"อยากได้ ไปฟ้องเอา" คุณตา วัย 78 ปีร่ำไห้ ถูกลูกสาวแอบนำเงินขายที่ดิน 4.6 ล้านบาทไปใช้หมดเกลี้ยง

วันที่ 15 มิ.ย. 2567 จากกรณีที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊ค ชื่อ "Benz Naja" ได้โพสต์ภาพและรายละเอียดขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ให้ช่วย นายสนิท วงษ์ดาว หรือ "คุณตาตุ๋ย" วัย 78 ปี อาศัยอยู่ที่ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ภายหลังถูกลูกสาว แอบนำเงินที่ได้จากการขายที่ดิน จำนวน 4.6 ล้านบาท ไปใช้จนหมด ไม่เหลือให้ผู้เป็นพ่อเก็บไว้ใช้รักษาสุขภาพยามแก่แม้แต่บาทเดียว

นายธนศักดิ์ เพ็งเหล็ง อายุ 27 ปี หรือ เบนซ์ เจ้าของเฟซบุ๊ค ที่โพสต์เรื่องราวและคอยช่วยเหลือ เล่าว่า คุณตาตุ๋ย ได้อธิบายเรื่องราวไว้ว่า เขามีที่ดินอยู่ผืนหนึ่ง เป็นที่ดินสืบทอดกันมาต่อๆกันมาถึงปัจจุบันและมีชื่อคุณตาเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งมีความตั้งใจว่าจะยกที่ดินให้ลูกๆ แต่เนื่องจากการรถไฟขอเวนคืนซื้อที่ดินของตาตุ๋ย จึงตัดสินใจขายที่ดินผืนนี้ เพื่อนำเงินที่ขายได้มาแบ่งให้ลูก 3 คนเท่าๆกัน และเก็บไว้ใช้เองส่วนหนึ่งยามแก่ ไม่เป็นภาระลูกหลาน

ทว่า มารู้ทีหลังว่า การรถไฟได้ทำการซื้อขาย และจ่ายเงินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตาตุ๋ยจึงได้ถามลูกสาวคนเล็ก ที่ได้รับมอบหมายให้ช่วยจัดการเรื่องซื้อขายที่ดิน ว่า เงินที่ขายได้อยู่ที่ไหน แต่ได้คำตอบกลับมาว่า "เงินหมดแล้ว"

จึงทำให้คุณตาตุ๋ย เกิดความรู้สึกไม่พอใจและต่อว่าลูกสาว ว่า ทำแบบนี้ได้อย่างไร ทั้งที่เคยบอกแล้วว่าจะนำเงินที่ได้มาแบ่งกันทุกคน และเก็บไว้เองส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงทะเลาะกันและทำให้ลูกสาวคนนี้ ไม่พอใจเก็บข้าวของเครื่องใช้ของพ่อออกจากบ้าน และพาพ่อขึ้นรถไปส่งที่บ้านลูกชายอีกคนของตาตุ๋น

เมื่อถึงบ้านได้เอาข้าวของของพ่อลงจากรถ และกลับไปโดยไม่มีการร่ำลาหรือทิ้งเงินให้พ่อ ทำให้ตาตุ๋ย อยู่ในสภาวะเกิดความเครียด นอนไม่หลับมากว่า 1 เดือน จนไม่กี่วันที่ผ่านมา ตาตุ๋ยได้ติดต่อไปพูดคุยกับลูกสาว และขอเงินส่วนหนึ่ง เพราะเห็นถึงความลำบากของคนเป็นลูกชาย-ลูกสาว คนที่ 1 และ 2 จึงทำให้ลูกคนที่ 3 ยิ่งไม่พอใจ และต่อว่าคนเป็นพ่อ อีกทั้งได้คำตอบว่า "ถ้าอยากได้ก็ ฟ้องเอา! ทำให้ตาตุ๋ยเสียใจเป็นอย่างมาก และนั่งร้องไห้ทุกครั้งที่กล่าวถึงเรื่องนี้

ล่าสุด ได้มีเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลหน้าพระลาน เจ้าหน้าที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เดินทางมาดูแลเรื่องสุขภาพและสวัสดิการอื่นๆ ให้กับ ตาตุ๋ย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หน้าพระลาน ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์รักษาความสงบเรียบร้อยอีกด้วย

นายธนศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนได้พยายามช่วยหาทางแก้ปัญหาทุกข์ใจให้กับ คุณตาตุ๋ย โดยโทรศัพท์ติดต่อลูกสาวชื่อ "ติ๋ม" ซึ่งมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ และสื่อมวลชนเป็นสักขีพยาน แต่ทั้ง 2 คน ไม่สามารถพูดคุยเพื่อหาข้อยุติเรื่องได้

ทั้งนี้ ทางลูกสาวอ้างว่า เงินที่ได้มาเอาไปใช้ลงทุนทำกิจการหมดแล้ว ไม่มีจะให้ ถ้าอยากได้ก็ต้องรอ จนตาตุ๋ยเกิดความโมโหจึงกล่าวประชดลูกสาวว่า "กูเนรคุณมึงสินะ"

อย่างไรก็ตาม นายธนศักดิ์ ยืนยันว่า การมาช่วยในครั้งนี้ ไม่ได้รู้จักคุณตาตุ๋ย เป็นการส่วนตัว แค่ต้องการหยิบยื่นความช่วยเหลือให้คนที่กำลังทุกข์ยาก และได้แนะนำให้คุณตา ไปลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ก่อน ส่วนประเด็นข้อสงสัยคือ ลูกสาวใช้วิธีการใด นำเงินของคุณตาที่การรถไฟโอนเข้าบัญชีธนาคารของคุณตา ออกไปโดยที่เจ้าของบัญชีไม่ทราบเรื่อง

ทั้งนี้ ตนได้ประสานงานกับทีมนักกฎหมาย เพื่อหาข้อพิรุธ และไม่ว่าใครจะถูกหรือผิด ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ตายืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่ยกเงินให้ลูกสาวคนเล็กเพียงคนเดียวแน่นอน

สำหรับ ที่ดินที่เกิดปัญหา พบว่า มีเอกสาร นส.3 ในพื้นที่ ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ทางการรถไฟ ต้องการเวนคืนมาใช้สำหรับสร้างทางรถไฟความเร็วสูง