายอื่น ๆ ไม่กล้าออกมา เพราะกลัวถูกเปิดเผยคลิป ทั้ง ๆ ที่ตนและผู้เสียหายต้องการให้เหยื่อออกมาพูดเรื่องนี้เพื่อเปิดปมความจริง
ทั้งนี้สาเหตุที่มาแจ้งความ สน.คันนายาว เพราะมีบ้านเช่าของผู้ก่อเหตุอยู่ในท้องที่นี้ด้วยและน้องผู้เสียหายเคยไปบ้านของผู้ก่อเหตุในพื้นที่คันนายาวด้วย นอกจากเคยพบเจอกันที่ จ.เพชรบูรณ์ แล้ว จึงถือว่ามีสถานที่เกิดเหตุ 2 ที่คือที่คันนายาวและที่เพชรบูรณ์ ซึ่งในส่วนการตั้งข้อหานั้น ต้องรอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดก่อน แต่ตนเชื่อว่า อาจจะสามารถดำเนินคดีในเรื่องการข่มขืนได้ เพราะถือว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศโดยอาศัยความอ่อนด้อยทางจิตใจ ตนเชื่อว่า ทางพนักงานสอบสวนจะสามารถตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ ได้หรือแม้กระทั่งการกู้วงจรปิดภายในบ้านหลังนั้น ก็เชื่อว่าจะสามารถทำได้เช่นเดียวกัน
สำหรับประเด็นบ้านเช่าของผู้ก่อเหตุที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น ผู้เสียหายเปิดเผยเพิ่มเติมว่า มีลักษณะของสำนักสงฆ์เช่นเดียวกัน มีลูกศิษย์ลูกหาเปิดเช่าเอาไว้เพื่อให้อดีตพระรายนี้มาอยู่ ซึ่งนอกจากตนเคยไปหาพระที่บ้านหลังนี้แล้ว ยังมีผู้หญิงคนอื่นเคยเข้าไปหาด้วยและถูกกระทำลักษณะแบบนี้เช่นเดียวกัน บางทีเขาจะลงมาจากเพชรบูรณ์มาอยู่บ้านนี้เกือบเป็นอาทิตย์ ลักษณะเป็นบ้านหลังใหญ่หรู มีรั้วรอบขอบชิด ตั้งอยู่ในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง เวลาจะมีคนเข้าออกก็ต้องมีบัตรแลกและได้รับอนุญาตทุกครั้ง
หลังจากให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแล้วเสร็จ ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย พร้อมด้วยทีมงานสายไหมต้องรอดก็ได้เข้าไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว และให้ปากคำข้อมูลเกี่ยวกับอดีตพระรายนี้อย่างละเอียดทั้งหมด เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีต่อไป
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ทางด้านของนายกิตภัต ซึ่งเป็นลูกศิษย์มือขวาของอาจารย์โอ ก็ได้ยอมเปิดใจกับช่อง 8 เป็นที่แรก ระบุว่า ตนนั้นเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์โอมานานกว่า 19 ปีแล้ว ส่วนผู้หญิงที่ชื่อว่านางสาวฟ้า (นามสมมติ) นั้นก็เพิ่งมาอยู่ที่สำนักสงฆ์ได้ประมาณ 10 ปี เริ่มแรกเลยคือนางสาวฟ้าเข้ามาในฐานะของลูกศิษย์ธรรมดาคนหนึ่ง แต่ประจวบเหมาะพอดีที่ในช่วงนั้นผู้ดูแลร้านวัตถุมงคลต้องการที่จะลาออกไปพักผ่อน พระอาจารย์จึงมอบหมายให้นางสาวฟ้าเป็นผู้ดูแลขายวัตถุมงคลแทน ซึ่งที่ผ่านมานางสาวฟ้าก็ดูแลร้านเป็นอย่างดี
โดยหลังจากขายวัตถุมงคลได้ก็จะต้องนำเงินมาถวายให้พระอาจารย์โอทุกครั้ง จนอยู่มาวันหนึ่งนางสาวฟ้าก็ได้ขอลาออกจากการเป็นลูกศิษย์และขอฝากตัวเป็นลูกสาวแทน จากนั้นก็ใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจในการขอดูแลเงินทั้งหมดที่ได้จากการขายวัตถุมงคล ซึ่งพระอาจารย์โอก็ได้อนุญาตตามคำขอ เพราะคิดว่านางสาวฟ้าก็เปรียบเสมือนลูกสาวคนหนึ่ง
