แอดมินเพจนิรมิตเทวาจุติ ไล่ฟ้องสื่อ อ้างใส่ร้ายเด็ก 8 ขวบ

วันที่ 14 มิ.ย. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบังคับการปราบปราม ทีมแอดมิน “นิรมิตเทวาจุติ” เกือบ 20 คน เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโลยี (ปอท.) ให้ดำเนินคดีกับ 4 สื่อ ที่มีการนำเสนอเรื่อง "ลัทธิเชื่อมจิต" ในรายการทีวีดัง รวมถึงเจ้าของช่องที่ควบคุมการออกอากาศ พร้อมกับกลุ่มบุคคลต่างๆ ที่ไปออกรายการทีวีและให้สัมภาษณ์สื่อ เกี่ยวกับลัทธิเชื่อมจิต

โดยแอดมินทั้งหมด 18 คนเดินทางเข้าแจ้งความและสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาอ่านแถลงการณ์ ถึง 4 รายการ จาก 4 ช่องชื่อดัง ว่ามีการกระทำความผิดตามข้อหา การนำข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์, ทารุณกรรมเด็กโดยการเผยแพร่ภาพเด็กชายวัย 8 ขวบ อันมีเจตนาทำให้เสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หลายกรรมต่างวาระกัน

ซึ่งอ่านแถลงการณ์ประมาณ 10 นาที จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ว่า 4 รายการมีรายการใดบ้าง แอดมินตอบว่าไม่สามารถตอบได้ให้ไปสอบถามกับทนายธรรมราช และเมื่อถามว่า รายการดังกล่าวมีตรงกับหัวไมค์ที่สัมภาษณ์หรือไม่ ก็ไม่สามารถตอบได้เช่นกัน บอกแค่ว่า การมาร้องทุกข์ครั้งนี้ ไม่ได้มาแจ้งความในฐานะตัวแทนเด็กชายวัย 8 ขวบ แต่เป็นกลุ่มแอดมินเท่านั้นที่มาแจ้งความ จำนวน 18 คน และรายชื่อแอดมินอีก 34 คน ซึ่งเด็กชายวัย 8 ขวบ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการแจ้งความครั้งนี้

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปหาทนายธรรมราช ระบุว่า สำหรับ 4 รายการยังไม่สามารถเปิดชื่อได้ เพราะอยู่ระหว่างการดำเนินคดี เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการนำไปตั้งคดีใหม่ และนำไปสู่การฟ้องร้องอีก ทั้งนี้ประเด็นที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีกลุ่มบุคคลไปออกรายการทีวี ประมาณ 4 รายการ ที่มีลักษณะการเผยแพร่ซ้ำๆ ในข้อมูลเดิมๆ เป็นการใช้ข้อมูลลักษณะกดดันเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรามีการเก็บข้อมูลย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ถึงปัจจุบัน ซึ่งมีข้อมูลว่ามีการเสนอเท็จในหลายประเด็น และช่วงหลังจะมีกลุ่มที่เคยร่วมงานหรือที่เคยจัดงานร่วมกับน้องและมีเหตุต้องออกไป ซึ่งตอนนั้นไม่ได้มีปัญหาแต่วันนี้กลับไปออกรายการต่างๆ มีการใส่ความและให้ข้อมูล รวมถึงมีการยุยงปลุกปั่น ถึงขั้นจะก่อม็อบที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และที่หนักสุดคือเหตุการณ์ที่สน. ทองหล่อ ที่มีการคุกคามเด็ก ทั้งที่มีการเดินทางไปตามกระบวนการของกฎหมาย และก่อนหน้านี้มีการร้องดำเนินคดี กับทีมแอดมินทำให้เกิดความเดือดร้อน จึงต้องออกมารักษาสิทธิ์ และแจ้งความคดีกับคนที่ทำให้ได้รับความเสียหาย

สำหรับข้อหาที่แจ้งความในวันนี้ ทนายธรรมราช ระบุว่า ส่วนของรายการก็คือพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ขณะที่ในส่วนของเจ้าของช่องจะเป็นพ.ร.บ.กิจการกระจายเสียงฯ และพ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก ที่เกี่ยวโยงกับการทารุณกรรมเด็ก ซึ่งที่ผ่านมามีผลกระทบต่อจิตใจ ถือว่าเข้าข่ายการทารุณกรรมได้เช่นกัน ซึ่งไม่ได้หมายถึงการไปทำร้ายร่างกายแต่เพียงอย่างเดียว

ส่วนการแจ้งความครั้งนี้เพื่อไม่อยากให้สื่อถูกใช้เป็นเครื่องมือ ทำลายผู้อื่น และคดีความอยู่ในชั้นศาล โดยวันที่ 17 มิถุนายนนี้ จะมีการนัดไต่สวนในประเด็นที่พม. ได้ยื่นเรื่องไว้ แต่ยังไม่หยุดที่จะนำคำพูดและเรื่องเดิมๆ ออกสื่อ ทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องราวเกิดความเข้าใจผิด และในชั้นนี้จะยังไม่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย แต่จะดำเนินคดีทางอาญาเท่านั้น

ทั้งนี้ยอมรับว่ากลุ่มดังกล่าวมีการพูดคุยกับเด็กชายวัย 8 ขวบ เพราะแอดมินหรือญาติธรรมมีความนับถือ โดยให้น้องเป็นผู้กำหนดวันในการมาดำเนินคดี แต่ยืนยันว่าผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษในวันนี้ไม่ใช่น้อง หรือครอบครัว แต่เป็นกลุ่มผู้ที่เสียหายที่ถูกนำไปออกสื่อและกล่าวหาว่าเป็นแอดมินร่วมกระบวนการหลอกลวงประชาชน ทั้งที่เขามาเป็นจิตอาสา ร่วมเผยแพร่คำสอน

“พร้อมย้ำว่าตนเองไม่ได้มีปัญหากับสื่อมวลชน แต่มีเพียงสี่รายการที่ตนมองว่าเป็นคู่กรณี และทำสื่อเพื่อผลประโยชน์ของตนเองไม่ใช่การทำสื่อเพื่อเสนอข่าวตามปกติ และขณะนี้จะยังไม่มีการฟ้องรายการใดเพิ่มเติม” ทนายธรรมราช กล่าว