ส่วนประเด็นที่นางสาวฟ้า ออกมาร้องเรียน (ทิ้งเวลาไปนานกว่า 2 ปี จึงจะออกมาร้องเรียน) นายกิตภัตก็ยืนยันว่า ไม่รู้และไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงออกมาร้องเรียน ซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนางสาวฟ้าและพระอาจารย์โอ ตนก็ไม่สามารถให้คำตอบแทนได้ เพราะตนเชื่อว่าความคิดของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ตนไม่รู้ว่าทั้งตัวของพระอาจารย์หรือนางสาวฟ้านั้นกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าถามความรู้สึกส่วนตัว นายกิตภัตบอกว่า "ตัวเขาคงจะรู้ตัวเองดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ นานาจิตตังครับ สำหรับคนที่ดูข่าวก็อยากให้ดูกันยาว ๆ ว่าเหตุการณ์ที่แท้จริงมันคืออะไร"
จากนั้นนักข่าวก็ถามถึงเหตุผลที่ทำให้พระอาจารย์โอลาสิกขา นายกิตภัตก็เผยว่า พระอาจารย์นั้นเป็นคนที่มีแนวความคิดว่า "หากโลกติเตียนว่าเราไม่ดี เราก็ยังจะเคารพในคณะสงฆ์ ยังเคารพ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เราจึงจะไม่ทำตัวเป็นภาระของคณะสงฆ์หรือศาสนาเลย" ซึ่งขอยืนยันว่าพระอาจารย์โอไม่ได้ถูกจับสึก แต่เป็นการขอลาสิกขาเพื่อไม่ให้ทางคณะสงฆ์ต้องลำบากใจ ส่วนสภาพจิตใจของพระอาจารย์โอหลังจากเกิดกระแสข่าวขึ้น นายกิตภัตก็เผยว่า ในวันที่พระอาจารย์ได้ลาสิกขา พระอาจารย์ก็ได้ออกจากพื้นที่ไปโดยที่ไม่บอกใครว่าจะไปไหนหรือไปอย่างไร ตนจึงไม่สามารถตอบได้ว่าตอนนี้พระอาจารย์รู้สึกอย่างไรบ้าง
ส่วนที่มีหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงคำว่า "ลัทธิถวายตัว-เซ็กซ์หมู่" เนื้อแท้ของตนก็จะยังคงเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวของพระอาจารย์โอเหมือนเดิม และตนก็มองว่าสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เวรัมภาเพียงแค่พัดพาความทุกข์มาให้เรามีหน้าที่เพียงต้องฝึกสติของตัวเองให้ดี และตอนนี้ตนเชื่อว่าพระอาจารย์โอคงไม่ได้โกรธหรือเกลียดนางสาวฟ้าเพราะนางสาวฟ้าก็เป็นลูกศิษย์ และลูกสาวของพระอาจารย์ไปแล้ว ส่วนตัวตนเองก็ไม่รู้สึกโกรธเพราะตนก็มองว่านางสาวฟ้าเปรียบเสมือนพี่สาวของตัวเอง
นอกจากนี้ นายเอกภพได้ส่งแชตหลักฐานที่พระอาจารย์โอส่งแชตมาหานางสาวฟ้า ทุกครั้งที่ถ่ายคลิปวิดีโอคอลร่วมเพศมาจะต้องทำหน้ายิ้มมาด้วย โดยข้อความหนึ่งที่พระอาจารย์โอส่งมาระบุว่า ส่งรูปหรือคลิปฟิน ๆ มาให้ดูหน่อย จะเอาไปเปิดถวายครูเวลาสวด ถ้าคู่ที่สวิงกิ้งไม่เข้าใจเพราะอารมณ์ต้องเต็มใจ ไม่เช่นนั้นคุรุไม่โปรด ไม่ต้องรีบทำใจสบายได้ก่อน ไม่มีข้อกังขา ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ทำไปล้วนเต็มใจสุขใจ คุรุจึงประทาน ใด ๆ ในโลกล้วนไม่จีรัง ดังนั้นเรื่องของความเสียวนี่แหละมันน่าจดจำ ตายไปร่างกายนี้ก็ไม่ได้ใช้แล้ว อวัยวะตรงนั้นก็ไม่ได้ใช้แล้ว ดังนั้นตอนนี้ต้องใช้มันให้คุ้ม